คลี่จุดตาย‘ก้าวไกล’!วิบากกรรม‘ม.112’จาก‘ล้มล้าง’ถึงอาจ‘ยุบพรรค’!
คล้อยหลัง...
ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยกรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความของอดีตพระพุทธะอิสระ ขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในขณะนั้น และพรรคก้าวไกล เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย เพื่อยกเลิกมาตรา 112 (ม.112) โดยใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่
ผลการลงมติปรากฏว่าศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้หยุดเดินหน้าแก้ “ม.112” เนื่องจากเจตนาเข้าข่าย...
ล้มล้างการปกครอง!!!
ไล่เรียง “มูลเหตุ” แห่งการสั่ง...
หยุด!!!
เริ่มจาก...
การเสนอให้ตั้งหมวดใหม่ ความผิดเกี่ยวกับพระเกียรติยศของพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และเกียรติยศของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ นำ ม.112 มาไว้ในหมวดนี้ แทนปัจจุบันที่เป็นหมวดความมั่นคง เป็นความมุ่งหมายแยกสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากความเป็นชาติไทย ซึ่งเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐอย่างมีนัยสำคัญ
การเสนอให้สิทธิ์โต้แย้งข้อเท็จจริงการการติชมโดยสุจริตไม่มีความผิด อาจนำไปสู่ผู้กระทำผิดใช้เป็นข้ออ้างว่าเข้าใจผิดว่าเชื่อโดยสุจริต ซึ่งย่อมทำให้ศาลสืบพยานเพื่อต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริง (ไม่ต่างจากคดีหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา) ย่อมต้องพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์อันควรเป็นที่เคารพสักการะ รวมถึงถ้อยคำจะเผยแพร่ไปสู่สาธารณะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นการทำให้เสื่อมพระเกียรติ ขัดกับรัฐธรรมนูญที่สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพสักการะ
การเสนอให้สำนักพระราชวังเป็นผู้ร้อง และเป็นคดีที่ยอมความได้ ทำให้กลายเป็นความผิดส่วนพระองค์ ไม่ใช่ความผิดต่อรัฐ เป็นการลดสถานะการคุ้มครอง ทำให้สถาบันฯ กลายเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชน และทำให้ ม.112 ไม่ใช่การกระทำผิดที่กระทบต่อชาติและประชาชน ทั้งที่เป็นเรื่องกระทบจิตใจปวงชนชาวไทยที่เคารพเทิดทูนสถาบันฯ เพราะทรงเป็นประมุขและศูนย์รวมความเป็นชาติ ซึ่งรัฐต้องคุ้มครอง
แม้จะอ้างว่าร่างแก้ ม.112 ที่เป็นปัญหา ไม่ได้เข้าสภาฯ ตามที่เคยพยายามเสนอในวันที่ 25 มี.ค. 2564 และนโยบายแก้ ม.112 ผ่าน กกต. มาได้ แต่ร่างที่เป็นปัญหาดังกล่าวยังคงปรากฏอยู่เว็บไซต์ของพรรคก้าวไกล ซึ่งชี้เจตนาลดทอนการคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ ผ่านกระบวนการนิติบัญญัติโดยซ่อนเร้นผ่านการะบวนการรัฐสภา และมีการรณรงค์หาเสียงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เป็นการนำสถาบันฯ ลงมาเพื่อหวังคะแนนเสียง มุ่งหวังให้สถาบันฯ เป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชน นำสถาบันฯ เข้าไปเกี่ยวข้องกับการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมือง ขัดกับหลักการที่มุ่งหวังให้พระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมืองและเป็นกลางทางการเมือง ส่งผลให้อาจเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย
เมื่อดูความเคลื่อนไหวที่มีการทั้งการชุมนุม การแสดงความคิดเห็น และการเสนอกฎหมาย ซึ่งมีกลุ่มบุคคลที่เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล เคยจัดกิจกรรมหรือแสดงความคิดเห็น รวมถึงการไปช่วยประกันตัวผู้ต้องหาคดีรณรงค์ยกเลิก ม.112 และบางคนที่อยู่ในพรรคก็อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดี ม.112 ชี้ให้เห็นถึงอุดมการณ์ของพรรคการเมืองที่ต้องการเปลี่ยนแปลง ยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายที่คุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์
ศาลอ้างถึงการปราศรัยของพรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2566 ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีกลุ่มที่ต้องการให้ยกเลิก ม.112 ไปขึ้นเวทีด้วย แล้วหัวหน้าพรรคก้าวไกลในขณะนั้นไปร่วมปราศรัย บอกว่าถ้าก้าวไกลขอเสนอแก้ไข ม.112 ในสภาฯ ไม่ได้ ก็จะออกไปสู้ด้วยกัน สะท้อนว่าพรรคก้าวไกลพร้อมสนับสนุนการยกเลิก ม.112 ทำให้การคุ้มครองสถาบันฯ หมดสิ้นไป เพราะหากแก้ในสภาฯ ไม่ได้ ก็จะใช้วิธีอื่นนอกเหนือจากกระบวนการนิติบัญญัติ
รัฐธรรมนูญ มาตรา 25 และ 34 จำกัดการใช้สิทธิเสรีภาพต้องไม่กระทบต่อความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี รวมถึงไม่สิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น การเสนอแก้ไขกฎหมายดังกล่าวและการใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงจึงแสดงถึงเจตนาเซาะกร่อน บ่อนทำลายทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เกิดความทรุดโทรม เสื่อมทราม ซึ่งสามารถนำไปสู่การการล้มล้างการปกครองได้ ดังนั้นหากยอมให้บุคคลทั้งสองดำเนินการต่อไปก็ไม่ไกลที่จะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองได้
ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการกระทำดังกล่าว และเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การโฆษณา การสื่อความหมายอื่นเพื่อให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
นอกจากนั้น ยังเตือนไม่ให้แก้ไข ม.112 ด้วยวิธีการที่ไม่ชอบด้วยการกระบวนการนิติบัญญัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคสอง
ทว่า...
“วิบากกรรม” ของพรรคก้าวไกล ยังไม่ “สิ้น”
นั่นเพราะคาดว่าจะมีการยื่นร้อง “กกต.” เพื่อให้พิจารณาส่ง “ศาลรัฐธรรมนูญ” ให้วินิจฉัยประเด็น..
ยุบพรรค!!!
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดหากถูกยุบพรรคขึ้นมาจริงๆ “กรรมการบริหารพรรค” (กก.บห.) จะโดน “ตัดสิทธิ” ทางการเมือง
หรือ...อาจมีคนไปยื่น ป.ป.ช.เพื่อเอาผิดจริยธรรมร้ายแรง “พิธา” และ “สส.ก้าวไกล” อีก 44 คนที่เข้าชื่อยื่นแก้ ม.112 อันมีโทษตัดสิทธิการเมือง...
ตลอดชีวิต!!!
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
+ ด่วนที่สุด!!! ศาลรธน.สั่ง'ก้าวไกล'หยุดเดินหน้าแก้ม.112 ชี้เจตนาเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
+ 'ธีรยุทธ'จ่อรุกฆาต!! ขอเวลา 1 คืน ก่อนฟันดาบสอง'ก้าวไกล' หลังศาลชี้เข้าข่ายล้มล้าง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี