อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรบนผามออีแดง เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2567
1 มกราคม 2567 เมื่อเวลา 07.00 น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดชมวิวผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นางจิตร อาจสัญจร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ทหาร ตชด. และประชาชนชาวชุมชนเสาธงชัย ร่วมกันจัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่
โดยมีนายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ เป็นประธานในพิธี มีประชาชน ในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวมาร่วมกิจกรรม กว่า 1,000 คน
ภายในกิจกรรมนอกจากพิธีทำบุญตักบาตรแล้ว ยังได้มีตลาดชุมชน โดยชาวบ้านนำผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ OTOP มาจัดจำหน่าย มีการแจกขนมกลีบลำดวนมงคล 500 ชิ้น, ชิมชาหอมแดงศรีสะเกษ, แจกข้าวต้มอีสาน ข้าวต้มทางมะพร้าว ข้าวต้มมัด ข้าวต้มหัวหงอก ข้าวต้มด่าง ตะโก้กะทิ /น้ำสมุนไพร และยังมีการสาธิตการทอผ้าขาวม้า เสื่อกก การทำผลิตภัณฑ์ชุมชนรอบอุทยานฯ, การเพาะกล้าใช้จากขยะ แก้วกาแฟ
การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ผู้ที่มาเที่ยวชมผามออีแดงได้ทำบุญในตอนเช้าร่วมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามทำนุบำรุงพุทธศาสนา รวมทั้งเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตในการเริ่มต้นปีใหม่ 2567
ปทุมธานี อิ่มบุญทั่วหน้าพุทธศาสนิกชน 10,000 คน ร่วมตักบาตรพระ 3,000 รูป ต้อนรับศักราชใหม่ 2567
1 มกราคม 2567 เมื่อเวลา 07.30 น. ที่ลานธรรมพระมหาธรรมกายเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์ วัดพระธรรมกาย ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พุทธศาสนิกชน 10,000 คน ร่วมบุญตักบาตรพระ 3,000 รูป ต้อนรับศักราชใหม่ 2567 มีคณะสงฆ์ในโครงการอุปสมบทบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ร่วมรับบาตร
บรรยากาศพิธีตักบาตรพระ 3,000 รูป ต้อนรับศักราชใหม่ 2567 มีพุทธศาสนิกชนพาครอบครัวสวมใส่ชุดขาวร่วมพิธีจำนวนมาก หลังเสร็จสิ้นพิธีตักบาตรแล้ว ผู้มาร่วมตักบาตรยังได้รวมใจ ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ ประกอบพิธีบูชาข้าวพระ และถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานด้วย โดยที่วัดพระธรรมกายเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมานั้นได้มีพิธีฉลองชัย สวดธรรมจักรครบ 6,000,000,000 จบ และสวดมนต์ข้ามปี สร้างบุญเป็นสิริมงคลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ณ มหารัตนวิหารคด หน้าพระมหาธรรมกายเจดีย์ จากนั้นวัดพระธรรมกายจัดสวดมนต์ข้ามปี มีพระภาวนาธรรมวิเทศ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นประธานในพิธีฯ
ด้านพระครูสมุห์สนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย กล่าวว่าเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่วัดพระธรรมกาย ได้มีพิธีฉลองชัย สวดธรรมจักรครบ 6,000,000,000 จบ หลัก "ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส" ด้วยขณะสวด ผู้สวดไม่เบียดเบียนตนเอง และผู้อื่น ด้วยกาย วาจา ใจ ขณะสวดเป็นการทบทวนคำสอน และสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้า ถือเป็นการทำดี ด้วยกาย วาจา ใจ และจิตที่เกาะเกี่ยวแน่วแน่อยู่ในบทสวด เป็นการเจริญสติ สมาธิภาวนา ลดละกิเลสในใจ บังเกิดจิตที่ผ่องใสแก่ตนเอง
นอกจากนี้ที่วัดพระธรรมกายได้เปิดสวนดอกไม้ “ทุ่งสวรรค์ ตะวันฉาย” ให้ประชาชนเข้าชมฟรีจนถึง วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2567 เป็นสวนดอกเบญจมาศ สีชมพู อยู่บริเวณฝั่งทิศตะวันออก ลายจอด P13 วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ปลูกเพื่อนำไปบูชาพระรัตนตรัยในกิจกรรมต้อนรับพระภิกษุธรรมยาตราโครงการกตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน 7 แห่ง ปีที่ 12 ซึ่งกำหนดจัดระหว่างวันที่ 2-31 มกราคมนี้ ทุกท่านสามารถสอบถามรายละเอียดการร่วมกิจกรรมโครงการธรรมยาตรา หรือชมสวนดอกไม้ได้ทาง www.dmc.tv ,เพจ Facebook สำนักสื่อสารองค์กร และ www.gbnus.com หรือ โทร.02-831-1234
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนชาวเมืองพิษณุโลก และนักท่องเที่ยวร่วมทำบุญตักบาตรกลางเมืองพิษณุโลก เนื่องในวันขึ้นปีใหม่
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 1 มกราคม 2567 บริเวณสี่แยกธนาคารกรุงไทย สาขาพิษณุโลก เทศบาลนครพิษณุโลกจัดพิธีทำบุญกลางเมือง และตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2567
นำโดย นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย พล.ท. ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 ดร.เปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก นายมนต์ชัย วิวัฒนธนาฒน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมทั้งนำหัวหน้าส่วนราชการและพุทธศาสนิกชนชาพิษณุโลกร่วมตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์กว่า 500 รูป รับบิณฑบาตจากพี่น้องประชาชนที่มารอตักบาตรกันอย่างเนื่องแน่น
โดยในพิธีผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยเริ่ม พิธีสงฆ์โดย พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก กล่าวสัมโมถนียคาถา และผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกกล่าวอวยพรปีใหม่ จากนั้น พระภิกษุ สามเณร ออกรับบิณฑบาตตามถนนสายต่างๆ ในเมืองพิษณุโลก จำนวน 5 สาย และพระครูกิตติรัตนานุกูล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เจ้าคณะตำบลในเมือง เขต 1 ได้ประพรมน้ำมนต์ให้แก่พี่น้องประชาชนที่มาร่วมทำบุญตักบาตรในครั้งนี้เพื่อเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ 2567 อีกด้วย
หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ได้ร่วมกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณสวนกลางเมืองพิษณุโลก เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันปีใหม่
เมืองย่าโม สวมใส่ชุดผ้าไทย ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุ สามเณร จำนวน 109รูป
เวลา 07.00 น. ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานฝ่ายฆราวาส และ พระครูวิริยธรรมมานุศาสก์ ดร.ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์ พร้อมด้วยนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด , ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา , พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ ผบก.ภ.นครราชสีมา , นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา กว่า 500 คน พร้อมใจสวมใส่ชุดผ้าไทย ชุดไทย นุ่งผ้าไทยสวมใส่ผ้าซิ่น ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุ สามเณร จำนวน 109 รูป พร้อมได้ร่วมกันสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดนครราชสีมา เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2567 พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวอวยพรปีใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนและส่วนราชการ ที่มาร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย
พ่อเมืองดอกลำดวน นำข้าราชการและประชาชนทำบุญตักบาตรปีใหม่ถวายเป็นพระราชกุศล และเสริมสิริมงคล เริ่มต้นปีมะโรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ เวลา 07.19 น.วันที่ 1 ม.ค. 2567 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ น.ส.ภคนันท์ ศิลาอาสน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดศรีสะเกษ รอง ผวจ. ปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ประชาชน ตลอดจนเด็กและเยาวชน จำนวนมาก ได้พร้อมใจร่วมทำบุญตักบาตรรับปีใหม่อย่างพร้อมเพรียง มีพระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดป่าศรีสำราญ นำพระภิกษุสงฆ์สามเณร จำนวน 69 รูป ออกรับบิณฑบาตรข้าวสารอาหารแห้งในครั้งนี้
ได้มีการปิดถนนด้านหน้าศาลากลางจังหวัดชั่วคราว เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมทำบุญตักบาตรปีใหม่ ตามหลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ “ว่าอย่าประมาท”ในการดำเนินชีวิต จงหมั่นสร้างบุญสร้างกุศลไว้เสมอ โดยเฉพาะวันแรกก้าวสู่ปีใหม่ เพื่อความสิริมงคลและโชคดีตลอดปีอีกทั้งตลอดไป โอกาสนี้ผู้เข้าร่วมทำบุญยังได้รับเหรียญพระเกจิชื่อดังของจังหวัดศรีสะเกษ คือ หลวงพ่อหมุน วัดบ้านจาน และหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา พร้อมน้ำมนต์กลับบ้านอย่างมีความสุขอีกด้วย
นายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ นำ ส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน พุทธศาสนิกชน ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ สามเณร เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2567 พร้อมรับพรปีใหม่ จาก เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว
เวลา 07.30 น. ที่ ถนนรมย์บุรี หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ นายสกล ไกรรณภูมิ หรือ “นายกฯ อ๋อง” นายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ นำส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน และพุทธศาสนิกชน กว่า 1,000 คน ประกอบพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2567 นอกจากเป็นการทำบุญตักบาตรตามประเพณีที่จัดขึ้นทุกปีแล้ว เพื่อเป็นการส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีและสืบสานศิลปะอันดีงาม ตลอดจนจรรโลงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่
โดยมี พระธรรมวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมอวยพรวันขึ้นปีใหม่ 2567 ให้กับพุทธศาสนิกชนชาวบุรีรัมย์ ที่มาร่วมงาน เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันปีใหม่ โดยประธานสงฆ์ ประพรมน้ำพระพุทธมนต์แก่ประชาชน ผู้มาร่วมทำบุญตักบาตร จากนั้นประธานสงฆ์ นำพระภิกษุ สามเณร จำนวน 109 รูป ออกรับบิณฑบาต
ขณะเดียวกัน นายสกล ไกรรณภูมิ นายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ยังได้มอบปฏิทินปีใหม่ พ.ศ.2567 ให้กับส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน และพุทธศาสนิกชน ที่มาร่วมทำบุญตักบาตรในครั้งนี้ด้วย
นายสกล ไกรรณภูมิ นายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า วันนี้ ได้เห็นถึงความสมัครสมาน สามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ของทุกคน ที่ได้มาร่วมกันทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ขออวยพรให้ทุกท่านจงประสบแต่ความสุขความเจริญ ปราศจากอุปสรรค ภยันตรายทั้งปวง จงมีกำลังกาย กำลังใจ ที่เข้มแข็ง พร้อมรับกับสิ่งใหม่ ที่จะเกิดขึ้น ทั้งด้านการดำเนินชีวิต หน้าที่การงาน และในทุกๆด้าน ด้วยศีล สมาธิ สติ และปัญญา เพื่อความเจริญก้าวหน้า มั่นคงในชีวิต อาชีพการงานตลอดไป และสัมฤทธิ์ผลในสิ่งที่พึ่งปรารถนาโดยทั่วกัน
และขอถือโอกาสนี้ เชิญชวนพ่อแม่พี่น้องทุกท่าน ช่วยกันทำหน้าที่พลเมืองที่ดี ในการเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีมีความเอื้ออาทร และแบ่งปันน้ำใจให้แก่กัน เพื่อความสมานฉันท์ของคนในชาติ ร่วมกันเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราชาวไทยทุกคนให้เจริญวัฒนาถาวรสืบไป และขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทุกท่านเคารพนับถือ ได้โปรดดลบันดาล ประทานพรให้ท่าน และครอบครัว ประสบแต่ความสุข ความเจริญ และสมหวังในสิ่งที่พึงปรารถนาตลอดปี และตลอดไป” นายก ทม.บุรีรัมย์ กล่าวในที่สุด
ปชช.ชาวระยอง แห่ทำบุญไหว้พระพุทธรูปนอนตะแคงซ้ายเก่าแก่-ลอดโบสถ์ อายุ 100 ปี วัดป่าประดู่พระอารามหลวง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต รับวันขึ้นปีใหม่ 2567
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 1 ม.ค.67 ที่วัดป่าประดู่ ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มี ปชช.ชาวจังหวัดระยอง ได้ออกไปทำบุญเพื่อความสิริมงคล เอาฤกษ์เอาชัยในโอกาสเริ่มศักราชใหม่ ก่อนดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพทำมาหากินกันเป็นจำนวนมาก โดยได้ถวายสังฆทาน และไหว้พระพุทธรูปนอนตะแคงซ้ายเก่าแก่ พร้อมกับลอดโบสถ์ อายุ 100 ปี ทั้งยังได้ร่วมทำบุญเพื่อทำนุบำรุงปฏิสังขรณ์วัดป่าประดู่ด้วย โดยมีพระครูโสภิตปัญญากร เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ ได้ปะพรมน้ำมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2567 ดังกล่าวอีกด้วย
สำหรับวัดป่าประดู่(พระอารามหลวง)ตั้งอยู่แต่เดิมชื่อ 'วัดป่าเลไลยก์' ตั้งอยู่ใจกลางเมืองระยองในปัจจุบัน ภายในวัดมีพระพุทธรูปนอนตะแคงซ้ายเก่าแก่เป็นพระพุทธไสยาสน์ที่แปลกที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งยังมีโบสถ์เก่าแก่อายุกว่า 100 ปีอีกด้วย .012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี