ตะลึงทั้งงาน "คุณแม่ฉวีวรรณ ดำเนิน (พันธุ)" ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (หมอลำ) ปี พ.ศ. 2536 รำถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพิธีบูชาครูบาอาจารย์ "พระครูธวัชสันติคุณ หรือหลวงพ่อสมาน ธัมมรักขิโต" อดีตเจ้าอาวาสวัดสันติวิหารร้อยเอ็ด ตามความเชื่อของชาวอีสาน ด้วยท่าทางแปลกๆ คล้ายท่ารำ "พญาครุฑ" นานกว่า 4 นาที เจ้าตัวยันไม่เคยรำท่าทางแบบนี้มาก่อน เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดร่วมอนุโมทนาบุญ
ที่วัดสันติวิหาร ต.ธงธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 25 ม.ค.65 ที่ผ่านมา หลังจากมีกิจกรรมตักบาตรในภาคเช้าและพิธีถวายเพลพระที่มาร่วมในงานสืบสานประเพณีบุญคูณลานบุญกุ้มข้าวใหญ่ ร่วมใจสร้างเจดีย์รวงข้าว ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของกิจกรรมงานบุญดังกล่าว วัดสันติวิหารโดยการนำของหลวงพ่อพระครูปริยัติวรศาสน์ (พระมหาชำนิ) เจ้าคณะตำบลธงธานี เจ้าอาวาสวัดสันติวิหาร ต.ธงธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ได้นำชาวบ้านกว่า 50 คนร่วมพิธีปิดงานสืบสานประเพณีบุญคูณลานบุญกุ้มข้าวใหญ่ ร่วมใจสร้าง "เจดีย์รวงข้าว" วัดสันติวิหารร้อยเอ็ด ประจำปี2565 และกิจกรรมสุดท้ายของงานบุญดังกล่าวก็คือพิธีบูชาครูบาอาจารย์ และฉลองสมโภชน์ปิดงานฯ
โดยเริ่มจากการแห่ของขบวนนางรำชาวบ้านที่แต่งตัวมาร่วมกิจกรรมอย่างสวยสดงดงามมีการดีดสีตีเป่าด้วยเครื่องดนตรีอีสานเป็นจังหวะสนุกสนานรอบเจดีย์และปราสาทรวงข้าวจำนวน 3 รอบ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที บูชาครูบาอาจารย์ "พระครูธวัชสันติคุณ หรือหลวงพ่อสมาน ธัมมรักขิโต" อดีตเจ้าอาวาสวัดสันติวิหารร้อยเอ็ดตามความเชื่อของชาวอีสาน
โดยมีคุณแม่ฉวีวรรณ ดำเนิน (พันธุ) ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (หมอลำ) ปี พ.ศ. 2536 ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นราชินีหมอลำ ซึ่งเป็นราชินีหมอลำคนแรกของประเทศไทย เป็นผู้รำถวายครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในวัดสันติวิหารร้อยเอ็ด
ในระหว่างรำอยู่ๆ ช่วงจังหวะที่คุณแม่ฉวีวรรณ กำลังรำอยู่นั้นได้เกิดเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นกับตัวคุณแม่ฉวีวรรณ ท่ามกลางสายตาของประชาชนที่มาร่วมงานต่างงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งปกติคุณแม่ฉวีวรรณ จะทั้งฟ้อนและรำด้วยท่าทางที่อ่อนโยนสวยงาม ซึ่งในวันนี้ในช่วงแรกคุณแม่ฉวีวรรณ รำด้วยท่าทางที่สวยงาม แต่อมาท่าทางการฟ้อนรำของคุณแม่ฉวีวรรณ ก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นท่าทางที่ดุดัน แข็งขัน สายตาของคุณแม่ฉวีวรรณ เริ่มขวางแล้วก็แสดงท่าทางคล้ายกับ "พญาครุฑ"
ทำให้นางรำและประชาชนที่เห็นเหตุการณ์รู้สึกงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่เห็นคุณแม่ฉวีวรรณ แสดงท่าทางดังกล่าวนานกว่า 4 นาที จึงค่อยๆ อ่อนกำลังลงและสงบลงในที่สุดโ ดยมีลูกศิษย์ของคุณแม่ฉวีวรรณ และประชาชนที่อยู่บริเวณไกล้เคียงต้องรีบเข้าไปประคองร่างของคุณแม่ฉวีวรรณ และให้คุณแม่ดมยาและบีบนวดสักพักคุณแม่ก็ฟื้นขึ้นมาปกติ
คุณแม่ฉวีวรรณ ดำเนิน (พันธุ) ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (หมอลำ) ปี พ.ศ. 2536 เล่าให้ประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์หลังจากฟื้นตัวขึ้นมาเป็นปกติว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะท่ารำที่ทุกท่านได้เห็นไม่เคยรำที่ไหนมาก่อน และไม่เคยคิดที่จะรำด้วยท่าทางแบบนี้มันเกิดขึ้นมาโดยฉับพลัน และอัตโนมัติไม่สามารถควบคุมได้ ตนคิดว่าเหตุการที่เกิดขึ้นนั่นเป็นเพราะว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดแห่งนี้ท่านต้องการที่จะมาร่วมอนุโมทนาบุญในกุศลบุญที่วัดสันติวิหารร้อยเอ็ด ร่วมกับชาวบ้านได้กระทำมาโดยตลอดท่านมานิยมสมพร
นายจอมขวัญ แสงแก้ว อดีตข้าราชการบำนาญกระทรวงศึกษาธิการ หนึ่งในผู้อยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่า เกิดมาจะกว่า 70 ปีแล้วยังไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ต่อหน้าต่อตาช่างเป็นเรื่องที่อัฒจรรย์ใจยิ่งนัก ปกติตัวเองก็มาทำบุญกับหลวงพ่อมหาชำนิ ที่วัดแห่งนี้อยู่บ่อยครั้งได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ถือว่าเป็นบุญอย่างยิ่ง
ด้านหลวงพ่อพระครูปริยัติวรศาสน์ (พระมหาชำนิ) เจ้าคณะตำบลธงธานี เจ้าอาวาสวัดสันติวิหาร ต.ธงธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ขออนุโมทนาบุญกับญาติโยม และศรัทธาบุญทุกท่านที่มาร่วมกิจกรรมงานบุญกับวัดสันติวิหารร้อยเอ็ดมาโดยตลอด ขอให้ทุกท่านมีความสุข ทำบุญด้วยศรัทธาและใจบริสุทธิ ทำตามมีตามเกิด ไม่ให้เดือดร้อนตัวเองและสังคม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี