'ไก่ดำคอล่อน'ไก่ดำสายพันธุ์ใหม่ เกษตรกรทดลองผสมพันธุ์ขึ้นเอง ตัวใหญ่กว่าไก่ดำทั่วไป เนื้อเยอะ มีสารอาหารสูง เพราะเลี้ยงด้วยสมุนไพร 5 ชนิด
2 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงไก่ดำบ้านเขาหลัก หมู่ที่ 7 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง นายสวัสดิ์ ขุนนุ้ย ประธานศูนย์เรียนรู้ฯ นำไก่ดำคอล่อนสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเกิดจากการผสมพันธุ์กัน ระหว่างไก่ดำศรีวิชัยกับไก่ดำทั้ง 5 สายพันธุ์ ได้แก่ ไก่ดำเคยู ไก่ดำอินโด ไก่ดำภูพาน ไก่ดำยูนาน และไก่ดำมองโกล ทำให้ได้ลูกไก่ดำคอล่อนพันธุ์ผสมที่แข็งแรง ทนทานต่อโรค ตัวใหญ่ หน้าอกกว้าง เนื้อเยอะ ไม่เหนียว ความดำชัดเจนทุกส่วนสัดทั้ง ตา ปาก เนื้อ ขา และกระดูก ทำให้ได้ราคาดีกิโลกรัมละ 250 บาท จากไก่ดำปกติกิโลกรัมละ 200 บาท
ไก่ดำคอล่อน อายุ 1 เดือน ขายตัวละ 200 บาท อายุ 2 เดือนตัวละ 250 บาท แต่หากเป็นไก่ดำพร้อมนำไปทำอาหาร น้ำหนักตัวละ 3-4 กิโลกรัม อายุตั้งแต่ 4-5 เดือน ขายกิโลกรัมละ 250 บาท แม้ราคาจะแพงกว่าเนื้อหมู แต่ความต้องการบริโภคเนื้อไก่ดำกลับสวนกระแส
ซึ่งกว่าจะได้ไก่ดำคอล่อนสายพันธุ์ใหม่ ต้องใช้เวลาทดลองเกือบ 5 ปี แต่เกิดความคุ้มค่ามาก เพราะตลาดมีความต้องการสูง มีทั้งลูกค้าที่ซื้อไปทำอาหารเมนูต่างๆเพื่อบำรุงสุขภาพ และส่วนหนึ่งนำไปแก้บนทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิม โดยในแต่ละเดือนศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงไก่ดำบ้านเขาหลัก สามารถผลิตลูกไก่ดำคอล่อนได้สัปดาห์ละ 100 ตัว หรือเดือนละไม่ต่ำกว่า 2,000 ตัว
ส่วนหนึ่งแจกจ่ายให้กับสมาชิกกลุ่มฯนำไปเลี้ยงต่อ และรับซื้อคืนเมื่อไก่ดำครบกำหนดจับขาย ในราคากิโลกรัมละ 200 บาท แต่ก็ยังผลิตไม่เพียงพอ เนื่องจากไก่ดำคอล่อนบ้านเขาหลัก นอกจากจะเลี้ยงด้วยอาหารทั่วไปแล้ว ยังมีส่วนผสมของสมุนไพร 5 ชนิด เช่น ฟ้าทะลายโจร ใบย่านาง ขมิ้นชัน แหนแดงและใบหม่อน เพื่อให้ไก่ดำแข็งแรงทนทานมากขึ้น และทำให้รสชาติของไก่ดำคอล่อนแตกต่างจากไก่ดำทั่วไป
อีกทั้งมีสรรพคุณทางยาช่วยสร้างคลอลาเจน บำรุงผิวพรรณ บำรุงสายตา โดยสารเมลานินในไก่ดำช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้เลือดลมไหลเวียนดี เหมาะสำหรับผู้ป่วยหลังพักฟื้น มีคอเลสเตอรอลต่ำ และมีประโยชน์ต่างๆมากมาย ซึ่งตอนนี้มีไก่ดำคอล่อน อยู่ประมาณ 800 ตัวแต่ถูกสั่งจองหมดแล้ว
ล่าสุด ศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงไก่ดำบ้านเขาหลัก ได้แปรรูปไก่ดำเป็นจ๊อไก่ดำ นักเก็ตไก่ดำและน้ำพริกไก่ดำใบธัมมัง พืชสมุนไพรกลิ่นคล้ายแมงดาที่มีมากทางภาคใต้ เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในตรัง เพื่อให้ลูกค้าที่เดินทางไปท่องเที่ยวบ้านเขาหลัก ได้ชิมและวางขายในราคาแพ็คละ 129 บาท ผลตอบรับดีเกินคาด แต่ยังมีไม่เพียงพอต่อการจำหน่ายนอกพื้นที่
ด้านนายสวัสดิ์ ขุนนุ้ย ประธานศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงไก่ดำบ้านเขาหลัก กล่าวว่า เดิมทีเลี้ยงไก่ดำทั่วไปรวม 5 สายพันธุ์คือมองโกล อินโด ยูนาน ภูพานและเคยู แต่ด้วยการประสบการณ์ที่เลี้ยงจึงคิดว่าน่าจะพัฒนาเรื่องสายพันธุ์ เลยเห็นไก่คอล่อนศรีวิชัย ซึ่งชาวบ้านบอกว่าไม่มีปัญหาเรื่องโรคภัยไข้เจ็บและทนทานต่อโรค น้ำหนักตัวดี กล้ามหน้าอกใหญ่
ซึ่งไก่ดำปกติถ้านำไปย่องเนื้อจะน้อย เลยคิดผสมให้เป็นไก่คอล่อน โดยใช้เวลา 4 ปีกว่า กว่าจะประสบความสำเร็จ แต่เมื่อสำเร็จก็คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้มา เพราะว่าอายุไก่ที่เลี้ยงในเวลาเท่ากัน ไก่คอล่อนน้ำหนักจะเยอะมาก ที่สำคัญความดำชัดเจน ทำให้นักท่องเที่ยวและคณะศึกษาดูงานสั่งจองอย่างต่อเนื่อง ณ ปัจจุบันถือว่าเป็นตลาดที่ไปได้ไกล
สำหรับไก่ดำคอล่อนขายกิโลกรัมละ 200 บาท ทำเสร็จแล้วขายกิโลกรัมละ 220 บาท แต่ไก่คอล่อน ขายกิโลละ 250 บาท โดยในระยะเวลา 5 วันจะได้ลูกไก่ดำประมาณ 100 ตัว ขุนจนอายุครบ 1 เดือนครึ่ง ก็จะกระจายให้กับสมาชิกฯไปเลี้ยงและรับซื้อคืนกิโลกรัมละ 200 บาท.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี