เกษตรกรชาวสวนยางบ้านขนุนคลี่ อำเภอทองผาภูมิ กาญจนบุรีใช้เวลาว่างออกบันทึกภาพ #ปูป่า ที่พบในพื้นที่สวนและรอบๆ หมู่บ้าน ซึ่งมีลักษณะคล้าย #ปูทูลกระหม่อม ก่อนนำมาเผยแพร่ในสื่อโซเซียลทั้ง FB และ Tik Tok หวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาศึกษาเพื่อนำไปสู่การอนุรักษ์
วันนี้ (17 มิ.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายจีรพันธ์ ขันแก้ว อายุ 48 ปีชาวบ้าน ม.1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เกษตรกรชาวสวนยางบ้านขนุนคลี่ ม.4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เจ้าของเฟสบุ๊ค Gee Khunkaew และ Tik Tok:@ geekhunkaew เผยแพร่คลิปวีดีโอและภาพนิ่งของปูป่าสีสันสวยงาม ที่มีพฤติกรรมธรรมชาติน่าเอ็นดู ทั้งการเคลื่อนไหวด้วยการเดินและวิ่งลงรูในน้ำ สร้างความสนใจให้แก่ผู้ที่พบเห็น พร้อมทั้งให้ข้อมูลของปูว่า น่าจะเป็นปูทูลกระหม่อมบ้าง ปูเจ้าฟ้าบ้าง ปูราชินีบ้าง
จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำการศึกษาข้อมูล เพื่อยืนยันสายพันธุ์ เพื่อนำไปสู่การอนุรักษ์ เนื่องจากปัจจุบันจากการศึกษาพบว่าจำนวนปูที่เคยพบในพื้นที่เริ่มลดลง เนื่องจากสภาพแวดล้อมและวิธีการทำการเกษตรในพื้นที่ที่เปลี่ยนไป การใช้สารเคมีในการเกษตรส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ของปู
จากการศึกษาของตนเองเชื่อว่าปูที่พบน่าจะเป็นปูทูลกระหม่อม เนื่องจากมีลักษณะเหมือนมากที่สุดเนื่องจากมีลักษณะ คือสีของกระดองที่เป็นสีม่วงเปลือกมังคุด บริเวณขอบเบ้าตาขอบกระดอง ขาเดินทั้ง 4 คู่ และก้ามหนีบทั้ง 2 ข้างมีจะเป็นสีเหลืองส้ม ปลายขาข้อสุดท้ายและปลายก้ามหนีบมีสีขาวงาช้าง และขนาดของปูมีความกว้างของกระดองประมาณ 3.5 เซนติเมตร ปูเพศผู้และเพศเมียจะมีลักษณะที่คล้ายกัน โดยจะมีส่วนที่กันคือส่วนท้องหรือที่เรียกว่าตะปิ้ง ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาคือลักษณะของปูทูลกระหม่อมจากข้อมูลที่ตนได้ศึกษามา
สำหรับ ปูทูลกระหม่อมนั้น เป็นปูที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในปูน้ำจืดที่มีสีสันสวยงามชนิดหนึ่งของโลก
โดยมีการค้นพบ “ปูทูลกระหม่อม” ครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2536 ในพื้นที่"เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน" อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม โดยศาสตราจารย์ไพบูลย์ นัยเนตร อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติประเทศเนเธอร์แลนด์ และได้พบว่าเป็นปูน้ำจืดชนิดใหม่ของโลก อีกทั้งในปีดังกล่าว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารีจะทรง เจริญพระชนมายุครบ 36 พรรษา ในฐานะที่พระองค์ ทรงเป็นผู้นำและมีพระปรีชาสามารถในงานด้านวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงได้กราบทูล ขอพระราชทานพระอนุญาตอัญเชิญพระนามของพระองค์มาเป็นชื่อของปูน้ำจืดชนิดนี้ และได้รับพระราชทานอนุญาตให้เรียกชื่อปูชนิดนี้ว่า "ปูทูลกระหม่อม" ซึ่งก็ได้กลายมาเป็นชื่อเรียกของปูชนิดนี้มาจนถึงปัจจุบัน
“ปูทูลกระหม่อม” ปูน้ำจืดที่มีสีสันงดงามอย่างมีเอกลักษณ์โดยศาสตราจารย์ไพบูลย์ นัยเนตร อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติประเทศเนเธอร์แลนด์ และได้พบว่าเป็นปูน้ำจืดชนิดใหม่ของโลก อีกทั้งในปีดังกล่าว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารีจะทรง เจริญพระชนมายุครบ 36 พรรษา ในฐานะที่พระองค์ ทรงเป็นผู้นำและมีพระปรีชาสามารถในงานด้านวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงได้กราบทูล ขอพระราชทานพระอนุญาตอัญเชิญพระนามของพระองค์มาเป็นชื่อของปูน้ำจืดชนิดนี้ และได้รับพระราชทานอนุญาตให้เรียกชื่อปูชนิดนี้ว่า “ปูทูลกระหม่อม” ซึ่งก็ได้กลายมาเป็นชื่อเรียกของปูชนิดนี้มาจนถึงปัจจุบัน
ไข่ของปูทูลกระหม่อมตัวเมีย มองแล้วคล้ายไข่ปลาแซลมอน
ในส่วนการดำรงชีวิตนั้น ปูทูลกระหม่อมจะขุดรูอยู่ในที่ชื้นในบริเวณที่มีต้นไม้ปกคลุมและมีแสงแดดรำไร ความลึกของรูขึ้นอยู่กับระดับน้ำใต้ดิน จะออกหากินในเวลากลางคืน และจะออกมาดักเหยื่อที่บริเวณรอบๆ ปากรูในรัศมีไม่เกิน 1 เมตร โดยอาหารจะเป็นพืชและสัตว์ เช่น เศษใบไม้ ไส้เดือน แมลงชนิดต่างๆ
ช่วงเวลาผสมพันธุ์ของปูทูลกระหม่อม จะเริ่มมีการผสมพันธุ์เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน - เดือนกันยายน ที่จะเป็นช่วงฤดูฝน เเละในฤดูการผสมพันธุ์สีสันของปูทูลกระหม่อมจะเห็นได้เด่นชัดและมีความสวยงามยิ่งขึ้นอีกด้วย หลังจากการผสมพันธุ์ประมาณ 4 เดือน ที่หน้าท้องของตัวเมียจะเริ่มมีไข่ประมาณ 10-35 ฟอง ในช่วงต้นเดือนมกราคมถึงเมษายน ไข่อ่อนเมื่อออกมาใหม่ๆ จะมีสีเหลืองอมส้มมองแล้วคล้ายๆ ไข่ปลาแซลมอน และเมื่อไข่แก่เต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มปนเทาจนเกือบดำ ตัวอ่อนจะฟักออกจากไข่ในช่วงประมาณปลายเดือนเมษายน - เดือนพฤษภาคม และตัวอ่อนจะติดอยู่ที่หน้าท้องแม่ระยะเวลาหนึ่งจนกระทั่งเข้าสู่ฤดูฝน ลูกปูก็จะออกจากท้องแม่และไปขุดรูใหม่อยู่อาศัยเอง
สำหรับลักษณะพื้นอยู่อาศัยของปูทูลกระหม่อมนั้นมีสภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณ
สำหรับคนที่สนใจและอยากชมปูสามารถเดินทางมาดูได้ที่บ้านขนุนคลี่ โดยให้คำแนะนำในการมาดูปูว่า “ควรเดินทางมาในวันที่มีฝนตกชุก เนื่องจากปูจะออกมาหากิน จะทำให้มีโอกาสได้เห็นปูจำนวนมาก ที่สำคัญระหว่างเข้าพื้นที่ดูปู ห้ามส่งเสียงดัง เนื่องจากปูชอบความเงียบ”
นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่บ้านขนุนคลี่เป็นที่อยู่อาศัยของปูที่มีสีสันสวยงามชนิดหนึ่งของโลก จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องช่วยการดูแล และอนุรักษ์ให้อยู่คู่ชุมชนเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชน และกลุ่มคนที่สนใจต่อไป - 003
ขอบคุณภาพจากจีรพันธ์ ขันแก้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี