“วัดถ้ำสาริกา” ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก เป็นหนึ่งในหมุดหมายของโครงการท่องเที่ยวโดยชุมชน “ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” และเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญในประวัติขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งท่านได้มาธุดงควัตร ณ ถ้ำสาริกา ภายหลังได้รับข้อธรรมจากพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) อดีตเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส กรุงเทพมหานคร
ระยะที่พระอาจารย์มั่นจำพรรษาอยู่วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหารได้พยายามมาศึกษาอบรมอุบายปัญญาเพิ่มเติมกับท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) ที่วัดบรมนิวาสมิได้ขาด เวลามีโอกาสก็เข้าไปกราบนมัสการและเล่าธรรมะถวาย และเรียนถามปัญหาข้อข้องใจเกี่ยวกับอุบายปัญญากับท่านเจ้าคุณอุบาลี วัดบรมนิวาส ท่านก็ได้รับอธิบายวิธีพิจารณาปัญญาเพิ่มเติมให้จนเป็นที่พอใจ แล้วกราบลาท่านไปเที่ยววิเวกทางถ้ำสาริกา เขาใหญ่ จังหวัดนครนายก
เมื่อจวนจะถึงวันลงจากถ้ำสาริกา ตอนกลางคืนราว 4.00 นาฬิกา คือ 10 ทุ่ม ท่านคิดถึงท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ วัดบรมนิวาส ว่าเวลานี้ท่านจะพิจารณาอะไรอยู่ จึงกำหนดจิตส่งกระแส ลงมาดูท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ก็ทราบว่า เวลานั้นท่านกำลังพิจารณาปัจจยาการคืออวิชชาอยู่ ท่านอาจารย์ทราบแล้วก็จดจำวันไว้ เวลาลงมากรุงเทพฯ ได้โอกาสก็เรียนถามท่านตามที่ตนทราบมาแล้ว ท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ พอได้ทราบเท่านั้น เลยต้องสารภาพและหัวเราะกันพักใหญ่ พร้อมทั้งชมเชยว่า “ท่านมั่นนี้เก่งจริง เราเองเป็นขนาดอาจารย์ แต่ไม่เป็นท่า น่าอายท่านมั่นเหลือเกิน ท่านมั่นเก่งจริง” แล้วก็กล่าวชมเชยว่า “มันต้องอย่างนี้ซิลูกศิษย์พระตถาคต ถึงจะเรียกว่าเดินตามครู พวกเราอย่าทำตัวเป็นโมฆะจากธรรมของพระพุทธเจ้าเสียหมด ต้องมีผู้ทรงธรรมท่านไว้บ้าง สมกับธรรมเป็นอกาลิโก ไม่ปล่อยให้กาลสถานที่และความเกียจคร้านเอาไปกินเสียหมด ธรรมจะไม่ปรากฏแก่โลกทั้งที่พระพุทธเจ้าประกาศสอนแก่หมู่ชน ต้องทำอย่างท่านมั่นที่ได้ความรู้ต่าง ๆ มาเล่าสู่กันฟังอย่างนี้จึงเป็นที่น่าชมเชย”
นอกจากนี้องค์หลวงปู่มั่นยังได้แก้ความปรารถนาพุทธภูมิของท่านเจ้าคุณอุบาลี ซึ่งเป็นคู่ธรรมร่วมชาติกันมากับองค์หลวงปู่มั่น และ เรื่องราวระหว่างที่องค์หลวงปู่มั่นได้ธุดงควัตรมายังถ้ำสาริกาในช่วงประมาณปี พ.ศ.2455 ปรากฏว่าเมื่อแรกมาพำนักต้องประสบกับภาวะอาพาธ ท่านใช้การบำเพ็ญภาวนาเอาชีวิตเข้าแลกจนได้รับ “ธรรมโอสถ” ผ่านวิกฤติหายจากอาพาธมาได้ และด้วยการภาวนาวิปัสสนาอย่างอุกฤษฏ์จนได้รับแสงแห่งปัญญาอันเป็น “ธรรมอัศจรรย์” อันเป็นประจักษ์พยานแห่งมรรคผลตามคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ “ถ้ำสาริกา” แห่งนี้
บริเวณ “วัดถ้ำสาริกา” ยังมีธรรมชาติที่สวยงามมีลักษณะเป็นเพิงหินภายใต้หินก้อนใหญ่บนภูเขาลูกเล็กๆรายรอบบริเวณใกล้เคียงกับผืนป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อีกด้วย รวมถึงวิถีธรรมชาติของชุมชน ซึ่งในเส้นทาง “ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” ยังมีจุดแนะนำให้ประชาชนได้แวะเวียนเข้าไปเยี่ยมชมคือ มิวเซียม ปะพวน ที่ปากพลี เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ ดำเนินการโดย สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) ร่วมกับศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชวัดฝั่งคลอง ณ วัดฝั่งคลอง ต.เกาะหวาย อ.ปากพลี จ.นครนายก ต้นแบบพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ในระดับภูมิภาค และเป็นแหล่งท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ด้านชาติพันธุ์ของจังหวัดนครนายก เพื่อบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิต ความเชื่อ ประเพณีและวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์ของชาวไทยพวนในอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก เพื่ออนุรักษ์วิถีชีวิตพื้นบ้านแบบไทยพวน ที่กำลังค่อยๆ สูญหายและถูกกลืนไปกับสังคมไทยสมัยใหม่ รูปแบบดำเนินการภายใต้แนวคิด Play and Learn เพื่อให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตชีวา มีเนื้อหา และกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับยุคสมัยผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ เวลา 09.00-16.00 น.
คุณสุรพล เศวตเศรนี รองประธานคณะทำงานโครงการท่องเที่ยวโดยชุมชนตามรอยองค์หลวงปู่มั่น บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากดำริของคุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้จัดทำโครงการท่องเที่ยวโดยชุมชน “ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” เพื่อให้ประชาชนและพุทธศาสนิกชนได้เข้าไปศึกษาคำสอนอันดีงามขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจาร์ยใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ โดยองค์ท่านเป็นต้นแบบให้กับพระภิกษุสงฆ์และฆราวาสทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานและเจริญสมาธิภาวนา
สำหรับเส้นทางธุดงควัตรขององค์หลวงปู่มั่นในสถานที่ต่างๆทั้งภาคกลาง,ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และประเทศใกล้เคียง สถานที่เหล่านี้ล้วนเป็นหลักฐานสำคัญ ที่บอกเล่าปฏิปทาขององค์หลวงปู่มั่นให้กับพุทธศาสนิกชน
ขณะที่โครงการ “ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” ยึดหลักการทำงานร่วมกันระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน ภายใต้หลัก “บวร” และพัฒนาเป็น บริษัท วิสาหกิจชุมชน ราชการ “บวร” เข้าบูรณาการ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรายได้ของชุมชนจากโครงการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่เป็นการกระจายรายได้เข้าสู่ผู้ประกอบการร้านค้าชุมชน ร้านอาหาร โฮม สเตย์ ผู้ผลิตสินค้าชุมชน ของที่ระลึก และพัฒนาต่อยอดให้มีวิสาหกิจเพื่อสังคมในอนาคต
สำหรับองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ประกาศยกย่ององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก สาขาสันติภาพ ระหว่างปี พ.ศ. 2563 - พ.ศ. 2564 และในโอกาสครบรอบ 150 ปี ชาตกาลองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ทาง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ มูลนิธิสิริวัฒนภักดี ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย “โครงการท่องเที่ยวโดยชุมชน ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต”เชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนร่วมเดินทางเรียนรู้ข้อวัตรปฏิปทาอันงดงามและคำสอนขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ใน ๑๒ จังหวัด และ ๓๖ หมุดหมายแห่งทั่วประเทศ เพื่อรวมพลังส่งเสริมการสร้างรายได้ และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน
ส่วนโครงการท่องเที่ยวโดยชุมชน ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมกันน้อมระลึกถึงพระคุณขององค์หลวงปู่มั่น ที่ได้บำเพ็ญคุณประโยชน์อย่างมากมายไว้แก่พระพุทธศาสนา และสังคมไทย พร้อมน้อมนำหลักคำสอนมาปฏิบัติสืบต่อไป และยังเป็นการส่งเสริมการสร้างรายได้ และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในด้านการท่องเที่ยว โดยชุมชนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ทางโครงการได้ให้ข้อมูลสำคัญ 36 แห่งทั่วประเทศที่หลวงปู่มั่นได้ธุดงควัตรไปในพื้นที่ต่างๆผ่านทาง www.luangpumun-cbt.org เพื่อให้ข้อมูลสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนโดยรอบสถานที่เหล่านี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากไปในเวลาเดียวกัน
ขอบคุณข้อมูล
https://www.posttoday.com/politics/347419
หนังสือประวัติพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) โดยมูลนิธิพระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี