“วัดธรรมมงคลเถาบุญนนทวิหาร” สุขุมวิท 101 กรุงเทพมหานคร จัดพิธี “สวดลักขีบวชชีหมื่นคนออนไลน์ 102 ปี ชาตกาล” สานต่อปณิธานท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระญาณวชิโรดม (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) อดีตเจ้าอาวาส วัดธรรมมงคลเถาบุญนนทวิหาร และ ผู้ก่อตั้งสถาบันพลังจิตตานุภาพ (Willpower Institute)ระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม พ.ศ.2565
ภายในพิธีมีการนิมนต์พ่อแม่ครูอาจารย์ฯพระกัมมัฎฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มาเป็นองค์เทศนาธรรม “แนวหน้าออนไลน์” ได้รวบรวม “เกร็ดธรรม” บางส่วนบางตอนขององค์เทศนาธรรมทั้งหมด 8 รูป เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต โดยนับเอาฤกษ์ในช่วงต้นปีใหม่นี้ นำธรรมอันเป็นอมตะธรรมของพ่อแม่ครูอาจารย์ฯมาให้อ่าน
พระเทพวชิรญาณโสภณ (หลวงพ่อเยื้อน ขนฺติพโล) เจ้าอาวาส วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร จ.สุรินทร์
การที่กำหนดจิตต้องอยู่ข้างใน ถ้าจิตเราอยู่ข้างใน จิตก็ไม่ออกนอก จิตไม่ออกนอก จิตจะทุกข์ได้อย่างไร นั่นคือ พระพุทธเจ้าบรรลุธรรม บรรลุถึงผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ถ้าตอนนี้ก็เปรียบเหมือนแสงเทียนที่โยมมองเห็น แสงเทียนไม่ได้อยู่ในเทียน มันอยู่เหนือเทียน เทียนนั้นคือ ขันธ์ 5 แสงนั้นน่ะคือ “จิต” โยม
พระครูธรรมวิวัฒนคุณ (หลวงพ่อเจริญ จตฺตสลฺโล เจ้าอาวาส วัดอรัญวิเวก จ.เชียงใหม่
เรื่องของ “จิต” ใช้ทั้ง 3 ตัว เวทนานุปัสสนา , จิตตานุปัสสนา , ธรรมานุปัสสนา ตัวนิวรณ์ทั้ง 5 ท่านกล่าวว่า เป็นธรรมานุปัสสนา เป็นสิ่งที่เราต้องพินิจพิจารณา อาตมาชอบที่ว่าจิตตานุปัสสนาเพราะอะไร เพราะเวลาเรารู้ว่าจิตสงบ จิตสงบเป็นยังไง ตัวรู้อยู่ว่า จิตมันอยู่กับอะไร เพราะตามหลักท่านไม่ได้วางไว้มากหรอก ก็จะอธิบายย่อๆว่า จิตมีราคะก็ให้รู้ ไม่มีราคะก็ให้รู้ จิตมีโทสะก็ให้รู้ จิตมีโมหะก็ให้รู้ หรือ ไม่มีก็ให้รู้ จิตไปกระทบกับอารมณ์อะไรที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ต้องให้รู้ รู้แล้วยึด หรือว่ารู้แล้วละปล่อยวาง สำคัญที่ตรงนี้
พระเทพพัชรญาณมุนี วิ. (หลวงพ่อฟิลลิป ญาณธมฺโม) เจ้าอาวาส วัดป่ารัตนวัน จ.นครราชสีมา
เมื่อเราตั้งใจเดินจงกรมแล้ว เราก็อยู่ที่หัวทางทางเดินจงกรม ยกมือไหว้ น้อมจิต ระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อุปัชฌาย์อาจารย์ บิดามารดา ญาติสนิท มิตรสหาย ผู้มีพระคุณทั้งหลาย แล้วอธิษฐานจิตว่า เราจะเดินจงกรม กี่นาที กี่ชั่วโมง อธิษฐานไว้แล้ว เราก็จะได้รักษาคำอธิษฐานนั้น ถ้าเราอธิษฐานจะเดินจงกรม 1 ชั่วโมง เราจะไม่เลิก ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์อันตราย เราก็จะไม่เลิก เราก็จะรักษาคำอธิษฐานนั้น เมื่อเราอธิษฐานแล้ว เราจับมือขวาทับมือซ้าย ไว้ข้างหน้าเรา แล้วค่อยๆเดิน
การเดินนั้น มันมีวิธิการหลายประการ เราจะจับลมหายใจเข้าก็ได้ จับความรู้สึการเคลื่อนไหวของกายก็ได้ หรือ จะจับพุทโธก็ได้ แต่ว่า ครูบาอาจารย์ฯหลายองค์ก็บอกว่า ให้จับความรู้สึกที่ปลายเท้า เวลาเท้าเรายืนกับผืนดิน เราจะมีการสัมผัสอยู่ เรารู้สึกอยู่ จะรู้สึกหนักอยู่ รู้สึกอยู่ มันเย็น หรือ มันร้อน เราก็รู้สึกอยู่ ให้จับความรู้สึกนั้น เราก็ค่อยๆยกขาขวาขึ้นไป แล้วก็ค่อยๆยกขึ้นไป เวลาเรายกขึ้นไป ความรู้สึกนั้นจะเปลี่ยนแปลง ความรู้สึกที่เจ็บ ความรู้สึกที่หนัก มันก็จะเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่เบา แต่ความรู้สึกที่เบาแล้ว เวลาที่ก้าวไปทับลงมาถึงแผ่นดิน ถึงพื้นแล้ว ก็เกิดความรู้สึกอีก เราจะไม่คิดเรื่องอะไร เราจะไม่ให้จิตอยู่ที่อื่น เราจะให้จิตระลึกได้ จดจ่อ จ่อตามเรื่องนั้น ที่เกิดความรู้สึกอยู่ที่ปลายเท้า
พระอาจารย์สว่าง กลฺยาโณ เจ้าอาวาส วัดป่าคำเจริญ จ.ศรีษะเกษ
เราทำได้ สร้างคุณงามความดี ได้แน่นอน จะเดินจงกรมก็ได้ จะนั่งสมาธิก็ได้ จะพูดให้ดีเท่าไหร่ก็ได้เลย เพราะอะไรเหรอ เพราะสังขารร่างกายเราได้มาแล้ว ไม่ได้ยืมใครมากราบมาไหว้เลย ปากไม่ได้ยืมใครมาสวดมนต์ หูไม่ได้ยืมใครมาฟัง ตาไม่ได้ยืมใครมาดูเลย อย่างนี้เป็นต้น ใจก็เราเอง ไม่ได้ยืมใจใครมาคิด เพราะฉะนั้นฝึกให้มันดี ฝึกให้ “ใจ” นี้ดีๆ โอ้ย ใจดี ใจใสใจสะอาด มันจะมีพลัง เกิดเมตตากรุณา
พระครูสรพจน์พิลาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดธรรมมงคลฯ
อย่างที่หลวงพ่อของพวกเรา หรือ พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณหลวงพ่อ (ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระญาณวชิโรดม) ของพวกเรา ท่านจะพูดอยู่ตลอดเวลาว่า “หัวใจมหาสมัย” เรียกว่า เมื่อท่านทั้งหลายเข้าถึงซึ่ง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เมื่อบุคคลใดมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์แล้ว ปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว บุคคลนั้นเมื่อร่างกายจากความเป็นมนุษย์ก็จะไปเป็นพวกเทพทั้งหลาย นั่นก็เรียกว่า “ระลึก” ระลึกถึงคุณธรรม ระลึกถึงคุณงามความดีต่างๆ
ประการที่ 2 เขาเรียกว่า เตือน เตือนตัวเราเอง เพราะว่า คนเรานั้นรู้ทุกคนนั่นแหละ เกิดขึ้นไปในเบื้องต้น แปรปรวนไปในท่ามกลาง แตกสลายไปในที่สุด เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ด้วยกันทั้งนั้น หมายความ มรณภัย ความตายเจอด้วยกันทุกคน เพราะฉะนั้นเตือนตัวเองอยู่ว่า ขณะนี้ เวลานี้ เรายังมีชีวิต ยังมีแรง ยังมีกำลัง ได้กระทำที่พึ่งไว้หรือยัง ที่ท่านเรียกว่า “อัชเชวะ กิจจะมาตัพปัง โก ชัญญา มะระณัง สุเว นะ หิโน สังคะรันเตนะ มหาเสเนนะ มัจจุนา”
วันและคืนล่วงไป ผ่านไป ไม่ได้ผ่านไปวันและคืนเท่านั้น แต่อายุของพวกเรา ชีวิตของพวกเราก็ลดน้อยถอยลงไป มัจจุ คือ ความตายนั่น บางทีเขาไม่ให้โอกาสแก่พวกเรา เมื่อมีเวลา มีโอกาส เราก็มาสร้างสมคุณงามความดี สร้างบารมีให้แก่ตัวเอง ดั่งที่พวกเราทั้งหลายได้พากันมาบวช ได้พากันมาเจริญพุทธคุณ ธัมมคุณ สังฆคุณ เรียกว่าพร้อม มีพร้อม ทำพร้อม คุณงามความดีพร้อม บุคคลผู้ได้กระทำคุณงามความดีไว้แล้ว อันการจากโลกนี้ไป ความตายไม่เป็นสิ่งที่น่ากลัว
พระราชวชิรธรรมากร วิ.(หลวงปู่คำสด อรุโณ) เจ้าอาวาส วัดป่าบ้านเพิ่ม จ.อุดรธานี
ที่จิตใจของเราปรารถนาหาความสุข หาความสบาย ตั้งแต่วันเกิด จนถึงปัจจุบันก็ไม่เห็นว่า ความสุขที่แท้จริง มันอยู่ที่ไหน ความสบายที่แท้จริง มันอยู่ที่ใด เมื่อบังคับจิต บังคับใจ เข้าสู่ความสงบ ฐานของจิต ฐานของใจได้แล้ว นั่นแหละ ก็จะรู้ที่มาของอะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ก็จะรู้ว่า ทุกข์ควรกำหนดให้รู้ ก็จะรู้ว่า อะไรเป็นเหตุให้ “จิต” ของสัตว์ทั้งหลาย มนุษย์ทั้งหลายทั่วโลกธาตุให้เกิดความทุกข์ ให้เกิดความสุข ให้เกิดความทุกข์ในโลก แม้เราเป็นต้น กระสับกระส่าย กระวนกระวาย เมื่อจับต้นเหตุ หรือ รู้ที่มาของเหตุและปัจจัยใดแล้ว สตินั่นแหละ ไม่เคยเด่นก็จะเด่นขึ้นมา สมาธิไม่เคยเกิด ก็จะเกิดขึ้นมา ปัญญารวมยอดรู้ รู้อยู่ที่ไหนก็จะรู้ได้ที่จุดนั้น จากผู้ปฏิบัติก็จะเป็น “ปัจจัตตัง” (รู้ได้เฉพาะตน)
พระพรหมวชิรโสภณ (หลวงปู่ศรีจันทร์ ปุญญรโต) เจ้าอาวาส วัดบึงพระลานชัย จ.ร้อยเอ็ด
ธรรมะ คือ อะไร ธรรมะ คือ แสงทองส่องชีวิต ธรรมะช่วยดวงใจให้สูงค่า ธรรมะช่วยชีวิตให้พัฒนา ธรรมะช่วยนำพาให้ก้าวไกล ธรรมะเป็นอาหารวิเศษอันเลิศรส ธรรมะคือทางพ้นทุกข์สงสาร ธรรมะคือเครื่องพ้นจากบ่วงมาร ธรรมะคืออาหารของจิตใจ วันนี้จะได้นำธรรมะมาให้ท่านหลายไปประพฤติปฏิบัติ เอาแบบ “มองเป็น เห็นธรรม” “คิดเป็น เห็นธรรม” มองเป็นเห็นธรรม มองอย่างไร ถึงจะเห็นธรรมะ คิดอย่างไร ถึงจะเห็นธรรมะ
เอาง่ายๆ ปีนี้ เป็นปีพุทธศักราช 2565 เรามามองปีพุทธศักราชให้เป็น “ธรรมะ” ให้เห็น “ธรรมะ” มองอย่างไร สอง เลขสองหมายถึง ความรู้คู่ความดี สองใหญ่ คนเรามีแต่ความรู้อย่างเดียว ถ้าขาดความดี ก็เอาตัวไม่รอด ดั่งที่เราได้ยินอยู่เสมอว่า “มีความรู้ท่วมหัว ก็เอาตัวไม่รอด มีความรู้ท่วมตัว ก็เอาหัวไม่รอด มีความรู้เต็มตัว ดันไปทำความชั่วเต็มเปา” ถ้าเรามีแต่ความรู้อย่างเดียว ขาดความดี ก็เอาตัวไม่รอด เพราะฉะนั้น “ความรู้จะต้องคู่กับความดีตลอดไป” จึงจะสามารถเอาตัวรอดได้
หลวงปู่อุทัย ฌานุตฺตโม เจ้าอาวาส วัดป่าห้วยลาด จ.เลย
อย่างพูดธรรมะทางออนไลน์ อย่างนี้ เห็นไหม ทั่วโลกได้รับรู้ รับทราบ ในทุกๆประเทศ ใหม่ก็เอา เราปรับตัวเราให้เข้ากับสถานะเหตุการณ์ เก่าก็ไม่ทิ้ง เก่าคืออะไรล่ะ เก่าก็คือ “ข้อวัตร” ปฏิบัติของพวกเรา ที่เป็นพระป่าสายหลวงปู่มั่น ข้อปฏิบัติคืออะไร มีธรรมะและวินัย เป็นสิ่งนำทาง มีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ฯพากระทำบำเพ็ญ ข้อวัตร บิณฑบาต ปัดตาด ไหว้พระ สวดมนต์ ภาวนา อันนี้มันเป็นกิจการงานของพระ พระสงฆ์ของเรา ซึ่งพระอุปัชฌายะได้มอบให้กับพวกเราแล้วว่า เมื่อท่านบวชเข้ามาแล้ว จงทำหน้าที่ศึกษา สีลสิขา จิตตสิขา ก็มาอยู่ที่ “ศีล สมาธิ ปัญญา” นี่อย่างนี้เป็นต้น อันนี้คือเก่า เก่าตั้งแต่ไหน ตั้งแต่โน่น ตั้งแต่สังคยนามาแล้วน่ะ เราจึงถือว่า “พระธรรม พระวินัย” นี้ เป็นสิ่งที่ดูแลเรา กำกับเรา ใครล่ะ ตัวเราเองนั่นแหละ อยู่ในกรอบ ศีลธรรม เรารู้ด้วยตัวเราเอง อันนี้คือ มีความหมายมั่นคง แข็งแรง ถ้าพูดอย่างภาษาชาวบ้าน ก็คือ พระเรานี่ไม่มีแผล มีแต่ความบริสุทธิ์ เปิดเผยออกมา ไม่มีการปิดบังอำพราง ด้วยอะไร ด้วยศีล 227
ในพิธีนี้ พ่อแม่ครูอาจารย์ฯซึ่งเป็นองค์ธรรมเทศนายังได้กล่าวถึงหนังสือ “มุตโตทัย” ซึ่งเป็นหนังสือที่ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระญาณวชิโรดม ได้บันทึกด้วยการใช้น้ำหมึกที่ผลิตขึ้นเอง และ นำมาเขียนเป็นตัวอักษร เพื่อบันทึกพระธรรมเทศนาของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตะเถระ เมื่อครั้งปฏิบัติศึกษาธรรมอยู่กับท่าน เมื่อ พ.ศ.2485 - 2486 ที่บ้านนามน ต.ตองโขบ อ.เมือง จ.สกลนคร
“ตั้งแต่ยุคของท่าน ที่ท่านได้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆนานา ได้รับการถ่ายทอดจากองค์หลวงปู่มั่น จนเราได้เห็นเป็นสักขีพยาน อย่างที่เราได้ทราบกัน ความพยายามอุตส่าห์นั้น เพื่ออะไรล่ะ เพื่ออนุชนรุ่นหลัง อย่างบันทึกธรรม มุตโตทัย อย่างนี้ ก็ด้วยการมองเห็นการณ์ไกลว่า ต่อไปนั้น มุตโตทัย จะเป็นที่แพร่หลายกระจายไป ความอุตสาหะพยายามขององค์หลวงปู่ท่าน ในยุคนั้นสมัยนั้น เราย้อนนึกภาพดูสิ ในสมัยนั้นน่ะ ดินสอก็ไม่มี ปากกาก็ไม่มี ท่านต้องไปเอามินหม้อมาป่นแล้วก็เอาน้ำใส่แล้วก็เขียนบันทึกไว้ แล้วก็ไปตากแห้ง แล้วก็มาให้หลวงปู่มั่นตรวจทาน เนี่ย แต่ในขณะที่ท่านกระทำนั้น ด้วยเจตนาหวังดี แต่ก็มีความเกรงกลัวองค์หลวงปู่มั่นอย่างที่สุด หาประมาณไม่ได้ ดั่งที่เราได้ทราบ เพราะอยู่กับองค์หลวงปู่มั่นนั้น ต้องระแวดระวัง สติปัญญาทุกอย่างในยุคลูก หลวงปู่ของเรานี่เป็นรุ่นลูก ต่อมาก็เป็นรุ่นหลาน รุ่นเหลน รุ่นหลอด” หลวงปู่อุทัยเมตตาเล่าถึงความยากลำบากในยุคนั้นที่พ่อแม่ครูอาจารย์ฯต้องอุทิศกายและใจเพื่อฝึกฝนตนเอง ในการศึกษาเรื่องของ “สมาธิ” จนนำมาสู่หนังสือมุตโตทัย
สำหรับเนื้อหาในหนังสือ “มุตโตทัย” มีเนื้อหาบางส่วน ดังนี้
“ความแห่งคาถา 2 บาทคาถาต่อไปว่า พระขีณาสวเจ้าทั้งหลาย ดับโลกสามรุ่งโรจน์อยู่ คือ ทำการพิจารณาบำเพ็ญเพียรเป็น ภาวิโต พหุลีกโต คือ ทำให้มาก เจริญให้มาก จนจิตมีกำลังสามารถพิจารณาสมมติทั้งหลาย ทำลายสมมติทั้งหลายลงไปได้จนเป็นอกิริยา ก็ย่อมดับโลกสามได้ การดับโลกสามนั้น ท่านขีณาสวเจ้าทั้งหลาย มิได้เหาะขึ้นไปในกามโลก รูปโลก อรูปโลกเลยทีเดียว คงอยู่กับที่นั่นเอง แม้พระบรมศาสดาของเราก็เช่นเดียวกัน พระองค์ประทับนั่งอยู่ ณ ควงไม้โพธิพฤกษ์แห่งเดียว เมื่อจะดับโลกสาม ก็มิได้เหาะขึ้นไปในโลกสาม คงดับอยู่ที่จิต ที่จิตนั้นเองเป็นโลกสาม ฉะนั้น ท่านผู้ต้องการดับโลกสามแล้ว พึงดับที่จิตของตน จึงทำลายกิริยา คือ ตัวสมมติหมดสิ้นจากจิต ยังเหลือแต่ อกิริยา เป็นฐีติจิต ฐีติธรรม อันไม่รู้จักความตายฉะนี้แล”
ทั้งนี้ สามารถรับชมรายละเอียดธรรมเทศนาภายในงานนี้ได้ที่ Facebook : วัดธรรมมงคลเถาบุญนนทวิหาร , YouTube : วัดธรรมมงคลเถาบุญนนทวิหาร, Facebook : วัดเทพเจติยาจารย์, Youtube : วัดเทพเจติยาจารย์ official, Facebook:วัดป่าร้อยปีหลวงพ่อวิริยังค์, Facebook : วัดป่าธรรมพนมวัณย์ และ facebook: วัดศรีรัตนธรรมาราม โดยหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี