5 พฤษภาคม 2565 ที่บริเวณชายหาดบ้านบ่ออิฐ ตำบลเกาะแต้ว อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เรือประมงพื้นบ้านจอดเรียงราย ริมชายฝั่งเนื่องจากในช่วงนี้คลื่นลมสงบสามารถจอดได้บริเวณด้านในเขื่อนกันคลื่นและในวันนี้หรือประมงพื้นบ้านบ้านบ่ออิฐกว่า 10 ลำ ได้ทำการดัดแปลงเครื่องมือทำการประมงและเรือประมงให้เข้ากับฤดูกาล
เนื่องจากในช่วงนี้ บริเวณชายฝั่งบ้านบ่ออิฐสัตว์น้ำประเภทกุ้งปูปลาลดน้อยลงหลังหมดฤดูกาล แต่มีหมึกกล้วยขนาดเล็กเข้ามาทดแทน บริเวณชายฝั่งบ้านบ่ออิฐ ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านต้องทำการดัดแปลงเรือประมงอวนกุ้งปูปลา มาเป็นเรือไดหมึก ทำการประมงบริเวณชายฝั่งบ้านบ่ออิฐและติดตั้งไฟส่องสว่างเป็นปีก 2 ข้างเพื่อเอาไว้ใช้ล่อหมึกในช่วงกลางคืนและจะต้องมีเครื่องปั่นไฟอีกต่างหากนอกเหนือจากเครื่องยนต์เรือแล้ว โดยชาวประมงพื้นบ้านต้องปรับเวลาในการออกเรือทำการประมงไดรหมึก
จากที่เคยออกเวลา 04.00 น. และกลับเข้าฝั่งประมาณก่อนเที่ยง ก็ต้องเปลี่ยนเวลาออกทำการประมงตั้งแต่ เวลา 18.00 น. และต้องอยู่ในเรือทั้งคืนแล้วกลับเข้าฝั่งในช่วงเช้า เพื่อนำหมึกมาส่งขายให้แพปลาและส่งแม่ค้าขายที่ตลาด
ชาวประมงพื้นบ้าน บอกว่า ช่วงนี้ไม่ไหวออกไปทำการประมงจับสัตว์น้ำขายได้เงิน 1,000 บาท เสียค่าน้ำมัน 700 เหลือ 300 ถ้าไม่ออกไปก็อด จึงจำเป็นต้องออก เมื่อออกไปแล้วก็ไม่คุ้ม
สำหรับการเปลี่ยนเครื่องมือประมงจากอวนกุ้งอวนปูและอวนปลา เนื่องจากมันเป็นฤดูกุ้งปูปลามันหมดไปแล้ว ถ้าจะมีก็ปีหน้า ตอนนี้มันเป็นหมึกกล้วยตัวเล็กๆ แต่ราคามันก็ไม่ดีเพราะต้องผ่านแม่ค้าคนกลาง ถ้าถามว่าจับได้เยอะไหมก็พอได้จ่ายหักค่าน้ำมันแค่ 100 , 200 ก็ช่วยประหยัดในการซื้อกับข้าว โดยเรือไดรหมึกจะออกไปทำการประมงตอนเย็นและกลับเข้าฝั่งตอนเช้าไปทั้งคืนอยู่กลางทะเลบางครั้งฝนตกก็ต้องนอนตากฝนอยู่กลางทะเล
อีกทั้งในช่วงนี้น้ำมันดีเซลมีการปรับราคาสูงขึ้น ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านจำเป็นต้องประหยัดน้ำมันและไม่ออกไปทำการประมงไกลฝั่งมากนัก เนื่องจากทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาไม่คุ้มกับสัตว์น้ำที่จับได้ โดยเฉพาะเรือไดรหมึกจะทำการประมงใกล้ฝั่งออกไปประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้นยิ่งช่วยเป็นการประหยัดค่าน้ำมันได้เป็นอย่างดี.
ในขณะเดียวกันชาวประมงพื้นบ้านชุมชนบ้านเก้าเส้ง ซึ่งนำเรือประมงพื้นบ้านท้ายตัดลำใหญ่มาจอดบริเวณริมเขื่อนกันคลื่นด้านใน บ้านบ่ออิฐ ก็นำเรือออกไปทำการประมงอวนปลาทู เนื่องจากเป็นเรือประมงพื้นบ้านท้ายตัดลำใหญ่สามารถนำเรือออกไปทำการประมงไกลฝั่งได้ ซึ่งจะต้องเสียค่าน้ำมันประมาณ 3 แกลลอน 450 บาทต่อเที่ยว และสามารถจับสัตว์น้ำโดยเฉพาะปลาทูและปลาอื่นๆที่ติดกับอวนมาในวันนี้ได้เต็มหนึ่งลัง ซึ่งคุ้มค่าน้ำมันที่ออกไปจับปลาทูและเมื่อกลับเข้าฝั่งก็จะมีแม่บ้านขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมารับและนำปลากลับไปขายที่ตลาดเก้าเส้งในเมืองสงขลา ที่เปิดขายสินค้าสัตวฺน้ำตลอดทั้งวัน
อย่างไรก็ตาม ชาวประมงพื้นบ้านบ้านบ่ออิฐ ก็ยังคงออกทำการประมงตามปกติในช่วงนี้แม้จะมีฝนตกอย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงบ่ายแต่คลื่นลมชายฝั่งไม่รุนแรงมากนัก ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านสามารถออกเรือไปทำการประมงได้ตามปกติ แม้ว่าราคาน้ำมันดีเซลจะมีการปรับราคาสูงขึ้น แต่ก็มีความจำเป็นต้องนำเรือออกไปจับสัตว์น้ำเพื่อนำรายได้มาเลี้ยงครอบครัวในช่วงโควิดแพร่ระบาดแม้ว่าบางครั้งจะไม่คุ้มค่าน้ำมันก็ตาม. 012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี