เปิดเมนู เคาหยก อาหารพื้นถิ่นของ จ.ตรัง มีประวัติมาอย่างยาวนาน หลังได้รับเลือกให้เป็น 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น ของกระทรวงวัฒนธรรม จนสร้างความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์และอัตลักษณ์อาหารของ จ.ตรัง โดยร้านอาหารชื่อดัง ซึ่งมีเมนูดังกล่าวขายทุกวัน เผยว่า เป็นเมนูที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ต้องใช้เวลาทำนานถึง 1 วัน
วันนี้ 15 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางจันทิมา มุณีกุล หรือเอ๋ สีฟ้า ผู้ประกอบการเจ้าของร้านสีฟ้า ไลฟ์สไตล์ฟู้ดตรัง นำผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง เปิดครัวเพื่อดูขั้นตอนในการทำเคาหยก อาหารพื้นถิ่นจังหวัดตรัง ที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะมาเป็นอาหารที่รสชาติอร่อย และมีความวามหมายที่เป็นมงคล
โดยวัตถุดิบที่จะนำมาทำเคาหยกนั้น มีเครื่องปรุง เช่น เหล้าจีน หมูสามชั้น เผือก กระเทียม รากผักชี น้ำตาลแดง และอื่นๆ ขั้นตอนการทำนั้นทางร้านจะทอดหมู 3 ชั้น ให้สุกและนำมาใส่ในน้ำ แล้วเอาพักไว้ก่อนให้แห้ง จากนั้นนำเครื่องปรุงดังกล่าว มาใส่กระทะเคี่ยวให้เข้ากัน จากนั้นหั่นหมู 3 ชั้น และเผือกเป็นชิ้นพอประมาณ แล้วนำมาใส่ในกระทะที่มีเครื่องปรุง รอจนกว่าส่วนผสมจะเข้ากันดี
จากนั้นตักใส่ถ้วยแล้วนำไปนึ่งในหม้อนึ่งอีกครั้งหนึ่ง ใช้เวลานึ่งตามที่กำหนด เมื่อถึงเวลาก็นำออกแล้วนำมาคว่ำใส่จานดูสวยงามพร้อมเสริฟให้กับลูกค้า การทำเคาหยกนั้นต้องใช้ระยะเวลาการทำประมาณ 1 วัน เนื้อหมูที่อยู่ในน้ำซอสถึงจะอร่อยและพร้อมจะได้รับประทาน
นางจันทิมา มุณีกุล ผู้ประกอบการร้านสีฟ้า ไลฟ์สไตล์ฟู้ด กล่าวว่า เคาหยกเป็นอาหารจีนกวางตุ้งสมัยโบราณ สำหรับที่จังหวัดตรัง ชาติพันธุ์เชื้อสายจีนมาอาศัยอยู่ที่จังหวัดตรังจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือชาวกวางตุ้ง ส่วนต้นตระกูลนั้นมาจากจีนกวางตุ้ง ภาษาที่ใช้คือ ภาษากวางตุ้ง เมนูนี้เป็นอาหารจีนกวางตุ้งเรียกว่าเคาหยก ซึ่งเคาหยกมี 3 ภาษาที่เรียกกัน คือ ภาษาจีนกลาง เรียก “โค่วโร่ว” ภาษากวางตุ้ง เรียก “เคาหยก” และภาษาแต้จิ๋ว เรียก “คะบะ” จะมีแค่ 3 ภาษาเท่านั้น
ในสมัยโบราณเมนูเคาหยกที่มีประวัติความเป็นมาคือ “จุงเป๋า” (หมายถึงคนทำอาหารหรือพ่อครัวของจีน) ได้ทำเมนูในเทศกาลต่างๆ ในสมัยโบราณที่อพยพกันมาได้ทำเคาหยกในงานแต่งงาน งานเลี้ยงหรือไหว้เจ้า เมนูเคาหยกก็จะถูกนำมาวางบนโต๊ะในงานต่างๆ เช่น งานเทศกาลตรุษจีน งานเช็งเม้ง โดยชาวไทยเชื้อสายจีน มีความเชื่อว่า กินหมูแล้วทำอะไรก็ง่ายไปหมด เช่นเป็นเรื่องหมูๆ หมูก็เลยเป็นอาหารมงคลของคนตรัง เช่น หมูย่าง และเคาหยก
ทั้งนี้เคาหยกจะมีวัตถุดิบหลัก 2 อย่าง คือ หมู 3 ชั้นกับเผือก ความสวยของเมนูอยู่ที่เต้าหู้ยี้ ที่เอามาเป็นส่วนผสมหลักในการทำเคาหยก เวลาทานเคาหยกต้องเอาไปคว่ำเรียงแล้วเอาไปนึ่ง เคาหยกมีความหมายคือ หยกแปลว่าหมู เคาหยกสองคำเอามาเรียกรวมกันคือ “เนื้อหมูคว่ำเรียง” ก็เลยเป็นกระบวนการอย่างหนึ่งที่คนตรัง ที่อพยพมาจากเมืองจีน ทำเมนูนี้เพื่อความสวยงามของการจัดสรรวัตถุดิบและกระบวนการปรุง
ในส่วนของการนิยมทานเคาหยกนั้นมาจากความเชื่อที่รับกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ที่จะนำเคาหยกมาจัดวางบนโต๊ะอาหาร สำหรับบรรพบุรุษของตนนั้นเป็น “จุงเป๋า” ที่ลงอาหารตามงานเลี้ยงต่างๆ และมีความเชื่อว่างานเลี้ยงถ้ามีเคาหยกวางอยู่บนโต๊ะอาหาร บ่งบอกถึงฐานะอีกด้วย เนื่องจากเป็นเมนูที่มีความละเอียดอ่อน สวยงาม สำหรับทางร้านเมนูเคาหยกนั้นมีตลอด ลูกค้าสามารถมาสั่งรับประทานได้ มีทั้งแบบรับประทานที่ร้านและแบบฟรีซเย็น สำหรับส่งให้ลูกค้าที่ต้องการสั่งทั่วประเทศ โดยนำเอาไปอุ่นรับประทานได้ทันที และสามารถฟรีซเก็บได้ประมาณ 1 เดือน
ส่วนราคาจะขายอยู่ที่ 200-250 บาท แต่ส่วนที่ส่งจะส่งที่ราคา 250 บาท ยังไม่รวมค่าขนส่ง ผู้ที่สนใจเดินทางมารับประทานหรือสั่งซื้อ สามารถติดต่อที่เฟสบุ๊คร้าน “สีฟ้า ไลฟ์สไตล์ฟู้ด” หรือโทร 075-210139
ในส่วนของการที่เคาหยกนั้นได้รับเลือกให้เป็น 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น ชองกระทรวงวัฒนธรรม ตนเองรู้สึกดีใจที่มีการเห็นคุณค่าของเมนูเคาหยกของจังหวัดตรัง ซึ่งเคาหยกต้องใช้เวลาทำค่อนข้างนาน มีเรื่องราวจากบรรพบุรุษถ่ายทอดสู่ชนรุ่นหลัง เมนูเคาหยกนั้นเป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ในวัฒนธรรมการกินของชาวจังหวัดตรัง และสามารถเก็บเอาเป็นมรดก สามารถต่อยอดได้ ส่วนที่ผู้คนบางส่วนมีการเรียกว่า “โกยุก” นั้น คำว่า “โกยุก” ไม่มีความหมายเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งได้พูดคุยกับทางวัฒนธรรมจังหวัดตรังแล้วเช่นกัน.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี