เกษตรกรชาวสวนยางพาราจังหวัดตรังปลูกขมิ้นระหว่างต้นยางพาราบนเนื้อที่ 3 ไร่ใช้ระยะเวลาประมาณ 8 เดือนเก็บขมิ้นขายให้กับกลุ่มทำเครื่องแกง สร้างรายได้กว่า 1.7 แสนบาท เผยขมิ้นที่ปลูกเป็นที่ต้องการอย่างมากเนื่องมีสีออกสีส้มทำให้เครื่องแกงมีสีสันน่ากินหลังจากนำไปทำอาหาร

นางบุญคล่อง เยาว์ดำ หรือ ป้าแต๋ม อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180/1 หมู่ที่ 4 ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง เกษตรกรชาวสวนยางและครอบครัว ช่วยกันทำความสะอาดขมิ้น ที่เก็บมาจากสวนเพื่อนำไปจำหน่ายให้กับกลุ่มทำเครื่องแกง โดยจำหน่ายกิโลกรัมละ 50 บาทซึ่งขมิ้นของป้าแต๋มนั้นมีสีออกสีส้ม เป็นที่ต้องการของกลุ่มที่ทำเครื่องแกงเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อนำไปเป็นเครื่องแกงหรือแกง จะมีสีสันน่ากินอย่างมาก ทั้งนี้ครอบครัวได้ช่วยกันล้างทำความสะอาดอย่างดี พร้อมกับคัดเลือกขมิ้น เพื่อเก็บไว้เป็นต้นพันธุ์เอาไว้เพาะปลูกครั้งต่อไป

นางบุญคล่อง หรือ ป้าแต๋ม บอกว่า ตนและครอบครัวทำอาชีพสวนยางพารา ราคายางพาราไม่ค่อยดีเท่าที่ควรจึงหาพืชมาปลูกเสริมในร่องระหว่างต้นยางพารา เพื่อใช้เนื้อที่ให้เกิดประโยชน์ เมื่อ 4 ปีก่อนมีคนแนะนำให้ปลูกขมิ้นพันธุ์ด้วงทอง ตนจึงได้ทดลองปลูก สามารถให้ผลผลิตดี สีของขมิ้นก็มีสีออกสีส้ม เป็นที่ต้องการของพ่อค้า แม่ค้า  ตนจึงได้ปลูกเพิ่มบนเนื้อที่ 3 ไร่ ขมิ้นจะใช้ระยะเวลาในการปลูกประมาณ 8 เดือน จึงสามารถเก็บผลผลิตได้ เมื่อเก็บผลผลิตนั้นจะคัดแยกหัวขมิ้นไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อเก็บไว้ปลูกครั้งต่อไป ถือว่าลงทุนซื้อพันธุ์ขมิ้นเพียงครั้งเดียวก็สามารถปลูกขมิ้นได้ตลอด 

ปัจจุบันได้ส่งขมิ้นให้กับกลุ่มทำเครื่องแกง จำหน่ายในราคา 50 บาทต่อกิโลกรัม ระยะเวลา 8 เดือน สามารถขายขมิ้นได้ประมาณ 1แสน 7 หมื่นบาท ยังไม่หักต้นทุน เมื่อหักต้นทุนแล้วได้ประมาณ กว่า 1 แสนบาท ในปีนี้ขมิ้นได้ปริมาณน้อยกว่าปีก่อน เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง อย่างไรก็ตามการปลูกขมิ้นก็เป็นอีกพืชชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี ผู้ที่สนใจขมิ้นสามารถติดต่อนางบุญคล่อง เยาว์ดำ (ป้าแต๋ม) โทร 089-6492866