สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. โครงการสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แผนอาหารสุขภาวะ บูรณาการความร่วมมือภาคีเครือข่ายเพื่อขยายผลและสื่อสารงานอาหารสู่สาธารณะ ร่วมกับภาคีเครือข่ายอาหารทั่วประเทศ จัดเวทีประชุมประจำปีแผนอาหาร 2565 นำเสนอผลงาน นวัตกรรม รูปธรรมพื้นที่ ความรู้และการขับเคลื่อนสังคม ระหว่างวันที่ 16-17 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมา ณ รร.แกรนด์ ริชมอนด์ ถ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี
นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า พฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ซึ่งการกินผักและผลไม้ไม่เพียงพอ ถูกจัดอยู่ในอันดับ 5 ของปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด ขณะที่ภาวะน้ำหนักตัวเกินและโรคอ้วนถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 3 โดยปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการเกิดภาวะน้ำหนักตัวเกินและโรคอ้วน คือ การกินอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน และโซเดียม ที่มากเกิน
อีกทั้งยังพบว่าในปัจจุบันคนไทยเกินกว่าร้อยละ 60 กินผักผลไม้ในปริมาณน้อย แต่กลับมีแนวโน้มเข้าถึงอาหารแปรรูปต่างๆ ได้ง่าย เพราะซื้อหาได้สะดวก มีให้เลือกหลากหลาย ราคาไม่แพง ดังนั้น การจัดการปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการกินอาหารของคนไทยจึงนับเป็นโจทย์สำคัญที่มีความท้าทายและจำเป็นต้องอาศัยการทำงานที่ขับเคลื่อนทั้งระบบอาหารตั้งแต่การผลิต การขนส่ง การจำหน่าย ไปจนถึงการปรุงประกอบอาหารและการบริโภค เพื่อเอื้อให้ประชากรสามารถเข้าถึงผักผลไม้และอาหารที่เหมาะสมกับสุขภาพได้มากขึ้น
รวมทั้งลดโอกาสหรือช่องทางการเข้าถึงอาหารประเภทแปรรูป เพื่อนำไปสู่พฤติกรรมการกินที่เหมาะสมตามหลักโภชนาการและดีต่อสุขภาพ ซึ่งจากการสำรวจผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ร่วมกับการส่งเสริมมาตรการ Social Distancingในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. 2563 พบว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้คนไทยหันมาทำอาหารกินเอง ร้อยละ 57.5 แต่กลับกินผักและผลไม้ลดลงร้อยละ 8.3 และร้อยละ 10.5 ตามลำดับ
นอกจากนี้ คนไทยมีความเครียดร้อยละ 39 นอนหลับยากมากขึ้นร้อยละ 16.7มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.3 ดื่มเครื่องดื่มรสหวานเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.7 กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ร้อยละ 18.3 อาหารกระป๋องร้อยละ15.6 ขนมกรุบกรอบ ร้อยละ 13.6 และขนมหวานหรือลูกกวาด ร้อยละ 6.8 ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อการเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ทำให้ภาระของโรค NCDs รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประชากรกลุ่มเปราะบาง
นางประภาศรี บุญวิเศษ กรรมการกองทุน สสส. และประธานกรรมการบริหารแผนคณะที่ 5 กล่าวว่า นับแต่ปี 2555 เป็นต้นมา แผนอาหารเพื่อสุขภาวะได้ขับเคลื่อนประเด็นอาหารเพื่อความตระหนักและการรับรู้ของสังคมไทย และส่งผลต่อการสร้างพฤติกรรมการบริโภคที่เหมาะสมอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ขับเคลื่อนลดการบริโภคหวาน มัน เค็มเสริมสร้างความปลอดภัยและด้านความมั่นคงทางอาหาร เป็นต้น นอกจากนั้นยังดำเนินการพัฒนารูปธรรมและต้นแบบการจัดการด้านอาหารในระดับพื้นที่
ได้แก่ โรงเรียนอาหารสุขภาวะ โรงเรียนอ่อนหวาน โรงพยาบาลสีเขียว โรงพยาบาลลดหวานมันเค็ม ขับเคลื่อนให้เกิดการทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืน การทำเกษตรกรรมในพื้นที่เขตเมือง สร้างช่องทางจำหน่ายผลผลิตที่ปลอดภัยในรูปแบบตลาดสีเขียว การพัฒนาและจัดการอาหารริมบาทวิถีให้มีคุณภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการ เป็นต้น รวมทั้งการผลักดันนโยบายและมาตรการที่ส่งผลต่อการสร้างสภาพแวดล้อมด้านอาหารและโภชนาการที่ดี การสื่อสารประเด็นอาหารต่อสังคมเพื่อกระตุ้นให้เกิดการรับรู้ของสังคมในวงกว้างทั่วในประเทศ
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถรับชมย้อนหลังวีดีโอการประชุมทั้ง 2 วัน ได้ที่เฟซบุ๊คแฟนเพจ “Food Citizens”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี