พี่ป.5 ขี่ม้าคู่ใจพาน้องอนุบาล 3-ป.4 ไปดำนาปลูกข้าว พร้อมเล่นสปาโคลนช่วงปิดเทอม ท่ามกลางการดูแลของคุณครูและผู้ปกครอง ส่วนข้าวที่ได้จะนำมาเป็นอาหารกลางวันให้นักเรียนทั้งโรงเรียน คาดจะพอกินตลอดเทอม
เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนบ้านทุ่งส้มป่อย ต.ละมอ อ.นาโยง จ.ตรัง น.ส.วาสนา ศรีเปาระยะ ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วยคณะครู และผู้ปกครอง นำนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 3 –ป.5 จำนวน 20 คน ไปช่วยกันถอนกล้า ดำนา เพื่อปลูกข้าวไว้เป็นอาหารกลางวันให้กับนักเรียนที่มีเกือบ 100 คน โดยมี ด.ญ.สุกัลย์ชนก ชัยทอง หรือน้องหยก อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โชว์ลีลาการขี่ม้าคู่ใจ ชื่อว่าเจ้าซาร่า อายุ 6 ปี พาน้องๆ ไปยังแปลงนาซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 2 กิโลเมตร สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับน้อง ๆ และประชาชนที่ขับรถผ่านไป-มาได้เป็นอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้น้องหยกเคยสร้างความฮือฮาด้วยการขี่ม้าไปโรงเรียนมาแล้ว จนถึงปัจจุบันก็ยังขี่ม้าไปเรียนหนังสือเป็นระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร เนื่องจากที่บ้านเลี้ยงเอาไว้หลายตัว ทำให้น้องหยกมีใจรักและผูกพัน อีกทั้งเจ้าซาร่าเป็นม้าแสนเชื่อง ฝึกง่าย ไม่ตื่นกลัว
โดยเมื่อไปถึงแปลงนา ซึ่งเป็นนาข้าวของชาวบ้านที่มอบให้กับโรงเรียนไว้ทำนาปลูกข้าวกินเองบนเนื้อที่เกือบ 3 ไร่ น้องๆ จึงเปลี่ยนเสื้อผ้าแปลงร่างเป็นชาวนาฟันน้ำนม ช่วยชาวบ้านและคุณครูถอนกล้า ดำนา พร้อมกับการเรียนรู้วิถีชาวนา หวังให้เป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่จะร่วมอนุรักษ์อาชีพชาวนาแบบเกษตรอินทรีย์ให้คงอยู่ตลอดไป โดยข้าวที่ปลูกเป็นข้าวเล็บนกเม็ดใหญ่ ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า และจะนำนักเรียนมาเกี่ยวข้าวก่อนนำไปสีเป็นข้าวกล้อง ให้นักเรียนทั้งโรงเรียนได้รับประทานเพื่อสุขภาพ คาดจะได้ข้าวสารประมาณ 14-15 กระสอบ ซึ่งเพียงพอสำหรับนักเรียน 1 ภาคเรียนอย่างแน่นอน
ขณะที่น้องๆ ถือโอกาสนี้ถอนกล้า เล่นสปาโคลนอย่างมีความสุข และสนุกสนาน บางคนเพิ่งลงแปลงนาเป็นครั้งแรก จึงชวนรุ่นพี่เล่นสปาโคลนอย่างเพลิดเพลิน ไม่หวั่นแม้เสียงของคุณครูที่คอยห้ามอยู่ตลอดเวลา โดยมีน้องหยก เจ้าของม้าลงถอนกล้าเล่นสปาโคลนกับน้อง ๆ ด้วย ซึ่งปกติน้องหยกจะเป็นคนยิ้มยาก แต่เมื่อมาอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมแบบนี้ ทำน้องหยกเผลอยิ้มออกมาอย่างมีความสุขบ่อยครั้ง ส่วนน้อง ๆ คนอื่นก็ได้เวลาเล่นสปาโคลนกับเพื่อน ๆ อย่างมีความสุข จนเนื้อตัวมอมแมมจำสภาพใบหน้าแทบไม่ได้ แต่กลายเป็นภาพน่ารักที่หาดูได้ยากในยุคเด็กปัจจุบัน
โดย ด.ญ อชิรญา กาญจนแก้ว หรือน้องปิน อายุ 6 ขวบ บอกว่า มันสนุก ไม่เคยมาดำนา มาปีแรกสนุก ปีหน้าจะมาอีก และไม่เคยเห็นที่บ้านดำนา เห็นแล้วประทับใจและมีความสุข โดยตนช่วยขนกล้าได้ 2 กำ ดำนาด้วย สนุกมาก
ด้าน น.ส. วาสนา ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า เมื่อเก็บเกี่ยวได้ก็ตั้งใจจะพาเด็กมาเก็บเกี่ยวอีกรอบหรือประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งจะทำเป็นนาอินทรีย์ล้วนไม่ใช้ปุ๋ยเคมี โดยได้สั่งปุ๋ยคอกทั้งขี้วัว ขี้ม้าของชาวบ้านไว้แล้ว โดยทำเป็นตัวอย่างว่าทำนาอินทรีย์แล้วเด็กจะได้ข้าวอินทรีย์จริง ๆ โดยจะให้เด็กนวดข้าวเองแล้วเอาไปสีแบบข้าวกล้อง เพื่อให้เด็กได้กินข้าวปลอดสารพิษและมีวิตามินสูงที่สุด เพราะจะทำให้สุขภาพดีขึ้น ภูมิต้านทานดีขึ้น นี่คือเป้าหมายของโรงเรียน ซึ่งปีนี้เราตั้งเป้าว่าจะมีข้าวให้เด็กได้กิน 1 ภาคเรียนเป็นอย่างน้อยหรือประมาณ 14-15 กระสอบ แต่ส่วนหนึ่งจะต้องแบ่งปันให้กับเจ้าของที่นาและคนที่มาช่วยทำนาด้วย ---017
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี