ชาวบ้านแห่ช่วย"เจ้าด่าง"พะยูนเกยตื้นบนเกาะลิบง นอนนิ่งน้ำตาไหลตลอดเวลา ก่อนรีบใช้ผ้าใบสอดลำตัว ประคองลงกลับสู่ทะเลได้อย่างปลอดภัย
เมื่อเวลา 03.30 น.ของวันนี้ 25 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสะพานหอชมพะยูน บ้านหน้าเขา ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง นายอีด วรรณา หรือ บังยาขัด ชาวประมงพื้นบ้านที่กำลังจะออกไปหากุ้งช่วงย่ำรุ่ง ขณะที่เดินเท้าหากุ้งได้ส่องไฟฉายคาดศีรษะ หรือไฟส่องกบได้เจอพะยูนเกยตื้นอยู่คาดว่าน่าจะหลับลืมจนน้ำลงหมด นอนติดชายหาด นายบังยาขัด จึงได้กลับบ้านไปชักชวนลูกๆ หลานๆ และปลุกเรียกชาวบ้านให้มาช่วยพะยูนตัวดังกล่าว
ต่อมานางสาววิจิตรา ศรีบางรัก หรือ เจ๊หงส์ ชาวบ้านที่มาช่วยได้มาช่วยพะยูนพร้อมกับไลฟ์สดไปด้วยเพื่อขอความช่วยเหลือชาวบ้านที่อยู่บนเกาะมาช่วย เมื่อชาวบ้านมาถึงก็เอาถ้วยมาขุดสร้างแหล่งน้ำเพื่อตักราดตัวพะยูนที่กำลังนอนนิ่งร้องไห้น้ำตาไหลตลอดเวลา พร้อมทั้งได้เช็ดน้ำตาและพูดคุยกับพะยูนตลอดเวลา และเธอก็จำพะยูนที่นอนเกยตื้นตัวนี้ได้ว่าคือ "เจ้าด่าง" ซึ่งเป็นพะยูนเพศผู้อายุมากกว่า 20 ปี ยาว 2 เมตรกว่า ชาวบ้าน ทีมกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ดุหยงเกาะลิบง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่ทราบข่าวก็รีบมาช่วยด้วยการนำผ้าใบมาสอดใต้ลำตัวและพยายามประคองลงไปสู่ทะเล ได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ เกาะลิบงเป็นแหล่งอาหารและหญ้าทะเลที่อุดมสมบูรณ์ของทะเลตรัง และได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของพะยูน อีกทั้งชาวบ้าน ชาวประมง กลุ่มอาสาสมัครฯ และผู้นำท้องถิ่น ต่างคอยเฝ้าระวังและดูแลพะยูนให้มีความปลอดภัยมากที่สุด จนทำให้พะยูนรู้สึกคุ้นชินกับผู้คนมาก แต่มาระยะหลัง ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ทำให้หญ้าทะเลตายทำให้ปริมาณหญ้าทะเลมีจำนวนที่ลง ทำให้พะยูนต้องเข้ามาหาหญ้าทะเลและสาหร่ายแนวโขดหินและใกล้ชายหาดมากขึ้นจึงทำให้มีการเกยตื้นบ่อยขึ้นตามไปด้วย - 003
ขอขอบคุณภาพจากคลิป วิจิตรา ศรีบางรัก - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี