ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับองค์กรพันธมิตร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) และพันธมิตรทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนกว่า150 หน่วยงาน จาก 7 เขตเศรษฐกิจ จัดงาน “มหกรรมนวัตกรรมการแพทย์และสุขภาพ (BCG Health Tech Thailand 2021)” ระหว่างวันที่ 8-9 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา
งานดังกล่าว จัดขึ้นที่ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในรูปแบบไฮบริด อีเวนต์ (Hybrid Event)และจัดในรูปแบบออนไลน์เสมือนจริงด้วยเทคโนโลยี 3D เต็มรูปแบบบนช่องทาง www.healthtech-thailand.com ขานรับนโยบายโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG Economy Model เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในประเทศอย่างทั่วถึง
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า งานมหกรรมนวัตกรรมการแพทย์และสุขภาพ (BCG Health Tech Thailand 2021) มีความน่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะการบรรยายพิเศษของผู้ทรงคุณวุฒิในวงการวิทยาศาสตร์และวงการแพทยศาสตร์สาธารณสุข คือ ศ.เกียรติคุณ ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการของ World Health Organization (WHO) Science Council ปาฐกถาพิเศษ “วิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพ บทบาทที่เป็นไปได้ของสภาวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก”และ ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธาน BCG สาขาเครื่องมือแพทย์ ปาฐกถา “BCG Model สาขาเครื่องมือแพทย์ ความท้าทายของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ไทย”
นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการการแสดงสินค้านวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ อาหารและสาธารณสุข รวมทั้งเครื่องใช้และเครื่องอุปโภค-บริโภคซึ่งเกิดจากการวิจัยพัฒนา เทคโนโลยีและนวัตกรรม ทำให้เป็นนวัตกรรมที่มีมูลค่าสูงขึ้น สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการและสร้างความมั่นคงด้านสาธารณสุขของไทยเป็นอย่างมาก
“ผู้ประกอบการด้านอาหารสุขภาพและเครื่องมือแพทย์ที่มาในงานBCG Health Tech Thailand 2021 นี้ ผมมองว่าพวกเขาไม่ได้ทำแค่ธุรกิจแต่พวกเขากำลังช่วยสร้างชาติ หากเราไม่มีธุรกิจแบบนี้ประเทศไทยจะไม่มีวันที่จะขยับไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วได้เลย ถ้าเราเพียงแต่ทำด้านสินค้าเกษตรพืชผลต่างๆ เราอาจจะเป็นได้แค่ประเทศรายได้ปานกลาง ดังนั้น การมีธุรกิจนวัตกรรมด้านการแพทย์จำนวนมากถือเป็นเรื่องที่ดี และเป็นที่น่าชื่นใจ คือ พวกเขาขายดีสู้กับนวัตกรรมต่างชาติได้สบายมาก มีทั้งเทคโนโลยีขั้นสูงและเทคโนโลยีขนาดกลาง ที่สามารถแข่งราคากับตลาดโลกได้” รมว.อว. กล่าว
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามกระทรวง อว.พร้อมให้การสนับสนุนภาคธุรกิจที่ผลิตนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์จากการวิจัยอย่างเต็มที่ เพราะเป็นงานที่ต้องขับเคลื่อนไปด้วยกัน ซึ่งกระทรวง อว. มีหน้าที่สนับสนุนนโยบายและเดินหน้ายุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมในกลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพตามนโยบาย BCG Economy Model เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ทั้งนี้มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ประเทศไทยจะไปสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการแพทย์ในอาเซียนในปี 2570
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า การจัดงาน BCG Health Tech Thailand 2021 ครั้งนี้ทางสวทช. จัดเต็มพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. ซึ่งเป็นนิคมวิจัยสำหรับเอกชนแห่งแรกของประเทศ และจัดควบคู่กับรูปแบบออนไลน์เสมือนจริงด้วยเทคโนโลยี 3D VirtualExhibition เต็มรูปแบบตลอด 12 เดือน บนช่องทาง www.healthtech-thailand.comเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจบนโลกเสมือนจริงแบบไร้ขีดจำกัดให้แก่นักลงทุนผู้ประกอบการและลูกค้าจากทั่วโลก ถือว่าเป็นมหกรรมนวัตกรรมการแพทย์และสุขภาพครั้งแรกในรูปแบบไฮบริด อีเวนต์ (Hybrid Event) หลังรัฐบาลเปิดประเทศเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อเดินหน้าเศรษฐกิจไทยในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ (New Normal)
การจัดงานดังกล่าวจะเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ที่ผู้ประกอบการด้านสุขภาพและการแพทย์สามารถเข้าถึงนวัตกรรมทางการแพทย์กว่า100 ผลงาน เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ล่าสุดตามแผนขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนอุตสาหกรรมการแพทย์ในประเทศลดการนำเข้าจากต่างประเทศ
ทั้งนี้มี 2 แผนหลักเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์ในอาเซียน (Medical Hub) ในปี 2570 ประกอบด้วย 1.การผลิตยาและวัคซีน ซึ่ง ศ.คลินิกเกียรติคุณนายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร ประธาน BCG สาขายาและวัคซีน ดูแผนพัฒนาเรื่องการพัฒนาวัคซีทั้งโควิด-19 และโรคประจำถิ่นอื่นๆ เช่นวัคซีนไข้เลือดออก รวมถึงการวิจัยและพัฒนายาฟาวิพิราเวียร์ต้านโรคโควิด-19 ร่วมกับภาคเอกชนและองค์กรเภสัชกรรม (อภ.) ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพและองค์ความรู้ในการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำได้
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์
และ 2.การผลิตเครื่องมือแพทย์และวัสดุฝังในร่างกายมนุษย์ ซึ่งนักวิจัยและผู้ประกอบการมีความสามารถและศักยภาพในการผลิตใช้ในประเทศรวมทั้งส่งออกไปยังต่างประเทศเป็นที่ยอมรับ โดยธุรกิจด้านสุขภาพและการแพทย์จะเป็นธุรกิจใหม่ที่เติบโตขึ้นในโลกหลังโควิด-19 และถือเป็น 1 ใน 4 กลุ่มอุตสาหกรรมภายใต้นโยบาย BCG ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ
“การจัดงานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ สวทช. ในการใช้ความรู้ ความสามารถของนักวิจัย เชื่อมโยงกับหน่วยงานวิจัยอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศในการเร่งขีดความสามารถในการนำนวัตกรรมออกสู่เชิงพาณิชย์ เพื่อให้เกิดการลงทุนมากขึ้นและสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ โดยเฉพาะเครื่องมือแพทย์ เป็นหนึ่งในสาขาสำคัญของ BCG ที่รัฐบาลต้องการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub) ภายในปี 2570 ซึ่งต้องการผลักดันให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในการสร้างความยั่งยืนให้แก่ประเทศ ด้วยการสนับสนุนให้มีการพัฒนาเครื่องมือแพทย์ที่มีมาตรฐานเทียบเท่าสากลและรองรับการเข้าสู่สังคมสูงวัยของประเทศไทย” ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าว
ดร.ณรงค์กล่าวต่อว่า สำหรับกิจกรรมไฮไลต์ที่น่าสนใจภายในงานมีอยู่มากมาย อาทิ การสัมมนาในหัวข้อพิเศษมากกว่า 30 หัวข้อจากวิทยากรระดับประเทศ อาทิ เสวนา “3 สุดยอดเคล็ดเครื่องมือ”ในการต่อสู้ COVID จากนักวิจัย 3 สถาบันวิจัยชั้นนำของประเทศ และปาฐกถา “พัฒนาวัคซีนอย่างไรให้เท่าทันการกลายพันธุ์ของไวรัส”โดย ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. ซึ่งทีมวิจัยไบโอเทคสวทช. กำลังอยู่ระหว่างการทำวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบพ่นจมูกเพื่อเตรียมการทดสอบในมนุษย์ภายในปี 2565 นี้อีกด้วย
ส่วนการจัดนิทรรศการมีบูธจัดแสดงนวัตกรรมพร้อมใช้ออนไซต์50 บูธ ออนไลน์ 300 บูธ บริการจับคู่ธุรกิจแบบ one on one กับเจ้าของธุรกิจกว่า 160 บริษัท พร้อมเวที Open Innovation และ Innovation Pitching เพื่อให้ Start up ได้ระดมทุนในการพัฒนานวัตกรรมออกสู่เชิงพาณิชย์
นอกจากนั้นแล้วยังเปิดห้องให้คำปรึกษาแนะนำธุรกิจนวัตกรรมจากภาครัฐและผู้เชี่ยวชาญ และสำหรับผู้เข้าร่วมงานแบบออนไซต์ ลงทะเบียนรับสิทธิ์ฟรี! ความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลสูงสุด 100,000 บาท จากทิพยประกันภัย ระยะเวลา 30 วัน (นับจากวันที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ ระหว่างวันที่ 8-9 ธันวาคม 2564) จำกัด 1 ท่าน ต่อ 1 สิทธิ์ นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชั่นพิเศษภายในงานทั้งอาหารและสินค้าเพื่อสุขภาพ ลดสูงสุด 25% กว่า 200 ผลิตภัณฑ์
สำหรับการจัดงาน “มหกรรมนวัตกรรมการแพทย์และสุขภาพ (BCG Health Tech Thailand 2021)” ในครั้งนี้ เป็นความพยายามในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์ในอาเซียน ภายในปี 2570 ซึ่งหากทำได้สำเร็จตามเป้าหมาย ก็จะส่งผลดีต่อประเทศไทยอย่างมหาศาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี