เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 กระแสฟีเวอร์การสร้างเงินสร้างอาชีพด้วยการเลี้ยงตั๊กแตนกำลังมาแรง วันนี้พาไปพบกับหนุ่มพนักงานแบงค์ชาวพิษณุโลก ที่ลาออกจากงานและผันตัวเองมาทำตามฝันหันมาจับอาชีพเกษตรควบคู่ไปกับดูแลธุรกิจร้านขายอุปกรณ์การเกษตรของครอบครัว หันมาเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้าโมจีน หรือที่คนอีสานเรียกว่า ปาทังก้าโมไข่ ทั้งขายตัวสดราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 450 บาท ส่วนไข่ตั๊กแตนปาทังก้าราคาสูงถึงขีดละ 1,000 บาท หรือกิโลกรัมละ 10,000 บาท สามารถสร้างรายได้ถึงเดือนละ 3 - 5 หมื่นบาทเลยทีเดียว
ว่าที่ร้อยตรีกฤษฏา มีพร้อม อายุ 33 ปี เจ้าของฟาร์มตั๊กแตน ตั้งอยู่เลขที่ 79/1 ม.9 ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เล่าให้ฟังว่าแต่เดิมตนเป็นพนักงานแบงค์ ก่อนจะลาออกมาทำตามความฝันเพราะตนชอบงานเกษตร หลังลาออกมาก็ปรับพื้นที่บ้าน ทำทุกอย่างตั้งแต่เพาะพันธุ์ต้นไม้ กล้วยด่าง เลี้ยงด้วงมะพร้าว เลี้ยงปลาดุกอุย/ปลาช่อน ปูนาในบ่อซีเมนต์ จนกระทั่งมาพบว่ากระแสการเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้ากำลังมาแรง ตนเลยเริ่มต้นศึกษาจากยูทูป เข้ากลุ่มต่างๆ ที่เลี้ยงตั๊กแตน หาแหล่งซื้อพันธุ์ ตลอดจนศึกษาวิธีการเลี้ยงการให้อาหาร การดูแลต่างๆ ก็ยิ่งพบว่าน่าสนใจมากเพราะเป็นอาชีพที่ให้ผลตอบแทนสูง และต้นทุนค่อนข้างต่ำมาก ก็เลยเริ่มต้นเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้าสายพันธุ์โมจีน หรือเรียกว่าปาทังก้าโมไข่ แบบที่ชาวอีสานเรียก
เริ่มต้นตนซื้อไข่ตั๊กแตนมาฝักก่อนเลย 1 กิโลกรัม ในราคา 1,000 บาท ทำโรงเลี้ยงแบบปิด ขนาด 2X1 เมตร ยกพื้นสูง มุงด้วยลี่สีน้ำเงินกันสิ่งแปลกปลอมเข้าไป โดยตั้งแต่เริ่มฝักไข่ใช้เวลาเพียง 48 - 50 วัน ก็สามารถเก็บไข่ตั๊กแตนขายได้ในราคา ขีดละ 1 พัน กิโลกรัมละ 1 หมื่นบาทได้เลย และตั๊กแตน 1 รุ่นจะมีอายุประมาณ 70 วัน และตั๊กแตน 1 รุ่นสามารถรองไข่ได้ประมาณ 2 - 4 รอบ โดยวงจรชีวิตของตั๊กแตนตั้งแต่เริ่มซื้อไข่มาฟักเป็นตัวเล็ก ใช้เวลาประมาณ 15 - 20 วัน จากนั้นตั๊กแตนตัวเล็กจะลอกคราบ 4 - 5 รอบ( 1 รอบใช้เวลา 10 - 15 วัน) จากนั้นก็จะกลายเป็นตั๊กแตนตัวเต็มวัยมีปีกพร้อมผสมพันธุ์ได้ โดยการผสมพันธุ์ตั๊กแตนจะเลือกคู่กันเองตามอัธยาศัย โดยใช้วิธีการขึ้นขี่กันโดยตัวผู้จะตัวเล็กกว่าอยู่บนหลังตัวเมียที่ตัวใหญ่กว่า หลังจากเขาผสมพันธุ์กันแล้วประมาณ 3 - 4 วัน ก็เตรียมกองทรายไว้เพื่อรองไข่ได้เลย โดยตั๊กแตนตัวเมียจะใช้วิธีใช้ก้นมุดเข้าไปในกองทรายเพื่อวางไข่ เมื่อวางไข่เสร็จแล้วตั๊กแตนก็จะกลบทราย จากนั้นใช้เวลา 3 - 4 วัน เราสามารถที่จะไปร่อนกองทรายเพื่อเก็บไข่ขายได้เลย
เมื่อตั๊กแตนอายุใกล้ครบ 70 วัน เราก็นำตัวไปขายสดแบบไม่เด็ดปีก ราคากิโลกรัมละ 450 - 500 บาท หรือแบบน๊อคฟรีซแข็งกิโลกรัมละ 350 - 400 บาท เรียกได้ว่าสามารถสร้างรายได้ได้ทั้งหมดช่วงวัยของตั๊กแตน ส่วนการเลี้ยงดูไม่ยากเลย แค่ระวังเรื่องสารเคมีต่างๆ และพวกมด ส่วนการดูแลก็ไม่ให้โดนแดดจนเกินไป มีผ้ายางกันฝนสาดเท่านั้น อาหารของตั๊กแตนก็กินหญ้าทั่วไปได้เลย ใบตอง หญ้าเนเปีย หรือหญ้าหญ้าฮาลาฟัล บราซิล ซึ่งหญ้าเหล่านี้จะมีโปรตีนสูง และสามารถปลูกเองได้ไม่ต้องซื้อ และตั๊กแตนก็กินไม่เปลือง
ซึ่งตั๊กแตนสดส่วนใหญ่ส่งขายร้านแมลงทอดเพราะตั๊กแตนเป็นอาหารทางเลือกที่ให้แคลเซียมสูง ส่วนไข่ตั๊กแตนส่วนใหญ่จะขายในกลุ่มผู้เลี้ยงตั๊กแตน จะเป็นลักษณะซื้อไปเพื่อไปฟักเลี้ยงตัวซะส่วนใหญ่ ซึ่งตอนนี้ในกลุ่มผู้เลี้ยงตั๊กแตนบอกเลยว่ามีความต้องการสูง ไม่พอขาย ของฟาร์มตนตอนนี้เลี้ยงไว้ประมาณ 10 โรงเลี้ยง กำลังปรับพื้นที่ทำโรงเลี้ยงเพิ่มเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด
สำหรับใครที่สนใจในอาชีพ หรืออยากจะมีรายได้เสริมก็สามารถมาศึกษาเรียนรู้วิธีการเลี้ยงกับตนได้เลย พร้อมที่จะแนะนำให้ทุกขั้นตอน หรือสำหรับใครที่เป็นมือใหม่อยากจะเริ่มต้นเลี้ยงตนก็มีชุดทดลองเลี้ยงให้ด้วยในราคาชุดละ 3,500 บาท โดยจะได้ทั้งกรงเลี้ยงแบบปิดขนาด 1x2 เมตร และไข่ตั๊กแตน 1 กิโลกรัม พร้อมขั้นตอนแนะนำการเลี้ยงต่างๆ และยินดีให้คำปรึกษาตลอด ที่สำคัญได้เป็นลูกทีมของตน ตนรับซื้อผลผลิตทั้งตัวตั๊กแตนและไข่ตั๊กแตนด้วย ให้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ทาง Facebook : Kung Nu Law (ป๋า กุ้ง) หรือโทร 064-7891955
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี