หนุ่มวัย 32 ปีชาวอำเภอกันตัง จ.ตรัง ต่อยอดอาชีพเพาะปลากระเบนน้ำจืดตั้งแต่สมัยเรียนคณะประมงฯ มาจนถึงปัจจุบัน ส่งขายไกลหลายประเทศทั่วโลก ในราคาหลักร้อยถึงหลักหมื่น สร้างรายได้นับล้านบาทต่อปี

6 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 22/1 หมู่ที่ 5 ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง เจ้าของบ้านคือนายจิรโรจน์ ดีจุฑามณี อายุ 32 ปี ใช้พื้นที่ว่างทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน เพาะเลี้ยงปลากระเบนน้ำจืดสวยงามรวม 4 สายพันธุ์ ได้แก่ โมโตโร่ แบล็คไดม่อน ไทเกอร์ และไฮบริคลูกผสม โดยเกษตรกรเริ่มเลี้ยงปลากระเบนน้ำจืดมาตั้งแต่สมัยเรียนคณะประมง ม.เกษตรศาสตร์บางเขน กรุงเทพฯ เมื่อปี 2553-2554 เพื่อหาเงินค่าเทอม

ต่อมาเกิดเป็นใจรักและชอบในสีสันที่สวยงามของปลากระเบน เมื่อเรียนจบ จึงหันมายึดเป็นอาชีพหลัก เพราะเห็นว่าตลาดทั้งในและต่างประเทศยังไปได้สวย โดยจดทะเบียนกับกรมประมงตามอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการค้าต่างประเทศหรือไซเตสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ปัจจุบันสามารถส่งออกปลากระเบนอายุตั้งแต่ 2-4 เดือน ไปขายยังประเทศญี่ปุ่น อเมริกา เกาหลี เม็กซิโก อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และเวียดนาม เดือนละไม่ต่ำกว่า 100 ตัว ราคาตั้งแต่ 700-15,000 บาท สร้างรายได้กว่า 100,000 บาท หรือกว่า 1 ล้านบาทต่อปี

โดยปลากระเบนที่ลูกค้าชื่นชอบมากที่สุด คือแบล็คไดม่อน ลายจุดขาวดำ ที่มีแต้มชัด จุดวงกลมสีขาวชัด รูปร่างสมบูรณ์ พลิ้วไหวสง่างาม ไม่มีตำหนิ ราคาขายเริ่มต้นที่หลักพันถึงหลักหมื่น ส่วนตลาดในประเทศจะนิยมปลากระเบนเกรดกลางๆ และเกรดต่ำ ราคาอยู่ที่ตัวละ 700-5,000 บาท นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามตามโรงแรม ภัตตาคารและสวนสัตว์ต่างๆ

ซึ่งปลากระเบนน้ำจืดมีอายุตั้งแต่ 13-15 ปี เป็นปลาสวยงามประเภทปลากินเนื้อ ส่วนอาหารคือเนื้อปลา เนื้อหอยและกุ้งฝอยสับละเอียด ให้กินแค่วันละ 1 มื้อ ต้นทุนต่ำ แต่การเพาะเลี้ยงต้องใช้เวลา การควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม ไม่ใช้น้ำประปาที่มีคลอรีน หมั่นทำความสะอาดบ่อปลาและมีเครื่องปั่นไฟสำรองเพื่อป้องกันไฟดับ ไม่ให้ปลาน็อคน้ำ 

โดยปลากระเบนจะออกลูกครั้งละ 1-18 ตัว แล้วแต่สายพันธุ์ และตั้งท้องได้ปีละ 3 ครั้ง และโชคดีที่ประเทศไทยมีภูมิอากาศใกล้เคียงกับแหล่งกำเนิด จึงทำให้ปลากระเบนสามารถเพาะขยายพันธุ์และเหมาะกับการเจริญเติบโตได้ตลอดทั้งปี ส่วนใครสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 085 580 4201

ด้านนายจิรโรจน์ ดีจุฑามณี เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลากระเบนสวยงาม กล่าวว่า ตนเลี้ยงปลากระเบนมาตั้งแต่ปี 53-54 สมัยเป็นนิสิตปี 1 เพราะชอบเลี้ยงปลาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนนั้นเลี้ยงพันธุ์ตั้งต้นเช่น โมโตโร่ เป็นสายพันธุ์แรก ตอนนี้มีประมาณ 3-4 สายพันธุ์ ส่วนที่นิยมที่สุดในเวลานี้เพราะยังมีราคาคือพวกในตระกูลแบล็คไดม่อน

ลูกค้าชอบปลาที่เป็นลายขาวจุดดำ ราคาอยู่ที่ 3,000-5,000 บาท แต่จะมีบวกลบขึ้นอยู่กับความสวย ถ้าสวยมากๆ จะเป็นอีกราคา ส่วนของตนเป็นเกรดกลางๆ ราคา 700 บาทขึ้นไป ถ้าเป็นโมโตโร่จะราคาต่ำหน่อย ส่วนแบล็คไดม่อน ที่มีความสวย มีจุดขาวดำ ดอกชัด กลม ก็จะได้ราคามากกว่า.012