ไปพิสูจน์ตามคำบอกเล่า "ถ้ำที่หลบอาศัยของทหารญี่ปุ่น" สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตั้งอยู่บนเขาพระเอก หมู่ 8 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ด้านในเป็นห้องโถงใหญ่ผนังถ้ำเป็นหินปูนแปลกตา พบร่องรอยใบไม้คล้ายฟอสซิล
เป็นเรื่องราวคำบอกเล่าต่อๆ กันมาตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ยายว่ามีถ้ำแห่งหนึ่งตั้งอยู่บนเขาพระเอก หมู่ 8 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรีว่า อดีตเป็นที่หลบภัยของทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ผู้สื่อข่าวจึงไปพิสูจน์ มีนายประยูร เต็มดวง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 หมู่ 8 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ ผู้เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ได้รับการสืบทอดมาจากรุ่นพ่อ และ นายมัน โค้วฮุด สมาชิกเทศบาลตำบลทุ่งหลวง และชาวบ้านผู้นำพา ได้เตรียมสัมภาระ น้ำดื่ม อาหาร ยาดม ยาทาแผล เป็นเสบียงเพื่อเตรียมไปสำรวจด้วยการเดินเท้าขึ้นภูเขาที่มีสภาพสูงชัน เป็นป่าดิบแล้ง พบต้นไผ่ ต้นงิ้วขนาดใหญ่ และไม้อีกหลายชนิด ขึ้นปกคลุมไปกับก้อนหินที่วางสลับซับซ้อนกันสวยงามแปลกตา ท่ามกลางใบไม้ที่ร่วงหล่นระหว่างเส้นทางเดินขึ้นเขาที่ยากลำบาก
บางช่วงต้องใช้ความพยายามไต่ขึ้นก้อนหินขนาดใหญ่ โดยมือไปยึดเกาะกับต้นงิ้วที่มีหนามแหลมคม หาต้นไม้เล็ก ๆ แทบไม่มี ต้องใช้ความพยายามเดินไปหยุดพักไป ใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง จึงพบบริเวณปากถ้ำลักษณะคล้ายอุโมงค์เพิงพักเป็นห้องโถงกว้างหากคนเข้าไปอยู่รวมกันได้ประมาณ 60 คน พบซากเปลือกหอยจำนวนมาก บริเวณผนังถ้ำด้านบนเมื่อหายน่าขึ้นไป พบร่องรอยลวดลายใบไม้คล้ายฟอสซิล 2 ใบมองเห็นชัดเจอ หินผุกร่อนเป็นลวดลายสวยงามแปลกตา จึงเป็นไปได้ว่าเป็นที่อาศัยหลบภัยได้
นายประยูร เต็มดวง หรือ ช่างน้อย ชาวบ้านผู้นำทาง เปิดเผยว่า ที่แห่งนี้เคยเป็นที่หลบซ่อนของทหารญี่ปุ่นที่หนีภัยสงครามตอนที่ฝ่ายพันธมิตรเข้ามาทิ้งระเบิดที่ราชบุรีและวัดใหญ่อ่างทอง แถวสี่แยกห้วยชินสีห์ เลยเข้ามาหลบและขนเสบียงอาหารพร้อมทั้งยุทโธปกรณ์มาไว้ที่นี่ เลยเป็นที่มาเรียกว่าถ้ำญี่ปุ่นเก่า ผ่านมาประมาณกว่า 70 ปีแล้ว ตนเองพูดจากคำบอกเล่า เพราะเกิดไม่ทัน พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย และชาวบ้านในบริเวณบ้านเขาพระเอกแถบนี้เล่าให้ฟัง อายุต้องประมาณ 80 ปีขึ้นไปจึงพอรู้เรื่องราว
จะมีเพิงหินคล้ายถ้ำมีซากฟอสซิลใบไม้ สันนิษฐานว่าสามารถหลบพักได้ประมาณ 1 กองร้อย ประมาณ 50 – 60 คน ขึ้นมาอีกหน่อยจะเป็นที่วางป้อมปืนและหอสังเกตการณ์ เป็นลักษณะที่พักขุดขึ้นมีแนวร่องรอยการวางป้อมปืน และมีสำรองพลเพื่อจะได้เปลี่ยนเวรสังเกตการณ์คอยดูเครื่องบินของฝ่ายพันธมิตรจะได้หลบซ่อนตัวได้ มีการเล่าต่อๆ กันเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ ตนเองมีความเชื่อเพราะข้างบนที่ยืนนี้เมื่อมองลงไปด้านล่างจะสังเกตพบเห็นหมู่บ้านโดยรอบหมด เป็นภาพมุมกว้างที่สังเกตการณ์ได้ รวมทั้งสังเกตเครื่องบินได้ดี ทหารก็ยังเห็นได้อย่างละเอียด
ผู้สื่อข่าวเองสังเกตว่าเป็นไปได้อีกเช่นกัน เพราะดูมีร่องรอยของการขุดเป็นช่องสำหรับวางปืน อีกทั้งยังมีช่อง 2 ช่องไว้ ดูคล้ายกับเป็นที่ให้ทหารคอยสังเกตการ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องบอกเล่าต่อ ๆ กันมาเท่านั้น
นายประยูร เต็มดวง ผู้นำพา บอกอีกว่า ด้านบนยอดเขาจะมีสนามลานกว้างประมาณ 500 ไร่จะต้องเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง อดีตมีคนเคยขึ้นไปปลูกผัก ทำไร่ มีถ้ำเคยพบถ้วยชามสังคโลกแตกหักจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ห่างออกไปอีก 15 กิโลเมตร มีไร่ญี่ปุ่น เพราะในสมัยนั้นได้มาทำไร่ไว้มีความเกี่ยวข้องกันเพราะมีการเล่าว่ามีทหารญี่ปุ่นมาทำไร่เอาไว้ จึงเรียกว่าไร่ญี่ปุ่นกัน ปัจจุบันมีแต่ชื่อ ในสมัยนั้นมีชาวบ้านเลี้ยงวัว และตัดไม้แถวนั้น ได้เล่าต่อกันมาว่ามีทหารญี่ปุ่นได้มาทำไร่เอาไว้ จึงมีชื่อเรียกมาถึงทุกวันนี้
ส่วนอีกด้านของลูกเขาจะมีฝ่ายพันธมิตรเข้ามาทิ้งระเบิดสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองในตัวเมือง จนมาถึงสี่แยกห้วยชินสีห์ห่างกันประมาณ 7 กม.ถ้าอยู่ฝั่งเขาด้านตะวันตกนี้แล้ว ฝ่ายที่ทิ้งระเบิดก็จะไม่เห็น สามารถปิดบังได้ สมัยเด็กตอนตนเองอายุประมาณ 7– 9 ปี มีคนเล่าให้ฟังหลายคนจึงน่าเชื่อถือได้ว่ามีทหารญี่ปุ่นเคยมาหลบอยู่ที่นี่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เล่าต่อ ๆ กันมาจนถึงปัจจุบัน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี