จากกรณีที่ นางปองจิตร พร้อมด้วยนายเอกปัญญา หรือเอ และ น.ส.กัลยารัตน์ หรือแอม ลูกทั้งสอง ออกมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน หลังถูกสามีตัวแสบ รวมหัวกับพี่น้องฝั่งสามีอีก 6 คน ฟ้องศาลฮุบที่ดินมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ใน อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ทั้ง 3 คนหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง โดยอ้างว่าเป็นของกงสี
ล่าสุด ทั้ง 3 แม่ลูก ออกมาเปิดเผยความคืบหน้า หลังให้คำเบิกความว่า พบพิรุธหลายอย่าง ทั้งคำให้การที่ไม่ตรงกันของฝ่ายโจทย์
โดย น.ส.กัลยารัตน์ ลูกสาว เปิดเผยว่า ล่าสุดหลังจากศาลฎีกาตัดสินแล้ว มีการฟ้องร้องคดีกันโดยที่ฝั่งสามีตัวแสบ และน้องๆ เบิกความกลับไปกลับมา ขัดแย้งกับคำฟ้อง และคำเบิกความในคดีเดิมที่เคยอ้างว่าเป็นของกงสี
นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานสำคัญ เป็นสำเนาคำร้องขอรับพินัยกรรมของนายฮ้วนหมิ่น หรือคุณปู่ ที่เห็นได้ชัดว่ามีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ก่อนที่จะฮุบที่ดินผืนนี้ โดยไปขอรับพินัยกรรมเมื่อวันที่ 5 พ.ย.2566 เพื่อปิดบังพินัยกรรมไม่ให้ขึ้นสู่ชั้นศาล
หลังจากนั้นเพียงเดือนเดียวจึงลงมือยื่นฟ้องคดีแพ่งในวันที่ 2 ธ.ค.2556 โดยให้น้องๆ เป็นโจทก์ ส่วนสามีตัวแสบรับบทเป็นจำเลยเพื่อให้การตามฟ้องโจทก์ทั้งหมด ซึ่ง 3 แม่ลูก ที่เป็นเจ้าของร้านทอง และที่ดินทั้ง 19 แปลง ได้นำหลักฐานพินัยกรรมที่นายฮ้วนหมิ่น หรือคุณปู่ ที่ยืนยันว่า “ครอบครัวนายฮ้วนหมิ่นไม่มีกงสี” โดยร้านทองศรีไทย เป็นของนายฮ้วนหมิ่นคนเดียวไม่ใช่ต้นตอกงสีที่ลูกทุกคนเป็นหุ้นส่วนตามที่มีการฟ้องคดีก่อนหน้านี้แต่อย่างใด
ส่วนร้านทองยี่เฮง และที่ดิน 5 แปลงก็เป็นสินสมรสของนางปองจิตรที่ยกให้ลูกๆ ไปแล้ว พร้อมนำหลักฐานการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ และซื้อขายที่ดินด้วยแคชเชียร์เช็คอีก 14 แปลง รวมทั้งหมด 19 แปลงริมถนนสายเอเซีย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เป็นของทั้ง 3 แม่ลูกที่สร้างมาจากน้ำพักน้ำแรง ไม่ใช่กงสีตามที่พี่น้องฝ่ายสามีตัวแสบยื่นฟ้อง
โดยน.ส.กัลยารัตน์ เล่าต่อว่า เรื่องนี้ยังไม่จบ เพราะมีพยาน และพบหลักฐานใหม่ หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาไปแล้ว หนึ่งในนั้นคือ คลิปสนทนาที่คุณพ่อ ยอมรับว่าที่ดินทั้งหมด 19 แปลงไม่ใช่กงสี แต่ที่ให้การตามที่โจทก์ฟ้อง ก็เพราะน้องๆ ทั้ง 6 คน ขอร้องให้ให้การแบบน้ัน ตามคลิปที่นำมาเปิดเผยกับสื่อไปก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ยังมีคำให้การของฝ่ายคุณพ่อ และอาในคดีที่คุณพ่อยื่นฟ้องถอดชื่อตน และพี่ชายออกจากโฉนด โดยให้การขัดแย้งไม่ตรงกับคำฟ้อง และคำเบิกความในคดีเดิมว่าเป็นของกงสี อีกทั้งในคำเบิกความของน้องสาวคุณพ่อว่า เพิ่งตรวจพบเจอพินัยกรรมหลังจากศาลฎีกามีคำพิพากษาไปแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะหลักฐานใบรับพินัยกรรมได้ไปดำเนินการขอรับก่อนที่จะยื่นฟ้องคดี และนำมาเก็บไว้ไม่ส่งศาล ก่อนร่วมกันวางแผนฟ้องฮุบที่ดินดังกล่าว ซึ่งก็ชัดเจนว่าคุณพ่อ และน้องๆ คุณพ่อรู้อยู่แก่ใจว่าร้านทองศรีไทยเป็นของคุณปู่ฮ้วนหมิ่น ไม่ใช่กงสี ส่วนร้านทองยี่เฮงและที่ดินทั้งหมด 19 แปลงเป็นของเรา 3 คนแม่ลูก ไม่มีกงสีแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จากหลักฐานที่เธอกล่าวมา ซึ่งแนบในสำนวนคดีไปแล้ว จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมให้ 3 แม่ลูกด้วย และศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้นัดฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ว่าจะรับฟ้องหรือไม่ ในวันที่ 17 ม.ค.นี้
ขณะที่ทางฝั่งสามีตัวแสบ และพี่น้องอีก 6 คน ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง หลังมีข่าวเกิดขึ้นก็ยังไม่มีการออกมาเคลื่อนไหวแต่อย่างใด พร้อมทั้งปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อ โดยบอกเพียงว่าเรื่องนี้มันจบไปแล้ว ไม่ขอชี้เเจงใดๆ ทั้งสิ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี