สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดเริ่มคลี่คลาย หลายๆ คนต่างเริ่มทำกิจกรรมทางสังคมมากขึ้น ทั้งในภาคธุรกิจ รวมทั้งภาคการศึกษา คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ซึ่งเคยจำเป็นต้องชะลดการจัดกิจกรรมวิชาการและกิจกรรมเพื่อสังคมที่ต้องเกี่ยวข้องกับการรวมตัวของคนจำนวนมากเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ก็ได้กลับมาสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมลอยกระทงบริเวณสระน้ำภายในมหาวิทยาลัย กิจกรรมเปิดบ้าน หรือ Open House หรือกิจกรรมการท่องเที่ยวสำหรับบุคลากรและบุคคลภายนอก
การท่องเที่ยวเชิงคาร์บอนต่ำ คือ กิจกรรมบริการวิชาการด้านการท่องเที่ยวแรกของปี 2565 ที่สาขาการท่องเที่ยวและธุรกิจอีเวนต์ จัดทำขึ้นเพื่อตอบสนองต่อวิสัยทัศน์ของคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ด้านการเป็นผู้นำด้านการศึกษาและฝึกอบรมในสาขาการท่องเที่ยวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยภายในปีนี้จัดทำขึ้นแล้วจำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกจัดในเดือนมกราคมและประสบความสำเร็จอย่างมาก จนกลายมาเป็นที่มาของความคิดครั้งนี้ที่ผู้เขียนจะเล่าคือ ประสบการณ์ท่องเที่ยว “หลากเกร็ดเก่า เล่าเรื่องลับ ฉบับฝั่งธนฯ” ด้วยการเดินทางแบบคาร์บอนต่ำโดย Scooter ค่ะ
แนวคิดการท่องเที่ยวเชิงคาร์บอนต่ำเกิดขึ้นจากความตั้งใจให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในการสร้างความารับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จากสาเหตุของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมากที่มนุษย์สร้างขึ้นผ่านเครื่องยนต์และเครื่องจักรต่างๆ มายาวนานหลายสิบปี ทริปท่องเที่ยวเดินทางด้วย Scooter ไฟฟ้าจึงเป็นต้นเรื่องของการสร้างเส้นทางเพื่อเล่าเรื่องราวและเข้าถึงสถานที่ลับๆ ไปกับเมืองธนบุรี
ทริปคาร์บอนต่ำของเราเริ่มต้นที่สถานี MRT อิสรภาพ ด้วยอาหารเช้าข้าวเหนียวไก่ปิ้งสไตล์มุสลิมจนอิ่มท้อง แล้วซ้อมขี่ Scooter เพื่อเพิ่มความคล่องตัวคนละไม่เกิน 5 นาทีก่อนจะเริ่มออกตัวพร้อมกัน จุดหมายแรกของทริปคือ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน ริมคลองวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร เพื่อสักการะสมเด็จพระเจ้าตากฯ และฟังเรื่องราวการสถาปนากรุงธนบุรีที่บริเวณด้านหน้าวัด
หลังจากขึ้นบันไดไปกราบขอพรหลวงพ่อแสนพระประธานในพระอุโบสถแล้ว ก็เดินทางต่อไปยัง สระน้ำมนต์ของวัดหงส์ฯ ซึ่งสระน้ำแห่งนี้เคยเป็นสระที่สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ใช้สรงน้ำทุกครั้งเมื่อมีพระราชพิธีสำคัญหรือก่อนออกรบ
จากนั้นเดินทางต่อไปยัง กุโบร์มัสยิดต้นสน (กุโบร์แปลว่าสุสาน) เพื่อฟังเรื่องราวเกี่ยวกับจุฬาราชมนตรีและบุคคลสำคัญที่สร้างคุณูปการในสมัยกรุงธนบุรี และไปมัสยิดบางหลวงหรือกุฎีขาว มัสยิดทรงไทยแห่งเดียวในโลกและเป็น unseen หนึ่งของกรุงเทพที่ไม่มีถนนตัดเข้าถึง ต้องเดินทางด้วยเท้าหรือ Scooter เท่านั้น
พักเที่ยงกับสำรับเปอร์เซียในเรือนไทยโบราณสมัยรัชกาลที่ 5 ที่บ้านพระยาราชานุประดิษฐ์ พวกเราได้ชมเรือนไม้สักทองทรงปั้นหยา เรียนรู้สถาปัตยกรรมการออกแบบเรือนไทยโบราณ และกินอาหารรสชาติใหม่ที่ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นน้ำชะระบัตรสซ่าๆ ออกเผ็ดนิดๆ แกงอิหร่านบอเด็มจอน แจงรอนปลา กบาบ สลัดชีรอซี และขนมหวานลุดตี่ แม้จะไม่เคยกินมาก่อน แต่หลายคนต่างตักกันคนละหลายๆ รอบ ถือเป็นการเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy tourism) ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบได้อย่างลงตัว
พวกเราควบ Scooter ต่อไปยังวัดประยูรวงศาวาส หรือวัดรั้วเหล็ก เป็นวัดที่ได้รับการบูรณะและได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจาก UNESCO ในโครงการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม จากนั้นลอดสะพานพระพุทธยอดฟ้าสู่คลองสาน ไปเยือนศาลเจ้าพ่อกวนอูที่มีเทพเจ้ากวนอูประดิษฐานเก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพฯ และไปชมบ้านโบราณแต่สไตล์จีนอายุกว่า 200 ปี ได้เรียนรู้และเห็นถึงวิถีความเป็นอยู่ของคนจีนโบราณและสถาปัตยกรรมการสร้างบ้านผ่านทางห้องหับต่างๆ
ต่อมาพวกเรามาหยุด Scooter กันที่ วัดทองธรรมชาติหรือวัดทองบน เพื่อสักการะพระประธานและเดินทางต่อไปยัง ป้อมป้องปัจจามิตร เป็นป้อมเดียวจาก 8 ป้อมที่ใช้ป้องกันข้าศึกริมแม่น้ำที่ยังเหลืออยู่ เพื่อร่วมกันถ่ายภาพเป็นที่ระลึกก่อนจะลาจากกันไปคนละทาง ถือเป็นช่วงการจบ One day trip อย่างรับผิดชอบทางการท่องเที่ยวโดยสมบูรณ์
เป็นที่เชื่อว่าภายหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายลง นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนมาก มีการวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวหลังจากที่อั้นมานาน คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรมขอเชิญชวนให้ผู้อ่านช่วยกันปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินทาง และนำเอาการเดินทางแบบไร้คาร์บอน (Zero carbon) หรือแบบคาร์บอนต่ำ (Low carbon) มาเป็นวิถีการเดินทางใหม่กันนะคะ
บันทึกเรื่องราวโดย : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธารีทิพย์ เหล่าวิโรจนกุล อาจารย์ประจำคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ขอบคุณภาพจาก : กรมส่งเสริมคุณภาพและสิ่งแวดล้อม และ Scooter de urban
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี