'แห่ข้าวจี่ยักษ์'สืบสานจากพุทธกาลหนึ่งในกิจกรรม “โฮม ฮอย ฮีต 3 GEN ตุ้มโฮม 3 วัยใส่ใจวัฒนธรรม” โดยหน่อเนื้อลูกอีสานนครพนม
วันที่ 8 ก.พ.67 เมื่อเวลา 09.00 น. บริเวณหน้าสำนักงานป่าไม้ ฯ หลังองค์พญาศรีสัตตนาคราช ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม นายคมสิน ศรีมานะศักดิ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม พร้อมเครือข่ายวัฒนธรรมในจังหวัด และพันธมิตรที่เป็นลูกหลานโดยกำเนิด ได้ร่วมกันจัดขบวนแห่ข้าวจี่ หรือบุญข้าวจี่ประเพณีเดือน 3 ของชาวอีสาน ปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้าน ต.คำเตย อ.เมืองนครพนม นำโดยนายพงษ์สิทธิ์ ลุนลา เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ร่วมแรงร่วมใจกับชาวบ้าน แสดงถึงพลังความสามัคคี จัดทำข้าวจี่ยักษ์มาร่วมขบวนแห่นี้ด้วย พร้อมนางรำจากหลายชนเผ่า ไปยังวัดโอกาส(ศรีบัวบาน) เพื่อทำบุญประเพณีเดือน 3 ด้วยการถวายข้าวจี่แก่ภิกษุสงฆ์ ที่สืบสานกันมาแต่โบราณกาล
นอกจากนี้ยังมีโรงทาน นำอาหารหวานคาว และขาดไม่ได้คือข้าวจี่ยกมาทำกันสดๆ แจกจ่ายแก่ผู้มาร่วมงานบุญครั้งนี้ และมีนักเรียนจากโรงเรียนตงเจี๋ย,อนุบาลนิลวรรณ ฯลฯ มาแสดงความสามารถทางดนตรี ร้องรำทำเพลง โดยได้รับความสนใจแก่ประชาชน นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ด้านนายพงษ์สิทธิ์ ลุนลา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ต.คำเตย อ.เมืองนครพนม ได้เล่าถึงข้าวจี่ยักษ์ ว่า ใช้ข้าวเหนียวประมาณ 10 กระสอบๆละ 12 กิโลกรัม ใช้ไข่ไก่ 30 แผงๆละ 30 ฟอง หมักข้าวไว้ 1 คืนก่อนจะนำมานึ่ง เมื่อสุกแล้วก็ทุบให้แบน เพื่อนำมาประกบกับโครงไม้ไผ่ กระทั่งได้ข้าวจี่ยักษ์ ด้วยความร่วมใจสามัคคีของชาวบ้านในชุมชน ใช้เวลา 3 วันถึงสำเร็จ และนำมาร่วมขบวนแห่บุญข้าวจี่ หรือบุญเดือน 3 ของชาวอีสาน
ซึ่งบุญถวายข้าวจี่นี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมของ งานโฮม ฮอย ฮีต 3 Gen (ตุ้มโฮม 3 วัย ใส่ใจวัฒนธรรม) โดย สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม ร่วมกับชมรมพนมนครานุรักษ์ และเครือข่ายวัฒนธรรมต่างๆ ได้จัดงานอนุรักษ์ส่งเสริมภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของ จ.นครพนม ชื่อโครงการ “โฮม ฮอย ฮีตนครพนม 3 Gen(Generation) ตุ้มโฮม 3 วัย ใส่ใจวัฒนธรรม” วัตถุประสงค์คือส่งเสริมเครือข่ายวัฒนธรรมทุกระดับ ในการดำเนินงานทางวัฒนธรรม รวมถึงส่งเสริมแบบบูรณาการ 3 วัย ได้แก่ วัยผู้ใหญ่ วัยเด็กระดับมัธยม และประถมศึกษา) ได้ร่วมกันอนุรักษ์ฟื้นฟูสืบสาน สร้างสรรค์งานวัฒนธรรม เกิดความรักและความภาคภูมิใจ ในวัฒนธรรมของชาติ รวมทั้งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและรายได้แก่ท้องถิ่น ตลอดถึงการมีส่วนร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด
เริ่มงานวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ลานพนมนาคา ใกล้กับองค์พญาศรีสัตตนาคราช ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ตั้งแต่เวลา 15.00-21.00 น. นักท่องเที่ยวจะได้ชมการฟ้อนรำจาก 9 ชนเผ่า (แสก,ย้อ,กะเลิง,ผู้ไทย,โส้,ไทยข่า,ไทยกวน,ไทยอีสาน,ไทยตาด) ขับเสภาตำนานข้าวจี่ นิทรรศการสินค้าพื้นเมือง อาหารพื้นเมืองจากเครือข่ายวัฒนธรรม รวมถึงการแสดงของหมอเหยา กลองกิ่ง กลองเส็ง ฯลฯ
ข้าวจี่มีเรื่องเล่าในสมัยพุทธกาล ว่า นางปุณณะทาสี ได้ทำขนมแป้งจี่ถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอานนท์ ครั้นถวายแล้วนางคิดว่า พระองค์คงไม่เสวย อาจเอาทิ้งให้สุนัขหรือกากิน เพราะอาหารที่นางถวายไม่ประณีตน่ารับประทาน เมื่อพระพุทธเจ้าทรงทราบภาวะจิตของนางปุณณะทาสี จึงรับสั่งให้พระอานนท์ปูอาสนะ แล้วทรงประทับนั่งฉัน ณ ที่นางถวายเป็นผลให้นางเกิดปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อนางได้ฟังพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ก็บรรลุโสดาบันปัตติผล ด้วยอานิงสงส์ที่ถวายขนมแป้งจี่
จากเรื่องราวดังกล่าว ชาวอีสานได้นำมาเป็นคติความเชื่อว่า การถวายข้าวจี่นั้นจะได้อานิสงส์มาก ดังนั้นชาวอีสานรวมถึงชาวลาว จึงพากันยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน เรียกว่าบุญข้าวจี่หรือบุญเดือนสาม จัดอยู่ในช่วงเดือนปลายเดือนมกราคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี