9 กุมภาพันธ์ 2566 ความคืบหน้ากรณีเรือภัทรพัณณ์ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันปาล์มขนาดใหญ่ มีขนาด 2,037 ตันกรอส ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลา อ.เมืองสงขลา ซึ่งอยู่ใกล้กับเขื่อนกันทราย ปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
ล่าสุด ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามแผนการกู้เรือลำนี้ พบว่าบริเวณที่เรือภัทรพัณณ์เข้ามาเกยตื้น คลื่นลมบริเวณชายฝั่งยังมีกำลังแรงพัดเข้าหาฝั่งอยู่ตลอดเวลา เรือถูกคลื่นซัดติดอยู่ริมชายหาดและมีหาดทรายเพิ่มขึ้นมาติดลำเรือฝังในทรายริมชายหาด
ในขณะนี้บริษัทที่รับจ้างกู้เรือฯได้นำเรือบาสเครน ขนาดใหญ่ 2 ลำ มาดำเนินการนำโซ่สมอจากหัวเรือมาต่อกับสมอตัวใหญ่ของบริษัทที่ใช้ในการกู้เรือ เพื่อนำไปทิ้งให้ไกลจากฝั่ง เนื่องจากหัวเรือยังหันหัวเรือออกทะเลไม่ได้ชิดติดชายหาด จึงจำเป็นต้องยึดหัวเรือไม่ให้คลื่นตีกลับเข้าฝั่ง เพื่อสะดวกในการลากเรือออก โดยปล่อยโซ่สมอให้นำสมอออกไปวางห่างจากฝั่งให้ไกลที่สุด เพื่อช่วยดึงหัวเรือเอาไว้
หลังจากนั้นก็จะระดมรถแม๊คโฮขุดทรายบริเวณชายหาดที่ติดลำเรือออก ให้ลึกกว่า 3 เมตร ที่ฝังตัวเรืออยู่เพื่อให้เรือลอยลำขึ้นมาได้ ในการขุดทรายบริเวณชายหาดก็คงจะต้องเร่งขุด โดยเฉพาะในช่วงที่มีคลื่นลมพัดเข้าหาฝั่ง น้ำทะเลก็จะขึ้นมาบริเวณชายหาดที่เพิ่มขึ้นมาข้างตัวเรือ
โดยชุดเซาะเป็นร่องให้น้ำทะเลเข้ามาก็จะช่วยทำให้ขุดได้เร็วขึ้น คาดว่า ไม่เกินวันที่ 17 ก.พ.นี้ สามารถลากเรือออกจากชายหาดได้ เนื่องจากทางบริษัทที่รับจ้างกู้เรือบรรทุกน้ำมันปาล์มลากออกจากฝั่ง
โดยทำสัญญาจ้างภายใน 1 เดือน เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ที่ผ่านมาและงานจะแล้วเสร็จซึ่งหมายถึงการดำเนินการลากเรือออกจากชายหาดออกสู่ทะเลภายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ตามสัญญาจ้าง นับวันนี้ก็คงเหลือเวลาอีกเพียง 9 วัน ซึ่งนับจากวันนี้ไป บริษัทที่รับจ้างก็คงจะเร่งดำเนินการไปตามแผนงานในการลากเรือออกจากชายหาดให้ตามเวลาที่กำหนด เนื่องจากบริษัทที่มากู้เรือมีความชำนาญในการกู้เรือบริเวณนี้มาแล้ว
เรือภัทรพัณณ์ มาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2565 จนถึงวันนี้เป็นเวลา 51 วัน และบนเรือมีลูกเรือประจำอยู่บนเรือ จำนวน 11 คน
สำหรับแผนการกู้เรือภัทรพัณณ์ ตามแผนงานที่วางไว้ โดยจะใช้เรือดูดทรายทำการดูดทรายที่บริเวณน้ำลึกที่ประมาณ 4 เมตร ทำร่องน้ำเข้าไปหาตัวเรือที่เกยตื้นชายหาด ให้มีความลึกตลอดร่องน้ำที่ 4 เมตร มีความยาว 500 เมตร และมีความกว้างร่องน้ำ 18 เมตร เพื่อเป็นร่องสำหรับนำเรือออก
หลังจากนั้นใช้รถแบ็กโฮ 2 คัน พร้อมทั้งเรือแม๊คโฮร์ 2 ลำ ทำการขุดรอบเรือที่เกยชายหาด จนกระทั่งให้มีน้ำเลี้ยงโดยรอบเรือ และให้เรือลอยขึ้นด้วยตัวเอง
เมื่อเรือลอยแล้ว ก็นำเชือกมาผูกกับหัวเรือภัทรพัณณ์ ให้เรือบาสเครนขนาดใหญ่ 2 ลำ ทำการลากเพื่อหมุนหัวเรือออกสู่ทะเล ในขณะเดียวกัน ก็ยังคงใช้เรือแบ็กโฮ 2 ลำ ช่วยทำการขุดรอบๆ ตัวเรือ
จนกระทั่งหัวเรือหมุนออกสู่ทะเล และเข้าไปในร่องน้ำที่ทำการขุดไว้ด้วยเรือขุดหัวสว่าน แล้วให้เรือบาสเครนทั้ง 2 ลำ ลากเรือออกสู่น้ำลึก และทิ้งสมอในจุดที่ปลอดภัยต่อไป
หลังจากนั้นจะมีนักประดาน้ำลงไปตรวจสอบเช็กสภาพใต้ท้องเรือว่ามีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นบ้างหรือไม่ สำหรับร่องน้ำที่ขุดนำเรือออกก็จะทำการปรับพื้นทรายให้กลับเข้าสู่สภาพเดิมทันที โดยใช้เวลาตามแผนงานที่กำหนดไว้.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี