ทางเลือกใหม่สำหรับชาวบ้านที่เมืองราชบุรี มีเนื้อที่เล็กน้อยข้างบ้านนำปลาดุกมาเลี้ยงในกระชังบกใช้เวลาเพียง 3-4 เดือนจับมาบริโภคได้ เหลือนำไปแปรรูปขายได้อีก ลงทุนหลักพันได้กำไรหลักหมื่น
วันนี้ (26 ม.ค.65) ไปดูตัวอย่างความสำเร็จของชาวบ้านที่ ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งใช้พื้นที่ข้างบ้านเพียงไม่กี่เมตรเลี้ยงปลาดุกในกระชังบกลักษณะเป็นตาข่ายสีฟ้าอยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นผ้ายางอย่างหนา โดยแบ่งเป็นรุ่นๆ มี 2 กระชัง โดยชุดแรกได้จับขายไปแล้ว ส่วนหนึ่งนำมาแปรรูปขายผ่านทางออนไลน์ มารุ่นนี้เลี้ยงมาประมาณ 3 เดือนเศษ เป็นปลาดุกที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว นำผักตบชวามาใส่ไว้เพื่อให้หลบอาศัย จะให้อาหารวันละมื้อและเปลี่ยนน้ำเพื่อให้ปลาเจริญเติบโตดี ไม่มีกลิ่นคาว
นายไชยวิทย์ บัวงาม อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 4 ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ปลาที่เลี้ยงเป็นปลาดุกที่สะอาด ถ่ายเทน้ำได้สะดวก กรณีน้ำเสียก็ให้ถ่ายน้ำออก แล้วเติมน้ำเข้าไปใส่ใหม่ ทำให้ไม่มีกลิ่นคาวปลา แต่หากเลี้ยงเป็นบ่อน้ำหรือสระน้ำใหญ่จะถ่ายน้ำไม่ได้ โดยการเลี้ยงปลาในกระชังบกจะเลี้ยงอาหารเม็ดปลาดุก มีข้อดีคือไม่มีเมือก มีกลิ่นคาวปลา
สำหรับพันธุ์ปลาดุกซื้อมาขนาดเท่านิ้วก้อยตัวละ 60 สตางค์ เลี้ยงมา 3-4 เดือน ก็จับขายได้ อย่างที่เห็นนี้อายุประมาณ 3 เดือนเศษ เริ่มทยอยจับขายไปบ้างแล้วกิโลกรัมละ 50 บาท อย่างกระชังใหญ่จะเลี้ยงจำนวน 2,000 ตัว แต่หากกระชังเล็กอีกชุดที่เลี้ยงข้างๆ ปล่อยปลาได้ 1,000 ตัว ปลาดุกตัวใหญ่ จะมีน้ำหนักประมาณ 4-5 ตัวต่อกิโลกรัม
นอกจากนี้ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นปลาดุกแดดเดียว ปลาดุกร้า ลูกสาวจะเป็นคนทำและขายผ่านทางเฟสบุ๊กกิโลกรัมละ 180 บาท จึงถือเป็นข้อดีกับชาวบ้านที่มีพื้นที่เล็กน้อย ใช้เพียงพื้นที่รอบ ๆ บ้านก็สามารถเลี้ยงปลาไว้บริโภค เหลือก็ยังขายได้ เลี้ยงง่ายโตเร็วไม่ยุ่งยาก แค่ให้อาหารปลาดุกกินวันละ 1 ครั้ง สามารถทำงานอื่นได้ หมั่นดูน้ำที่เลี้ยงอย่าให้เสีย ให้สังเกตหากปลาดุกลอยหัวก็ให้รีบถ่ายเทน้ำออกแล้วเติมน้ำใหม่ลงไป หรืออาจจะถ่ายน้ำเดือนละ 1 ครั้งก็ได้ จะทำให้ปลาเจริญเติบโตดี
นายไชยวิทย์ บัวงาม ผู้เลี้ยงกล่าวอีกว่า สำหรับต้นทุนการเลี้ยงจะมีตาข่ายกระชังปลาสั่งซื้อทางออนไลน์ราคา 1,500 บาท กว้าง 3.5 เมตร ยาว 5 เมตร พันธุ์ปลาดุกอุยตัวละ 60 สตางค์ เลี้ยงในกระชังใหญ่จำนวน 2,000 ตัว กระชังเล็ก 1,000 ตัว สำหรับค่าอาหารช่วง 3 เดือนหมดไปจำนวน 6 กระสอบ ๆ ละ 410 บาท โดยลงทุนครั้งแรกจะมีค่าตาข่ายกระชังปลาการเลี้ยง แต่พอเลี้ยงครั้งที่ 2 ก็สามารถเลี้ยงได้ต่อไปได้เลย เหลือลงทุนแค่ค่าอาหารกับพันธุ์ปลา วันไหนอยากกินก็จะไปทำกินเป็นกับข้าวได้ ช่วงโควิดมองว่า สามารถอยู่ได้ เพราะมีปลาเลี้ยงเอง และยังมีชาวบ้านมาสั่งซื้อเรื่อย ๆ ก็จะจับขายมีรายได้อยู่ตลอด
นอกจากนี้ ที่บ้านยังปลูกผักไว้กินเองหลายชนิด เช่น มะนาว มะละกอ มะรุม ฟัก ผักคะน้า พริก มะเขือ ด้านข้างยังเลี้ยงไก่ไข่ ไก่บ้านและห่านที่เลี้ยงเอาไว้เฝ้าบ้านหากมีผู้บุกรุกอย่างสุนัข งู และสัตว์อื่น ๆ เข้ามาในพื้นที่ก็จะส่งเสียงร้องเสียงดังเพื่อให้เกิดความกลัว อีกทั้งมีพืชผัก ผลไม้ ที่ปลอดภัย ส่วนปลาที่เลี้ยงไว้ทำกินเป็นอาหารบริโภค ช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ พออยู่ พอกิน ในช่วงโควิดที่จะต้องอยู่กันอย่างพอเพียง - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี