“ถ้าที่ดินที่น้ำท่วมทุกปี และ ไม่มีน้ำใช้ในฤดูแล้ง จะทำเกษตรได้ไหม” คำถามนี้ของผู้เข้ามาเรียนรู้การทำเกษตรของนายสุพจน์ โคมณี ชาวอำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ นำมาสู่การซื้อที่ดิน 32 ไร่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เลขที่ 9 หมู่ 6 ตำบลหนองกระเจา อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อปั้นเป็น “ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง นายสุพจน์ โคมณี” ของสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับเกตรกรรุ่นใหม่ ที่สนใจทำเกษตรแปลงเล็ก ตามแนวทางพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ และ เศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร
นายสุพจน์เป็นหนึ่งในเกษตรกรที่สู้ชีวิตมาตลอด โดยเริ่มทำเกษตรกรรมสืบทอดจากรุ่นปู่ย่าตายาย และ ด้วยความที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะไม่พร้อมด้านการเงินในการสนับสนุนด้านการศึกษา และ นายสุพจน์เป็นน้องคนสุดท้อง คนที่ 11 ของบ้าน ทำให้นายสุพจน์ได้เรียนถึงเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนบ้านดงขุย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ และ เริ่มทำเกษตรอย่างจริงจังในวัย 18 ปี โดยมารดามอบที่ดิน 30 ไร่ ใน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ให้ทำเกษตร จึงมีแนวคิดว่า การทำเกษตร ถ้าจะให้มีเงิน หรือ รวย จะต้องทำเกษตรแปลงใหญ่ คือ ทำมากต้องได้มาก จึงทุ่มสรรพกำลังทั้งหมดทำเกษตรแปลงใหญ่ตามความเชื่อของตนเอง ด้วยการปลูกข้าวโพดทั้งหมด 30 ไร่
โดยในปีแรกของการทำไร่ข้าวโพดก็พบอุปสรรคอย่างหนัก คือ เรื่องสภาพดินฟ้าอากาศที่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงทำให้เกิดปัญหาขาดทุน และ ต้องกู้หนี้ยืมสินเงินนอกระบบมาทำเกษตร และ ในที่สุดต้องขายที่ดินจำนวน 30 ไร่ เพื่อปลดหนี้ และกลับมาอยู่ที่ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ โดยมารดาได้มอบมรดกที่ดินให้ทำเกษตรอีก 48 ไร่ และในเวลานั้นได้แบ่งที่ดินเพื่อนำไปกู้เงินในธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง จำนวน 28 ไร่ และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
“ตอนนั้นผมก็ยังมีวิธีคิดแบบเดิม คือ ทำมากต้องได้มาก ก็ประสบปัญหาขาดทุนเหมือนเดิม ทำให้ต้องนำที่ดิน 28 ไร่ขายเพื่อปลดหนี้อีกรอบ และ ชีวิตผมมาพลิกในทางที่ดี เมื่อถึงปี 2542 ผมนำที่ดินอีก 20 ไร่ เข้าโครงการเศรษฐกิจทฤษฎีใหม่ โดยมีสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครสวรรค์เป็นผู้สนับสนุนการอบรม และ ความคิดที่ว่าทำมากได้มาก ก็ไม่มีอยู่ในตัวเองอีกต่อไป และ เริ่มมาทำเกษตรผสมผสาน บนพื้นที่แปลงเล็ก ทำให้หลังจากนั้นในระยะเวลาเพียง 6 ปี ผมสามารถปลดหนี้ได้ถึง 700,000 บาท” นายสุพจน์กล่าว
สำหรับการทำเกษตรของนายสุพจน์นั้น ใช้เวลา 12 ปี ในการพลิกฟื้นตัวเองกับการเรียนรู้และเดินตามเกษตรทฤษฎีใหม่ ทำให้ในปี 2552 นายสุพจน์ได้รับรางวัลที่ 1 ของภาคเหนือ ประเภทประชาชนทั่วไป ในเวทีการประกวด “หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ครั้งที่ 2 จัดโดย สำนักงาน กปร. โดยในงานดังกล่าวมีทั้งหมด 15 ประเภท และ ทำให้พื้นที่เกษตรกรรมของนายสุพจน์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง นายสุพจน์ โคมณี ของ สำนักงาน กปร.” ทำให้ตลอดระยะเวลาช่วงปี 2552-2554
นายสุพจน์ได้เผยแพร่ความรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ให้กับผู้ที่มาเรียนรู้เฉลี่ย 4,000 คนต่อปี แต่ก็มีผู้ที่มาเรียนรู้ตั้งคำถามว่า หากที่ดินไม่พร้อมทำเกษตร จะทำเกษตรได้ไหม นายสุพจน์จึงตัดสินใจซื้อที่ดินที่มีปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม ในเดือนมกราคม พ.ศ.2554
“ผมนำความผิดพลาดในการทำเกษตร มาแก้ไขบนพื้นที่แปลงใหม่ ทำให้ที่ดินที่ใหม่เป็นพื้นที่ศูนย์เรียนรู้ฯที่ไปได้เร็ว เพราะผมนำองค์ความรู้ที่ได้จากแนวทางพระราชดำริของพระองค์ท่านมาปล่อยในที่แห่งใหม่อย่างเต็มที่” นายสุพจน์เล่าให้ฟังอย่างเป็นกันเองที่ดิน 32 ไร่นี้ ยังทำให้นายสุพจน์มีโอกาสพบปะลูกศิษย์ที่เป็นคนรุ่นใหม่ โดยแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันด้านการตลาดW
นายสุพจน์เล่าว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่หันทำเกษตรกันมากขึ้น และ มีข้อดีคือ คนรุ่นใหม่ ไม่มีองค์ความรู้เรื่องเกษตรเมื่อมาเรียนรู้จึงเปิดใจรับข้อมูลเต็มที่ ประกอบกับมีจุดแข็งเรื่องการทำตลาด โดยคนรุ่นใหม่จะมองที่การตลาดก่อนการผลิต ขณะที่การทำเกษตรของคนรุ่นเก่าจะเริ่มที่การผลิตก่อนการทำตลาด
ปัจจุบันนายสุพจน์ยังได้ประยุกต์วิธีคิดด้านการตลาดมาสร้างแบรนด์ให้กับสินค้าเกษตรกรรม ภายใต้ชื่อ “นาฉัน” โดยนำสินค้าเกษตรมาร้อยเรียงเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ เช่น นาข้าว สามารถใช้ประโยชน์จากนาข้าวได้หมด โดยข้าวเปลือกสามารถนำไปขายพันธุ์ข้าว และ นำข้าวไปบริโภค ส่วนแกลบนำไปทำเป็นปุ๋ยผสมดินข้าว เพื่อใช้ต่อ หรือ ขายได้อีก ส่วนฟางข้าวนำมาสับ บรรจุถุงขายให้กับผู้ปลูกเกษตรอินทรีย์ ส่วนลำกับปลายข้าวใช้ทำอาหารให้ปลาในบ่อ และ พอมาที่ “ปลา” ก็สามารถแปรรูปเป็นปลาส้ม , ปลาร้า และ ปลาจ่อม
วันนี้แบรนด์ “นาฉัน” ของนายสุพจน์จึงมีสินค้าเกษตรที่หลากหลาย โดยแบ่งเป็นประเภท ข้าว , ผัก , ปลา และ พืช ซึ่งในส่วนของพืชเน้นมาที่ “มะพร้าวน้ำหอม” ที่นายสุพจน์มองว่ามีสตอรี่เป็นของตัวเองสำหรับมะพร้าวน้ำหอมของไทย
สำหรับผู้สนใจเรียนรู้การทำเกษตร โดยเฉพาะคนเมืองสามารถสอบถามได้ที่นายสุพจน์ โคมณี เบอร์โทร.081-041-0911
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี