เชียงรายจัด'ประกวดควายงาม'ครั้งแรก บางตัวราคาสูง15ล้าน แต่เจ้าของไม่ขาย เปิดบริการผสมพันธุ์ขายน้ำเชื้อแทน

16 ธันวาคม 2566 นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรม "ประกวดควายงามเมืองเจียงฮาย ครั้งที่ 1" ณ สนามหาดทรายเทียมหนองหลวง อ.เวียงชัย  โดยมี นายญาณวุฒิ สุดพิมศรี นายอำเภอเวียงชัย นายนิรุท บุญทิพย์จำปา ประธานชมรมอนุรักษ์และพัฒนาควายงาม จ.เชียงราย และผู้ที่เกี่ยวข้อง นำบรรดาเจ้าของฟาร์มและผู้เลี้ยงกระบือ หรือ ควาย จากทั่วประเทศประมาณ 100 รายเข้าร่วม

โดยแต่ละรายได้นำควายดำปกติ และควายเผือกที่มีลักษณะเด่นและงดงาม ไปจัดแสดงและประกวดสร้างความตื่นตาตื่นใจของผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก ภายในงานยังมีนิทรรศการให้ความรู้เรื่องควาย ประกวดควายงาม ตลอดระยะเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-17 ธ.ค.2566 รวมจำนวน 25 รุ่น แบ่งเป็น 2 ประเภท คือควายงามเมืองพ่อขุนเม็งราย 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน

ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็น 7 รุ่น ได้แก่ 1.รุ่นฟันน้ำนมเพศผู้รวมสี ความสูงไม่เกิน 130 เซนติเมตร 2.รุ่นฟันน้ำนม เพศเมียรวมสี ความสูงไม่เกิน 130 เซนติเมตร 3.รุ่นฟันน้ำนม เพศผู้รวมสี ความสูงเกิน 130 เซนติเมตร 4.รุ่นฟันน้ำนม เพศเมียรวมสี ความสูงเกิน 130 เซนติเมตร 5 รุ่นฟันแท้ เพศผู้รวมสี 1 คู่ 6.รุ่นฟันแท้ เพศเมียรวมสี 1 คู่ และ 7.รุ่นคู่แม่ลูก แม่สูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร ประเภทที่ 2 เป็นควายงามระดับประเทศแบ่งออกเป็น 8 รุ่น ได้แก่ 1.ควายดำฟันน้ำนม เพศผู้ ความสูงไม่เกิน 140 เซ็นติเมตร 2.ควายดำฟันน้ำนม เพศเมีย ความสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร 3.รุ่นควายเผือกฟันน้ำนมเพศผู้ ความสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร 4.รุ่นควายเผือกฟันน้ำนมเพศเมีย ความสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร 5.รุ่นควายดำฟันน้ำนมเพศผู้ ความสูงเกิน 140 เซนติเมตร 6.รุ่นควายดำฟันน้ำนมเพศเมีย ความสูงเกิน 140 เซนติเมตร 7.รุ่นควายเผือกฟันน้ำนมเพศผู้ ความสูงเกิน 140 เซนติเมตร 8.รุ่นควายเผือกฟันน้ำนมเพศเมีย ความสูงเกิน 140 เซนติเมตร รวมทั้งมีการเปิดเวทีซื้อขายกระบือและจำหน่ายน้ำเชื้อ ฯลฯ ทั้งนี้พบว่าควายหลายตัวที่ไปร่วมงานนั้นมีมูลค่าถึงตัวละ 15 ล้านบาท เช่น เจ้า "เพชรภูแพง" จากสหเพชรฟาร์มควายงาม จ.อุดรธานี เจ้า "ช้างอุดร" จากชาลีฉายฟาร์มควายไทย จ.อุดรธานี ฯลฯ 

นายอนาวิน ยงยืน เจ้าของเจ้าเพชรภูแพง กล่าวว่า เจ้าเพชรภูแพง อายุ 5 ปี สูง 165 ซ.ม.เป็นพ่อพันธุ์ที่ตนซื้อมาเมื่อ 3 ปีก่อน ในราคาประมาณ 9 ล้านบาท ล่าสุดมีคนให้ราคาสูงถึง 15 ล้านบาทแต่ตนไม่ขาย และนำมาทำโครงการผสมน้ำเชื้อจริงไปกลับ โครงการ 45-60 วัน อัลตราซาวด์กลับบ้าน ฯลฯ คิดราคาสัปดาห์ละ 30,000 บาท รวมทั้งขายน้ำเชื้อซึ่งพอได้ราคาดี ทั้งนี้ เพชรภูแพง เป็นพ่อพันธุ์ที่มีลักษณะเด่นคือหน้าเขาใหญ่ ท้ายมะนาวตัด แข้งใหญ่ หางยาว ฯลฯ 

ทางด้าน ร.ต.อ.จีรศักดิ์ คำวะเนตร หรือผู้กองเป๊ก เจ้าของ "ช้างอุดร" ซึ่งมีส่วนสูงมากที่สุดในงานครั้งนี้คือ 178 ซ.ม. กล่าวว่า เจ้าช้างอุดร มีอายุ 8 ปี ตนซื้อมาจาก จ.อุดรธานี เมื่อ 4 ปีก่อน และนำมาเลี้ยงดูให้เป็นพ่อพันธุ์ ต่อมามีผู้ขอซื้อในราคา 15 ล้านบาทแต่ตนไม่ขาย แต่จะให้บริการผสมพันธ์จริงให้กับแม่พันธุ์คิดราคาครั้งละ 5,000 บาท ถ้ามีแม่ควายมารอในฟาร์มคิดราคาวันละ 300 บาท ไม่เกิน 20 ตัว มีรายได้สัปดาห์ละประมาณ 300,000 บาท ไม่รวมการรีดน้ำเชื้อขาย ทั้งนี้ตามกติควายจะมีอายุ 20-25 ปีจึงเลี้ยงดูได้อีกนาน

ส่วนตัวอื่นๆ ก็มีราคาลดหลั่นกันลงไปโดยนายชลพัฒน์ เกิดอินทร์ ได้นำควายเผือกชื่อ "สายฟ้า" มาจากฟาร์ม "ช่างเก่งควายไทย คอกควาย 3 จ." จาก จ.นครสวรรค์ มาจัดแสดง โดยเจ้าสายฟ้าเป็นลูกของ "ช้างอุดร" โดยมีความสูง 161 ซ.ม.ลักษณะเด่นคือมีหน้าใหญ่และรูปร่างสูงใหญ่ตามพันธุ์กรรมของพ่อ ที่ผ่านมาได้ส่งประกวดในหลายเวทีและปลายปี 2565 ได้ชนะเลิศการประกวดรุ่นฟันแท้ 1 ที่ จ.ราชบุรี จากนั้นได้แชมป์เรื่อยมากว่า 9 สนาม ทุกวันนี้จึงเป็นควายพ่อพันธุ์ที่ขายน้ำเชื้อได้เป็นอย่างดี 

ด้าน นายแก้ว มรกต เจ้าของควายชื่อ "โก้เมืองเพชร" จาก จ.เพชรบุรี ได้นำเจ้าโก้เมืองเพชรที่มีอายุ 4 ปีกว่า สูง 175 ซ.ม.ซึ่งเป็นควายเผือกที่สูงที่สุดในประเทศไทยไปจัดแสดง โดยนอกจากจะแข้งขาใหญ่ ลำตัวโตแล้ว ยังมีวงเขาที่ใหญ่และงดงามทำให้มีผู้คนแวะไปขอถ่ายภาพด้วยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายแก้วระบุว่า ในการประกวดควายเผือกในประเทศไทยพบว่าเจ้าโก้เมืองเพชร ยังคงยืนอันดับ 1 แม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตนจะไม่นำไปร่วมประกวดในเวทีใดอีกแต่ก็ยังไม่เคยได้ยินว่ามีควายเผือกตัวใดสูงกว่านี้อีกเลย ทั้งนี้เจ้าโก้เมืองเพช รเป็นพ่อพันธุ์ที่ให้ลูกได้ดีและให้ลูกที่เป็นควายเผือกกับแม่ดำสูงถึงร้อยละ 90 มีอายุยังน้อยโดยฟันน้ำนมก็ยังไม่หมด ต่อไปความสูงยังขึ้นได้อีกเรื่อยๆ

นายแก้ว กล่าวด้วยว่า ในภาพรวมตนเห็นว่าควรจะมีการอนุรักษ์ควายไทยและพยายามเพิ่มจำนวนให้มีมากขึ้นก่อน เพราะถือว่าอยู่นช่วงวิกฤติเนื่องจากในอดีตประเทศไทยเคยมีควายอยู่ถึงกว่า 40 ล้าน แต่ปัจจุบันตัวเลขจากกรมปุศัตว์คงเหลืออยู่เพียง 1 ล้านตัวและสายเลือดไทยมีน้อยอีกด้วย.012