เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม โล๊ะทิ้ง 3 ไวยาวัจกรหลังมีการตรวจสอบการเงินพบบัญชีเงินวัดเคลื่อนไหวผิดปกติ
วันที่ 3 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ยังคงเป็นกระแสทางสังคมและเป็นที่น่าสนใจของประชาชน กรณีมีข่าวเกี่ยวกับปัญหากลุ่มฉวยโอกาสเรียกเก็บผลประโยชน์ อ้างเป็นมติของวัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม จนกลายเป็นข่าวดังไปตามสื่อต่างๆ ถึงการประกาศล้างกลุ่มมาเฟียที่อ้างชื่อวัดหากิน
ก่อนหน้านี้นายจักรพงษ์ ปทุมไกยะ นายอำเภอธาตุพนม ได้ออกมายืนยันแล้วโดยขอทำหน้าที่ตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อความโปร่งใส รวมถึงล้างกลุ่มมาเฟีย นายทุนที่ฉวยโอกาสหากินกับวัด รวมถึงการเปิดพื้นเช่าขายสินค้า ในงานนมัสการพระธาตุพนม ปีนี้จัดระหว่างวันที่ 17 -25 กุมภาพันธ์ 2567 นี้เนื่องจากที่ผ่านมานับสิบปี มีปัญหาเช่าช่วงจากผู้เช่าจริงเพราะมีนายทุนฉวยโอกาส กักพื้นที่วัดบางส่วน โดยเฉพาะทำเลทองที่มีประชาชนขวักไขว่
รวมถึงพื้นที่สาธารณะประโยชน์ในความดูแลของกรมทางหลวง เพื่อโก่งราคากว่า 2 -3 เท่าตัวส่งผลให้ค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นจากเดิมราคาห้องละ 3,000-5,000 บาทเพิ่มเป็น 10,000 - 20,000 บาท มีเงินหมุนเข้ากระเป๋านายทุน ปีละหลายล้านบาท ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว ประชาชน เพราะต้องซื้อสินค้าในราคาแพงขึ้น จึงมีประชาชน นักท่องเที่ยว เรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง ตรวจสอบแก้ไข เชื่อว่า มีระบบมาเฟียในพื้นที่ ฉวยโอกาสแสวงประโยชน์หากินกับวัด
ล่าสุดพระธรรมวชิรโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม/ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 ได้มีหนังสือเป็นคำสั่งวัดพระธาตุพนม เรื่องไวยาวัจกรวัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ “ด้วยปรากฏว่ามีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการยักยอกเงินของวัดพระธาตุพนม และสำนักงานป้องกันปราบปรามทุจริตได้เข้ามาตรวจสอบข้อมูล และเรื่องร้องเรียนดังกล่าว เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อยในการบริหารด้านการเงินและผลประโยชน์ของวัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร โปร่งใสตรวจสอบได้ ฯลฯ” พร้อมระบุชื่อไวยาวัจกรวัดให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ 3 ราย และกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 1 ราย ลงนามคำสั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่าไวยาวัจกรวัดส่วนใหญ่จะเป็นอดีตข้าราชการ รวมถึงผู้มีฐานะในพื้นที่ อ.ธาตุพนม ที่ดำรงตำแหน่งมานานหลายสิบปี นอกจากนี้ยังพบความเคลื่อนไหว ในช่วงมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้เปลี่ยนกุญแจห้องการเงิน รวมถึงตู้บริจาคในวัดพระธาตุพนมทั้งชุด ส่วนบัญชีการเงินของวัด จำนวน 5 บัญชี อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมีความเคลื่อนไหวผิดปกติ
ด้านนายจักรพงษ์ ปทุมไกยะ นายอำเภอธาตุพนม มีความเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า “ผมจะรักษาวัดพระธาตุพนมให้ดีที่สุด เพื่อบูชาคุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้สมกับที่เรียกตัวเองว่า ลูกพระธาตุ” พร้อมยืนยันว่า ในการตรวจสอบทุกขั้นตอน เป็นไปตามระเบียบ อำนาจหน้าที่ ไม่มีเจตนาขัดแย้งใคร เพราะตนไม่เพียงทำหน้าที่เป็นนายอำเภอธาตุพนม ยังเป็นลูกหลานเกิดที่ อ.ธาตุพนม จึงต้องการสร้างความโปร่งใส ความสง่างามให้วัดพระธาตุพนม รวมถึง อ.ธาตุพนม เงินทุกบาททุกสตางค์ ที่พลังศรัทธามาบริจาค จะต้องเข้าวัดตามเจตนา และทุกคนสามารถตรวจสอบได้ เพราะไม่ใช่เป็นทรัพย์สินของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี