ที่ไร่เอลอง ม.3 ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส บริษัท อิสเทิร์น สตาร์ไลอ้อน จำกัด (ตราสิงห์โต) ร่วมกับชาวสวนทุเรียนกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียน ได้จัดอบรมให้ความรู้การผลิตและปลูกทุเรียน แก่เกษตรกรปลูกทุเรียนในพื้นที่ อ.รือเสาะ จำนวน 100 คนโดยเชิญวิทยากรที่มีประสบการณ์จาก อ.เบตง จ.ยะลา มาให้ความรู้
นายมะบักกรี เจะเลาะ เกษตรกรสวนทุเรียน เปิดเผยว่าที่ผ่านมาทำสวนเหมือนกับเกษตรกรทั่วไปมีทั้งสวนยาง เงาะ ลองกอง แต่รายได้ไม่มีเก็บ ช่วงที่ตัดสินใจปลูกทุเรียนราคายางอยู่ที่ 70-80 บาทต่อกิโลกรัม แต่ที่ปลูกทุเรียนเพราะว่าแม้ราคา 20-40 บาทในช่วงนั้นก็พอมีเงินเก็บ ส่วนยางมีกรีดทุกวัน แต่ไม่มีเงินเก็บ ทุเรียนนั้นมีเงินเก็บเป็นก้อนทุกปีสามารถนำไปต่อยอดปลูกพืชชนิดอื่นได้ ปัจจุบันสวนทุเรียนมี 50 ไร่ รายได้ปัจจุบัน ทุเรียนราคาสูงมาก ถ้าเทียบกับราคายางการลงทุนในทุเรียนนั้นต้นทุนสูงมาก เฉลี่ยต่อปีไม่เกิน 20 เปอรฺเซ็นต์ ซึ่งตอนนี้ไม่มีไม้ผลชนิดใดสามารถทำกำไรเท่านี้ได้
นายมะบักกรี ยังเผยว่า ราคาทุเรียนหมอนทองในวันนี้ราคา ต่อกิโลกรัม 135 บาท จะแยกเป็นเกรด A-B ตลาดนั้นเกษตรกรไม่สามารถส่งออกเองได้ เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตประกอบกับจำนวนทุเรียนมีน้อย นอกจากเกษตรกรมีการรวมกลุ่มหลายๆแปลง ทำเรื่องเกี่ยวกับการส่งออก ซึ่งจะต้องศึกษาในรายละเอียดต่อไป ตอนนี้เกษตรกรก็ส่งขายให้พ่อค้าคนกลางอย่างเดียว ระหว่างที่จะให้ผลผลิตก็ประสบปัญหาศัตรูพืช เนื่องจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ฝนตกชุกทำให้เกิดเชื้อราง่าย แมลงก็มาก
ปลูกทุเรียนก็ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย ต้องเข้าใจปัญหาของพืช เข้าใจเรื่องโรคแมลง ที่สำคัญจะต้องสำรองแหล่งน้ำ นอกจากจะต้องศึกษาด้วยตัวเองด้วย แล้วจะต้องหาผู้เชี่ยวชาญมาให้คำปรึกษาหรือปรึกษาเจ้าหน้าที่เกษตรเพื่อขอคำแนะนำในเรื่องโรค เรื่องดินและแมลง สำหรับรายได้จากการขายทุเรียนที่ให้ผลผลิตแล้วเกือบ 200 ต้น 20 กว่าตัน คิดเป็นรายได้ประมาณ 2 ล้านบาท
ด้านนายอาซิ หะไร เปิดเผยว่า ช่วงที่ตัดสินใจโค่นยางหันมาปลูกทุเรียนผู้คนรอบข้างมักถามว่าทำไมหันมาปลูกทุเรียน ตอนที่ตัดสินใจโค่นยางขณะนั้นราคายาง 60 บาท เศษยางราคา 30 บาท ปลูกได้ 2 ปี ราคาทุเรียนพุ่งสูงขึ้น ที่ตัดสินใจโค่นยางเพราะต้นยางแก่ไม่สามารถกรีดได้แล้ว การดูแลต้นทุเรียน มีการตัดแต่งกิ่งตลอดทุกปี ที่ให้ผลผลิตแล้วหลายต้น หากมีการบำรุงอย่างดีน่าจะให้ผลผลิตมากกว่านี้ เพราะบางต้นไม่ค่อยสมบูรณ์ ในเนื้อที่ 2 ไร่ จำนวน 60 ต้น ช่วงแรกขายได้ทำให้มีรายได้ซื้อปู๋ยมาบำรุง จากนั้นไม่ค่อยจะติดลูก
ประกอบกับปีที่ผ่านมามีจำนวนฝนตกมากจนเกินไป บางต้นก็ไม่สมบูรณ์ มีผู้รู้เข้ามาให้คำแนะนำในเรื่องโรคบ้าง ประกอบกับตนเองก็ไม่ค่อยมีงบมากในการที่จะมาบำรุงต้น เพราะว่าทางกองทุนการทำสวนยางสนับสนุนงบเพียง 3 ปี เท่านั้น ถ้าเป็นไปได้อยากให้รัฐบาลเข้ามาสนุบสนุนในเรื่องการกำจัดศัตรูพืชเพื่อแบ่งเบาภาระเกษตรกรชาวสวนทุเรียน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี