หนุ่มช่างยนต์วัย 36 ปีผันตัวเองมาปลูกกะหล่ำปลีในกระถาง ปลูก 45-60 วันพร้อมกินพร้อมขายกระถางละ 100 บาท นอกจากจะประหยัดเนื้อที่แล้วยังใช้เป็นไม้ประดับตกแต่งสวยงาม น้ำท่วมสามารถยกหนีน้ำได้ มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ ยอดจองถึงปีหน้า รายได้เข้ากระเป๋าวันละ 1,000 บาทสบาย ๆ

ที่บ้านเลขที่ 37/1 หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของนายสุทธินนท์ เกลี้ยงเกลา หรือนนท์ อายุ 36 ปี ซึ่งเรียนจบช่างยนต์ แต่หันมาใช้พื้นที่ว่างข้างบ้านปลูกกะหล่ำปลีในกระถางไว้มากกว่า 100 กระถาง ใช้เวลาปลูกประมาณ 45-60 วันก็สามารถขายได้ทั้งกระถางๆ ละ 100 บาท ซึ่งลูกค้านำไปดูแลต่ออีก 10-15 วันก็สามารถตัดหัวกะหล่ำปลีไปทำอาหารได้หลากหลายเมนู  ซึ่งระหว่างที่รอกะหล่ำปลีห่อเป็นหัว ก็สามารถตัดใบล่างของกะหล่ำปลีไปทำอาหารได้เช่นกัน

นับเป็นเกษตรกรรายแรกและรายเดียวในตำบลทุ่งค่ายที่ปลูกกะหล่ำปลีในกระถาง ทำให้มียอดสั่งซื้อเข้ามาจนหมดเกลี้ยง ไม่พอขาย ซึ่งนอกจากจะกินได้อย่างปลอดภัยไม่ใช้สารเคมีแล้วยังสามารถนำไปตั้งโชว์ภายในอาคารสำนักงาน บ้านเรือนและสถานที่ต่างๆ สวยงามไม่แพ้ไม้ประดับชนิดอื่น ๆ แถมประหยัดเนื้อที่ ขนย้ายสะดวก และยกหนีน้ำท่วมได้โดยที่ผลผลิตไม่เสียหาย ทำให้แต่ละวันมีเกษตรกรแวะเวียนเข้ามาสั่งซื้อในรุ่นต่อไป คิวยาวไปจนถึงปีหน้า และหากเก็บหัวกะหล่ำปลีออกแล้ว ก็ยังมีแขนงออกมาให้กินหรือนำไปปลูกใหม่ได้ โดยไม่ต้องลงทุนซื้อเพิ่ม

นอกจากนี้ เกษตรกรยังเพาะพืชผักสวนครัวอีกหลายชนิด เช่น มะเขือเทศ มะเขือยาว มะเขือเปราะ มะละกอ พริก บวบหอม ถั่ว แตงกวา ต้นดาวเรือง ต้นทานตะวันและอื่น ๆ ทุกอย่างขายในราคาต้นละ 5 บาท ซึ่งแต่ละเดือนจะเพาะพืชผักไม่ต่ำกว่า 8,000-10,000 ต้น ใช้เวลาเพาะประมาณ 15 วันก็สร้างรายได้เข้ากระเป๋าวันละ 1,000 บาทแบบสบาย ๆ

นายสุทธินนท์ เกลี้ยงเกลา เกษตรกรผู้ปลูกกะหล่ำปลีกล่าวว่า ตอนนี้มีกะหล่ำปลีเหลืออยู่ประมาณ 100 ต้น ขายต้นละ 100 บาท โดยจะเพาะขายแค่เดือนละ 100 ต้น ขายดีมากจนมีไม่พอ โดยเอาไปตั้งโชว์สวยงาม เอาไปกินได้ เพราะไม่ฉีดยา ซึ่งตนปลูกอยู่คนเดียวในตำบลทุ่งค่าย นอกจากนี้ ยังปลูกพริก มะเขือ แตง มะละกอ ถั่วบวบ ขายต้นละ 5 บาท เดือนละประมาณ 8,000-10,000 ต้น สร้างรายได้ต่อเดือนประมาณ 20,000-30,000 บาท ซึ่งตอนนี้ไม่พอขาย โดยเฉพาะพริกและมะเขือจะขายดีมาก และมีสั่งจองล่วงหน้าข้ามปี ส่วนใครสนใจสามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 093-7341948