สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยมี รศ.ดร.ธวัชชัย
อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ กล่าวแนะนำ บทบาทภารกิจ ของ สทน. นางอัจฉรา พัฒนทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการกากกัมมันตรังสี ศูนย์จัดการกากกัมมันตรังสี บรรยายสรุปเรื่องการจัดการกากกัมมันตรังสี พร้อมพาสื่อมวลชนเยี่ยมชมศูนย์ เพื่อสร้างความมั่นใจในมาตรฐานการจัดเก็บกากกัมมันตรังสีของประเทศไทย
จากที่สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. ได้ลงนามความร่วมมือกับ สถาบันพลาสมาฟิสิกส์ ประเทศจีน (Institute of Plasma Physics of Chinese Academy of sciences : ASIPP) หรือ สถาบัน : ASIPP ในการรับมอบเครื่องโทคาแมคจากประเทศจีนนำมาใช้ศึกษาวิจัยการใช้ประโยชน์จากการจำลองปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นเพื่อสร้างให้เกิดพลาสมาอุณหภูมิสูง ซึ่งเป็นการจำลองปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันซึ่งเกิดตามธรรมชาติบนดวงอาทิตย์ให้เกิดขึ้นบนโลก เพื่อใช้ศึกษาวิจัยพลาสมาอุณหภูมิสูงในการเรียนรู้เทคโนโลยีอวกาศและฟิวชัน ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดสําหรับผลิตกระแสไฟฟ้าในอนาคต และนวัตกรรมที่ได้สามารถนําไปประยุกต์ใช้ในด้านอุตสาหกรรม การเกษตร และด้านการแพทย์
การพัฒนาเครื่องโทคาแมคนี้จะทําให้ประเทศมีองค์ความรู้และสามารถสนับสนุนงานด้านวิศวกรรมระบบรางของไทยในอนาคตได้อีกด้วย
โดยเครื่องโทคาแมคที่ได้รับมอบจากสถาบัน ASIPP ได้ส่งมาถึงท่าเรือแหลมฉบังเมื่อวันอังคารที่ 17 มกราคม 2566 และ สทน. ได้ดำเนินการขนย้ายจากท่าเรือแหลมฉบังมายัง สทน. เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2566 เพื่อติดตั้งในอาคารปฏิบัติการเครื่องโทคาแมค ณ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ สำนักงานใหญ่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เครื่องโทคาแมคเครื่องแรกของไทยเครื่องนี้จะมีชื่อว่า ไทยโทคาแมค-1 (TT-1) หลังจากติดตั้งเครื่องโทคาแมคเรียบร้อยแล้ว สทน. ได้ทดลองเดินเครื่อง ปรากฏว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี
รศ.ดร. ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เริ่มติดตั้งเครื่อง ไทยโทคาแมค-1 การดำเนินการติดตั้งเป็นไปตามแผนงาน โดยมีผู้เชี่ยวชาญและทีมวิศวกรจากสถาบันพลาสมาฟิสิกส์ จากประเทศจีน ร่วมด้วยทีมงานจาก ศูนย์วิศวกรรมและเทคโนโลยีนิวเคลียร์ชั้นสูง ของ สทน. และทีมวิศวกรจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยช่วงแรกทีมงานร่วมกันประกอบชิ้นส่วนของเครื่องเป็นหลัก หลังจากนั้นจึงดำเนินการเกี่ยวกับระบบ power supply ปัจจุบันการดำเนินการทั้ง 2 ส่วนแล้วเสร็จเมื่อช่วงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากนั้นจึงเป็นการปรับแต่งและทดสอบการเดินเครื่อง
และเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 17 ปีการจัดตั้ง สทน. ทางคณะทำงานและผู้เกี่ยวข้อง นำโดย Prof. Luo Jiarong ทีมวิศวกรจากทั้ง สทน. และ กฟผ. ได้ทดลองเดินเครื่องไทยโทคาแมค-1 กระตุ้นให้ก๊าซไฮโดรเจนแตกตัว กระทั่งเข้าสู่สถานะพลาสมาได้สำเร็จเป็นครั้งแรก สามารถสร้างกระแสพลาสมา 2,200 แอมแปร์ เป็นระยะเวลานานประมาณ 5 มิลลิวินาที จึงนับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ โดยมีทีมงานจาก กฟผ. ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาเครื่องโทคาแมคเครื่องแรกของไทย ร่วมสังเกตการณ์
หลังจากการเดินเครื่องสำเร็จครั้งแรกทีมงานของ สทน. ได้ทดลองเดินเครื่องอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันเครื่องไทยโทคาแมค-1 สามารถเดินเครื่องได้นานสูงสุดถึง
100 มิลลิวินาที โดยผลิตพลาสมาอุณหภูมิสูงราว 1 แสนองศาเซลเซียส ซึ่งเครื่องไทยโทคาแมค-1 นี้จะเปิดเดินเครื่องเป็นทางการในวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 นี้
เนื่องจากเทคโนโลยีพลาสมาและนิวเคลียร์ฟิวชัน เป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย การจัดเตรียมหาบุคลากรเพื่อมารองรับจึงเป็นเรื่องสำคัญ สทน. จึงได้ร่วมกับ
เครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งจากประเทศจีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศและหน่วยงานเครือข่ายในประเทศ จัดอบรมความรู้ให้ความรู้ด้านพลาสมาและนิวเคลียร์ฟิวชัน เพื่อเป็นการเตรียมตัวนักวิจัย หรือบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและวิศวกรรม สำหรับเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชันที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและยกระดับการเป็น ศูนย์กลางการประสานงานของภูมิภาคในด้านพลาสมาและฟิวชันของประเทศไทย
สทน. ตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 10 ปีจะมีการออกแบบและสร้างเครื่องโทคาแมคเครื่องใหม่ขึ้นมาเอง รวมทั้งการประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีฟิวชันและกำลังคนระดับสูงด้านเทคโนโลยีฟิวชันของอาเซียน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่ประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ทางด้าน นางอัจฉรา พัฒนทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการกากกัมมันตรังสี ศูนย์จัดการกากกัมมันตรังสีได้พาสื่อมวลชนเยี่ยมชมศูนย์ เพื่อสร้างความมั่นใจในมาตรฐานการจัดเก็บกากกัมมันตรังสีของประเทศไทย และกล่าวย้ำว่า พันธกิจของศูนย์จัดการกากกัมมันตรังสี คือ 1)ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสีและบริการวิเคราะห์ค่ากัมมันตภาพรังสี 2)ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการจัดการกากกัมมันตรังสี 3)บริการให้คำปรึกษาในด้านการจัดการกากกัมมันตรังสี 4)ส่งเสริมวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านการจัดการกากกัมมันตรังสี
ซึ่งในการปฏิบัติงานนั้นยึดตามกฎกระทรวงการจัดการกากกัมมันตรังสี พ.ศ.2561 ทั้งกระบวนการรวบรวม คัดแยก จำแนก จัดเก็บ บำบัด ปรับสภาพ โดยเน้นความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อมของประเทศ
การดำเนินงานของศูนย์จัดการกากกัมมันตรังสีของสทน.ถือว่าได้รับการยอมรับในระดับสากลและให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี และจัดการกากกัมมันตรังสีภายใต้ระบบประกันคุณภาพ(ISO9001 ISO14001 และ ISO17025) และทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA)ได้เลือกเราเป็นศูนย์ฝึกอบรมด้านการแปรสภาพกากกัมมันตรังสี อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี