"เฟรชวิลล์ ฟาร์ม" เกษตรคนเมือง เน้นขายเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร ไม่ถึงสิบปีสามารถล้างหนี้ได้หลายสิบล้าน ล่าสุดผลิตแพลตฟอร์ม “Pattsmartone” ต่อยอดให้เกษตรกรไทยทั่วประเทศทำเกษตรอย่างประหยัดสู่โลกอนาคต 

นายสัมพันธ์ พิพัฒน์วรการ เจ้าของ “เฟรชวิลล์ ฟาร์ม” (Freshville Farm) และแพทท์ การ์เด้น (Patt’ Garden) เปิดใจกับ "แนวหน้าออนไลน์" ถึงแนวคิดในการลงมือทำเกษตรในเมืองว่า ตั้งแต่ปี 2553-2554 หลังประสบปัญหาทางธุรกิจก่อสร้าง ได้นำวิชาความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์มาผลิต "ตู้เห็ดอัจฉริยะ" และภรรยาซึ่งจบด้านเกษตรกรรมก็นำความรู้มาทำเกษตรในเมืองอย่างจริงจัง ทำให้วันนี้ในปี 2565 สามารถล้างหนี้ไปได้หลักหลายสิบล้านบาท

"ตอนที่ล้มในธุรกิจก่อสร้าง ผมก็มาดูว่าถ้ามาทำเกษตรผมกับภรรยาจะทำอะไรได้บ้างก็มาดูว่า ถ้าทำเกี่ยวกับสัตว์ก็ไม่อยากทำจึงมาดูที่ธุรกิจเพาะเห็ด ก็พบว่า ธุรกิจเพาะเห็ดขายสร้างรายได้ให้ประเทศหลายหมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งก็ยังพบข้อมูลว่า มีคนจำนวนมากอยากเพาะเห็ด แต่ไม่มีความรู้เรื่องเห็ด จึงคิดค้นตู้เพาะเห็ดอัจฉริยะขึ้นมาขายโดยร่วมค้นคว้าวิจัยกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี ทำให้ครอบครัวเริ่มมีรายได้ฟื้นตัวขึ้นมา" นายสัมพันธ์ เล่าให้ฟังอย่างเป็นกันเอง

เมื่อตู้เห็ดอัจฉริยะมียอดขายดีขึ้น นายสัมพันธ์และครอบครัวจึงมองโอกาสลงทุนปลูกผัก ด้วยการเข้าไปซื้อกิจการของ "เฟรชวิลล์ ไฮโดร ฟาร์ม" จำนวน 25 โต๊ะและขอผ่อนจ่ายเป็นรายเดือน โดยเฟรชวิลล์ ไฮโดร ฟาร์ม เป็นโต๊ะปลูกผักด้วยเทคโนโลยีไฮโดรโปนิกส์ (hydroponics) ซึ่งนายสัมพันธ์และครอบครัวใช้เวลาเรียนรู้ประมาณครึ่งปี เมื่อทำเป็นแล้วจึงเริ่มนำความรู้มาสอนให้คนปลูกผักด้วยชุดไฮโดรโปนิกส์และดำเนินการภายใต้ชื่อใหม่ คือ “เฟรชวิลล์ ฟาร์ม” (Freshville Farm) 

"การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์เมื่อ 10 ปีที่แล้วมีทั้งคนยอมรับและมีทั้งคนที่ไม่เข้าใจวิธีการปลูก ก็ค่อยๆทำเรื่องการสอนคนไปเรื่อยๆ ซึ่งสมัยนั้นเฟสบุ๊ค หรือ ยูทูบ ก็ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้มากเท่าทุกวันนี้ ใช้วิธีเปิดคอร์สสอน พอมีคนรู้จักเพิ่มขึ้น ต่อมาก็ได้ออกสื่อต่างๆ และออกงานเกษตรแฟร์ และ ปัจจุบันได้ตั้งบริษัทเกี่ยวกับการปลูกผักอีกหนึ่งบริษัทชื่อ แพทท์ การ์เด้นส์ โดยมีชื่อลูกสาวเป็นเจ้าของบริษัท" นายสัมพันธ์เล่าให้ฟังด้วยความภูมิใจ

สำหรับจุดเด่นของการทำเกษตรในเมืองของนายสัมพันธ์ และ ครอบครัว นั้น มีจุดเด่นที่การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่นำความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์มาพัฒนาด้านเกษตรกรรม เช่น การผลิตตู้เห็ดอัจฉริยะ ตอบโจทย์ผู้ปลูกเห็ดในระยะเริ่มต้น และ ตอบโจทย์คนเมืองที่ต้องการปลูกเห็ดไว้ทานเอง ตามมาด้วยตู้ผักอัจฉริยะและกับล่าสุดการปลูกผักด้วย “แสงไฟนีออน” โดยเน้นผักที่มาจากต่างประเทศ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผัก ซึ่งวิธีนี้เป็นเกษตรอินทรีย์และปลอดสารเคมีไปโดยปริยาย เพราะต้องไม่ใช่สารเคมี และ เน้นการใช้พลังงานของแสงไฟ  เพราะนายสัมพันธ์มองว่า การนำผักที่ปลูกในเมืองหนาว มาปลูกในประเทศอากาศร้อน โดยใช้พลังงานไฟนีออน ทำให้ผลผลิตที่ได้มีมูลค่า เช่นเดียวกับที่ประเทศในตะวันออกกลาง สามารถปลูกผักกลางทะเลทรายได้

นายสัมพันธ์เล่าใหัฟังว่า พื้นที่ของฟาร์มแบ่งเป็น มินิ แพลน แฟคตอรี่ (Mini Plan Factory) และพื้นที่ส่วนของสมาร์ท ฟาร์ม (Smart Farm) โดยมีการปลูกผักทั้งใช้เกษตรอินทรีย์ และ ส่วนที่ใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งปัจจุบันมีเป้าหมายต้องการขยายสมาร์ท ฟาร์ม ภายใต้โครงการ 1  อำเภอ 1 ฟาร์ม ให้ได้ 968 จุดภายใน 3 ปี โดยใช้ฐานสมาชิกที่สอนคนให้ทำเกษตรอินทรีย์ และ เกษตรแบบใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งในส่วนของสมาร์ท ฟาร์ม คือ การขายเทคโนโลยีสมองกลผ่านแอพพลิเคชั่น “Pattsmartone” (แพทท์สมาร์ทวัน) ที่จะพยากรณ์ภูมิอากาศที่แปรปรวนถึงมือเกษตรกรซึ่งใช้แอพพลิเคชั่นดังกล่าว เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำเกษตรกรรม  

นอกจากนี้ “เฟรชวิลล์ ฟาร์ม” ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาทั่วประเทศที่สนใจเกษตรในเมืองที่มีการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมเข้ามาเป็นส่วนสำคัญ ได้ฝึกงานเป็นประสบการณ์ที่ดีในการเรียน และ ต่อยอดระหว่างเรียนได้ 

รวมทั้งนายสัมพันธ์ยังมีไอเดียที่จะเดินหน้าต่อไปว่า อนาคตหากเป็นไปได้ ในส่วนของเฟรชวิลล์ ฟาร์ม กำลังร่วมมือกับภาคเอกชนในการทำให้โรงเรียนทั่วประเทศอย่างน้อย 568 แห่ง จะต้องมีศูนย์เรียนรู้การทำเกษตรที่มีโทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าไปเป็นส่วนสำคัญ รวมทั้งการทำรูปแบบฟาร์มในเมืองให้ทันสมัยด้วยแนวคิด “คาเฟ่ แอนด์ ฟาร์ม” 

สำหรับเฟรชวิลล์ ฟาร์ม ตั้งอยู่ที่เลขที่ 10 ซ.รามคำแหง 118 แยก 44 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. ส่วน "แพทท์ การ์เด้น" เป็นฟาร์มกลางเมืองย่านฝั่งธนบุรี เลขที่ 110/1 ถ.กรุงธนบุรี แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กทม.