ชาวบ้านในตำบลน้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง พาไปดูต้นมะไฟกาหรือมะไฟป่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ กำลังสุกสีแดงเพลิง ลูกดกตั้งแต่โคนต้นจนถึงปลายกิ่ง จากไม้ป่าไร้ค่ากลายเป็นไม้เศรษฐกิจ ชาวบ้านนำต้นกล้าไปขายสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ลูกค้านิยมปลูกเป็นไม้ประดับตกแต่งสวน มีรสหวานอมเปรี้ยว วิตามินซีสูง แถม 1 ปีมีให้กินแค่ 1 ครั้ง

6 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเขาหลัก หมู่ที่ 7 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ชาวบ้านพาไปดูต้นมะไฟกาหรือมะไฟป่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติริมเทือกเขาบรรทัด และกำลังสุกเต็มต้นตั้งแต่โคนจนถึงปลายกิ่ง มีสีแดงเพลิงสดใส สวยงาม สร้างสีสันให้กับผืนป่าได้เป็นอย่างมาก ซึ่งมะไฟกา จะเริ่มสุกงอมเต็มที่ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนของทุกปี

1 ปีจะมีมะไฟกาให้กินแค่ 1 ครั้ง รสชาติเมื่อสุกงอมจะหวานอมเปรี้ยว ชาวบ้านนิยมนำไปกินผลสด ทำยำ เปลือกของลูกสุกใช้แกงเลียง ทำส้มตำและแกงส้มได้ หรือใช้แทนมะนาวได้

ในอดีตที่ผ่านมา มะไฟกา หรือมะไฟป่า ไม่เป็นที่นิยมของชาวบ้านมากนัก เนื่องจากมีรสเปรี้ยวนำ ทำให้เป็นไม้ป่าไร้ค่าอยู่นานหลายปี แต่ด้วยสีสันที่แดงสดใส เป็นพวงห้อยย้อยลงมาจากโคนถึงปลายกิ่ง  แตกต่างจากผลไม้ทั่วไป  สามารถดึงดูดใจของเจ้าของรีสอร์ทและโรงแรมต่างๆ  ที่เห็นแล้วเกิดความชื่นชอบ ประทับใจ และสนใจสั่งซื้อต้นพันธุ์ เพื่อนำไปปลูกเป็นไม้ประดับตกแต่งสวน สร้างสีสันให้กับอาคารสถานที่เป็นจำนวนมาก

ทำให้ผู้นำชุมชนเกิดไอเดียในการส่งเสริมให้ชาวบ้าน ปลูกมะไฟกาบ้านละ 1 ต้น และเพาะต้นกล้ามะไฟกาขายในราคาต้นละ 100 บาท ปรากฏว่าผลตอบรับดีเกินคาด ทำให้ชาวบ้านหลายรายมีรายได้เสริมจากการขายต้นมะไฟกาคนละไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 บาทเลยทีเดียว  ส่วนลูกสุกสีแดง ขายกิโลกรัมละ 60 บาท บางรายมีแม่ค้ามารับซื้อมะไฟกาถึงสวน

นอกจากนี้ มะไฟกา ยังเป็นไม้ยืนต้นที่มีอายุยืนนับ 100 ปี ทรงพุ่มคล้ายกับต้นลางสาดหรือลองกอง สามารถขึ้นได้เองตามป่าธรรมชาติที่มีความร้อนชื้น มีคุณสมบัติทางยา ช่วยระบบขับถ่าย บำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ เพราะมีวิตามินเอและวิตามินซีสูง ช่วยให้ให้เลือดลมไหลเวียนดี แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน เมารถเมาเรือและอื่นๆได้สารพัดประโยชน์ จึงทำให้มะไฟกากลายเป็นไม้เศรษฐกิจตัวใหม่ ที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านอย่างเป็นกอบเป็นกำ 

สำหรับที่บ้านเขาหลัก มีต้นมะไฟกาที่ขึ้นเองมากกว่า 50 ต้น โดยมีชาวบ้านปลูกเพิ่มตามบ้านเรือนและริมถนนทางเข้าหมู่บ้านอีกกว่า 100 ต้น คาดในอีก 4-5 ปีข้างหน้า บ้านเขาหลักจะมีสีแดงสดใสทั้งหมู่บ้านในช่วงฤดูกาลที่ลูกมะไฟกาหรือมะไฟป่าสุกพร้อมกันเต็มต้น ซึ่งอาจจะกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในอนาคตอันใกล้

ด้านนายภาส จันทร์หอม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.น้ำผุด อ.เมืองตรังกล่าวว่า ตนอายุ 50 กว่าปีก็เห็นมะไฟกา 2 ต้นนี้มีอยู่แล้ว จุดเด่นคือมีลูกตั้งแต่โคนต้นถึงปลายสุด ซึ่งปลายเดือนมิถุนายนจะเริ่มสุกเต็มที่ ราคาขายกิโลละ 60 บาท รสหวานอมเปรี้ยว รับประทานอร่อยมาก ส่วนต้นขยายพันธุ์ไปปลูกในสวนผสมและรีสอร์ท เป็นต้นไม้ที่ประดับเพื่อความสวยงามและรับประทานได้ มีชาวบ้านไปเพาะขายต้นละ 100 บาท ซึ่งในหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านรณรงค์ให้ปลูกบ้านละ 1 ต้น โดยเขตถนนรอบหมู่บ้านจะมีทุกบ้าน แต่ในป่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติจะมีเยอะมาก.012