"ไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้ง" เป็นสินค้าเกษตรดาวรุ่งที่คุณวรรณบดี รักษา เกษตรกรจังหวัดแพร่ เลือกมาทำรายได้ พร้อมกับน้อมนำ "เกษตรพอเพียง" ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช (รัชกาลที่ 9) มาใช้กับการทำสวนไผ่ โดยเนรมิตพื้นที่เพียง 1 ไร่เศษปลูกไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้ง พร้อมกับสวนฝรั่ง และ ผักสวนครัว
คุณวรรณบดี บอกว่า "ผมเริ่มออกจากงานประจำ ที่จังหวัดเชียงใหม่ มาเป็นเกษตรกรเต็มตัว ตั้งแต่ปี 2549 โดยซื้อไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้งมาปลูก 200 ต้น ฝรั่ง 200 ต้นซื้อผักหวานป่ามาปลูก เพื่อให้สวนเกิดความหลากหลาย พอผ่านไปประมาณปีครึ่งก็เริ่มขายหน่อไม้ ขายฝรั่ง ขายผักหวานป่า เห็นว่าหน่อไม้ก็น้ำหนักดี ไม่กี่หน่อก็ 1 กิโลกรัมและโดยเฉพาะคนทางเหนือ เขาชอบกินหน่อไม้ เราก็เลยนำมาปลูก 200 ต้น"
คุณวรรณบดี บอกด้วยว่า ปัจจุบันหน่อไม้พันธุ์ไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้งให้ราคาถึงกิโลกรัมละ 60 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ซื้อขายกันหน้าสวน เพราะเป็นพันธุ์ที่ไม่มีสารไซยาไนด์ที่ทำให้เกิดอาการปวดข้อ ปวดขา รวมทั้งยังมีการปลูกโดยวิธีอินทรีย์ ปลอดสารเคมี 100 ทำให้ยังมีลูกค้ามาซื้อไปรับประทานอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เพราะเป็นไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้งกลายเป็นอาหารเพื่อสุขภาพไปแล้ว
"พันธุ์นี้แม้เรากินดิบก็ไม่ขม ไม่มีสารไซยาไนด์ คนกินแล้วส่วนใหญ่ประทับใจ ไม่ปวดข้อ ไม่ปวดเข่า พอขายออกไปลูกค้าก็ประทับใจ เอาไปขายต่อ ไปเป็นของฝาก เป็นพันธุ์ที่ไม่มีสารไซนาไนด์ ไม่ขมเลย ตอนนี้เก็บหน่อไม้บงหวานเพ็ชรน้ำผึ้ง ต่อไร่ก็ประมาณ 10 กิโลกรัม หรือ 10 กว่ากิโลกรัม ก็ไม่พอขาย แล้วขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท มันก็ได้ ใช้เวลาแป๊บๆๆ ขายได้10 กิโลกรัมประมาณ 600 บาท ส่วนรายได้ต่อวันมาจากผักตัวอื่นบ้างซึ่งแล้วแต่ตามฤดูกาล" คุณวรรณบดีเล่าให้ฟังอย่างเป็นกันเอง
สำหรับแรงบันดาลใจที่คุณวรรณบดีหันมาเป็นเกษตรกรเต็มตัว และ จับไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้งขึ้นมาเป็นตัวหลักนั้น เพราะด้วยพื้นเดิมมีใจรักการทำเกษตร และ ประกอบกับเรียนจบคณะเกษตรศาสตร์ สาขาพืชสวน ภาควิชาพืชศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อเรียนจบแล้วก็มีโอกาสทำงานในศูนย์วิจัยพืชไร่ จ.เชียงใหม่ จึงทำให้มีการต่อยอดเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำเกษตรมาเรื่อยๆ จนมีโอกาสในปี 2549 จึงตัดสินใจมาทำสวนไผ่ และ เดินหน้าเกษตรพอเพียงตามพระราชดำริอย่างเต็มตัว โดยใช้วิธีการปลูกแบบอินทรีย์
“หน่อไม้ที่ปลูกแนวอินทรีย์ ไม่ได้ใช้สารเคมี ฆ่าแมลง คนพอพูดถึงเกษตร ก็นึกถึงยาฆ่าแมลง หน่อไม้ ปกติจะไม่มีแมลง หรือ โรคกวนอยู่แล้ว หมายความว่า เราจะไม่ใช้เคมีให้พืชตัว และ แมลงจะไม่ชอบกิน ส่วนที่ใช้ปุ๋ยเคมี ยูเรีย พอมียอดอ่อน แมลงจะชอบ ที่สวนไผ่ของเราจะใช้แนวอินทรีย์ ให้เขาโตเองมาตลอด ประหยัดค่าปุ๋ย ค่าสารเคมี เพราะส่วนตัวผมจะไม่ชอบแนวสารเคมี และ ใจชอบการทำเกษตรอินทรีย์มาอยู่แล้วด้วย ก็เลยคิดว่า ถ้าเราจะเริ่มทำเกษตร ก็ไปดูตั้งแต่ชาวนาทำข้าวอย่างเดียว ก็จะเป็นหนี้ เป็นสิน ถ้าทำไร่อ้อย ส่วนใหญ่จะเป็นหนี้โรงงานก็ไม่รวยขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เกษตรกรจะปลูกพืชเชิงเดี่ยว ผมก็เลยหันมาจับเกษตรผสมผสาน ประกอบกับที่ดินมีน้อยก็เลยไม่ปลูกข้าว ตอนแรกมีที่ดินประมาณไร่ครึ่ง ก็มาคิดว่ารายได้จากการปลูกไผ่หวาน เกษตรผสมผสานมีรายได้สูง ก็ปลูกไผ่ก่อน จากเดิมที่ผ่านมา ปลูก 200 ต้น ตอนนี้ เพิ่มเป็นหลายพันต้นแล้ว และ ขยายพื้นที่การทำไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้งไปยังจังหวัดอุตรดิตถ์ด้วย” คุณวรรณบดีเล่าให้ฟัง
คุณวรรณบดียังเล่าให้ฟังด้วยว่า เกษตรพอเพียงนั้น ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละวันไปได้มาก โดยปัจจุบันครอบครัวมีกัน 4 ชีวิตมีค่าใช้จ่ายเพียง 20,000 บาทต่อเดือน มีรายได้เดือนละ 50,000-60,000 บาท ซึ่งก็เพียงพอกับการใช้ชีวิตประจำวัน และ ยังสามารถส่งลูก 2 คน เรียนหนังสือระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยนเรศวรและอีกคนหนึ่งกำลังเรียนชั้นอนุบาล
คุณวรรณบดีฝากแง่คิดให้กับผู้คนหนุ่มสาวที่กำลังเผชิญกับมรสุมภัยโรคระบาดโควิด-19 และยังต้องใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่อยู่ในขณะนี้ ให้มีกำลังใจและมองโอกาสพื้นที่บ้านเกิดว่าพอทำอะไรได้บ้างโดยเฉพาะการทำเกษตรกรรม
“ถ้าเราคิดว่า เราใช้ชีวิตในเมืองไม่ไหวแล้ว ให้กลับบ้าน เพราะอย่างน้อยที่บ้านก็ยังมีเพื่อนฝูง มีพ่อแม่ หรือ หนึ่งไร่ สองไร่ ก็กลับไปอยู่กับพ่อแม่ ถ้าเราไม่มีที่ดินของพ่อแม่ เราก็หาเช่าก็ได้ เพราะต่างจังหวัดเขาจะคิดค่าเช่า 1,000 บาทต่อปี ก็ออกมาทำเกษตรผสมผสาน ปลูกผักบุ้ง กวางตุ้ง ผักชี พริก มะเขือ เราก็ทำแล้วไปขายตลาด ถ้าทำแนวอินทรีย์ คนเขารู้ ก็จะมาซื้อที่สวน ไม่ต้องเริ่มเยอะ เริ่มแค่ 1-3 ไร่ก็พอ ส่วนใหญ่จะลงทุนเยอะๆ แล้วเจ๊ง เพราะการทำเกษตรคนอาจจะมองว่า ต้องใช้ทุนเยอะ ทำไม่ได้ แต่จริงๆการทำเกษตรไม่ต้องใช้ทุนเยอะ” คุณวรรณบดีเล่าให้ฟัง
สำหรับท่านใดสนใจไอเดียการทำสวนไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้ง ซึ่งเดินตามแนวทางพระราชดำริในหลวง รัชกาลที่ 9 สามารถสอบถามรายละเอียดกับคุณวรรณบดี รักษา หรือ คุณเปีย ได้ที่ ต.แม่จั๊ว อ.เด่นชัย จ.แพร่ (อยู่ห่างสถานีรถไฟเด่นชัยมาทางในเมือง 3 กิโลเมตร) หรือโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 083-2663096 และ 082-2946224 - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี