วันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ จดทะเบียนสมรสหมู่ ที่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์
14 กุมภาพันธ์ 2567 เมื่อเวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานในการจดทะเบียนสมรสเนื่องในวันแห่งความรัก “ถิ่นสักใหญ่ของโลก พยานรักเรายืนนาน ที่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ”
โดยมีนายวัลลภ หรั่งเพชร นายอำเภอน้ำปาด ทำหน้าที่นายทะเบียนในการจดทะเบียนสมรสให้คู่บ่าวสาว จำนวน 10 คู่ โดยให้คำนิยามว่า “ผู้ที่จดทะเบียนสมรสที่นี้จะมีการครองรักที่ยาวนานเหมือนต้นสักใหญ่ที่มีอายุมานับพันกว่าปี เพื่อส่งเสริมสถาบันครอบครัว เปลี่ยนจากคู่รักเป็นคู่สมรส ส่งผลดีต่อการใช้ชีวิตคู่ในการตระหนักสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายจากการจดทะเบียนสมรสและส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอน้ำปาด
โดยเฉพาะ “มเหสักข์” สักใหญ่ ให้เป็นที่รู้จักแก่ประชาชนและในท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากอุทยานแห่งชาติสักใหญ่ , ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดอุตรดิตถ์ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ท้องถิ่น ท้องที่ อำเภอน้ำปาด ท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่น
ต้นสักใหญ่ หรือ “มเหสักข์” เป็นต้นสักที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีอายุมากกว่า 1,500 ปี ขนาดลำต้นมีเส้นรอบวง 10.22 เมตร ความสูง 38.50 เมตร อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งพบเมื่อประมาณปี พ.ศ.2470 มีอายุมากกว่า 1,500 ปี การบำรุงรักษาต้นสักใหญ่ ตามพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งเสด็จทอดพระเนตรต้นสักใหญ่ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2541 หลังจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จทอดพระเนตรต้นสักใหญ่ ต่อมาจึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "มเหสักข์ "หมายถึงเทวดาผู้ใหญ่ ไว้เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2552 เพื่อความเป็นสิริมงคลจวบจนถึงปัจจุบัน.
'รักมั่นคง ยืนยง ดั่งนกกระเรียน' คู่รักไทย-ต่างชาติ 15 คู่ แต่งชุดผ้าไทย จดทะเบียนสมรส ที่ศูนย์เรียนรู้พื้นที่ชุ่มน้ำฯบุรีรัมย์
จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับอำเภอเมืองบุรีรัมย์ และศูนย์เรียนรู้พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย จัดกิจกรรมเนื่องในวันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ ที่ศูนย์เรียนรู้พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย หมู่ 14 ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยใช้ชื่อว่า “รัก ณ เมืองบุรีรัมย์” รักมั่นคง ยืนยง ดั่งนกกระเรียน ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรก โดยปีนี้ได้มีคู่รักทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจำนวน 15 คู่เข้าร่วมพิธีจดทะเบียน บรรยากาศช่วงเช้าก็เปิดให้คู่รักลงทะเบียน
โดยมี นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยนายกันวลินทร์ เมืองแก้ว นายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน และแขกผู้มีเกียรติ แต่งกายด้วยชุดผ้าไทยสวยงามหรือชุดผ้าไทยย้อนยุค ร่วมแสดงความยินดีกับคู่รักที่จดทะเบียนสมรส
หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และนายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ได้มอบทะเบียนสมรส และของที่ระลึกเป็นรูปนกกระเรียนคู่ พร้อมร่วมถ่ายภาพคู่กับคู่รักเก็บไว้เป็นที่ระลึกที่ซุ้มประดับ และมีตัวมาสคอร์ตนกกระเรียนคู่ด้วย ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ที่แต่งชุดไทยย้อนยุคอย่างสวยงามร่วมเป็นสักขีพยาน ท่ามกลางบรรยากาศอันชื่นมื่น สร้างความประทับใจแก่คู่รักที่มาร่วมจดทะเบียนสมรส
ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ภายใต้สโลแกน "รักมั่นคง ยืนยง ดั่งนกกระเรียน" มีความหมายว่า นกกระเรียนพันธุ์ไทย เป็นสัตว์ที่มีนิสัย มีคู่ตัวเดียวตลอดชีวิต เป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ในการครองคู่ ช่วยกันกกไข่จนลูกนกฟักออกจากไข่ เป็นนกที่ไม่ลืมถิ่นกำเนิด และเป็นนกที่มีอายุยืนยาว เพื่อเก็บเป็นบันทึกความทรงจำในการสร้างครอบครัวที่สวยงาม กับการครองคู่ ที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันไปตราบนานเท่านาน เช่นเดียวกับ นกกระเรียนพันธุ์ไทย
สำหรับศูนย์เรียนรู้พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย จังหวัดบุรีรัมย์ หมู่ 14 ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่ง องค์การสวนสัตว์ (อสส.) ร่วมกับจังหวัดบุรีรัมย์ หน่วยงานภาคเอกชน และชุมชนในพื้นที่รอบเคียง ได้ร่วมกันจัดตั้งเป็นศูนย์อนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และพื้นที่การจัดแสดงนิทรรศการกิจกรรมฐานการเรียนรู้ ในการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธ์ไทย ที่มีความเชื่อมโยงกับวิถีชุมชน และองค์ความรู้ท้องถิ่น ที่สอดคล้อง กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อม
ซึ่งก่อนหน้านี้ นกกระเรียนพันธุ์ไทย ได้เคยสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติไปแล้วกว่า 50 ปี ทางสวนสัตว์นครราชสีมา จึงได้ทำการเพาะเลี้ยงฝึกและปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อให้สามารถคืนถิ่นกลับสู่ธรรมชาติ ใช้ชีวิตหากินและขยายพันธุ์ อยู่ในระบบนิเวศได้อีกครั้ง ในพื้นที่ชุ่มน้ำของจังหวัดบุรีรัมย์ มาแล้วหลายครั้ง และได้มีชีวิตรอด สามารถติดตามตัวได้ กระทั่งมีลูกนกกระเรียนพันธุ์ไทย ที่เกิดในธรรมชาติ อีกจำนวนไม่น้อยกว่า 150 ตัว
คึกคักคู่รักแห่จดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรักทุกอำเภอ มีทั้งบรรยากาศริมทะเล และตรวจสุขภาพกายสุขภาพใจของคู่รัก
ที่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง นายกัฬชัย เทพวรชัย รอง ผวจ.ระยอง เป็นประธานเปิดกิจกรรมจดทะเบียนสมรส เนื่องในวันแห่งความรัก Valentine' s day ระยอง อินเลิฟ ครั้งที่ 2 ภายใต้แนวคิด 'รักษ์ไม่มีข้อแม้ รักแท้ที่เท่าเทียม' ซึ่งจัดขึ้นโดยฝ่ายปกครองอำเภอเมืองระยอง และอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด
นำโดยนายอนุสรณ์ แสงกล้า นอภ.เมืองระยอง ภายในงานมีคู่รักเพศเดียวกัน LGBT และคู่สมรสมาจดทะเบียนสมรสกัน จำนวน99 คู่ โดยเลือกจุดจดทะเบียนสมรสบริเวณจุดเช็คอินแหล่งท่องเที่ยวของอุทยานฯ เขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด และมีกิจกรรมให้คู่รักปล่อยพันธุ์ปลาลงทะเล ลุ้นของรางวัลทองคำ ที่พักบนเกาะเสม็ด และบัตรรับประทานอาหารโรงแรมหรู
ส่วนที่อำเภอบ้านฉาง นายกิติพงศ์ อุระวัตร นอภ.บ้านฉาง เป็นประธานเปิดกิจกรรม 'บอกรัก ณ บ้านฉาง' จดทะเบียนสมรสให้คู่รัก เนื่องในวันวาเลนไทน์ ปี 2567 ซึ่งจัดขึ้นโดยฝ่ายทะเบียนอำเภอบ้านฉาง และศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์บ้านฉาง มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคเอกชน ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมโรงแรมที่พักในพื้นที่ และกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนริช 865 บ้านฉาง ร่วมเป็นสักขีพยาน และมอบของที่ระลึก บัตรที่พักโรงแรม ที่พักแก่คู่สมรสด้วย มีคู่รักมาจดทะเบียนสมรส จำนวน 30 คู่ มีทั้งที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และคู่ที่รู้จักกันทางสื่อโซเชียล
ทั้งนี้จัดขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้มีความอบอุ่น และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่สังคมคู่สมรสได้มีสิทธิตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ครอบครัวมีความมั่นคงในการครองเรือนเป็นครอบครัวที่อบอุ่นทำให้เกิดสังคมอยู่ดีมีสุขต่อไปภายในงาน ได้จัดให้มีการตรวจสุขภาพ แก่คู่รักที่มาจดทะเบียนสมรสฝนวันนี้ ซึ่งเป็นการตรวจทั้งร่างกายและจิตใจให้คู่รักมีความพร้อมในการใช้ชีวิตคู่
ส่วนที่อำเภอบ้านค่าย ที่ฝ่ายทะเบียนราษฎร์ ฝ่ายปกครองอำเภอบ้านค่าย ที่ว่าการอำเภอบ้านค่าย จ.ระยอง นายทศพล บวรโมทย์ นอภ.บ้านค่าย เป็นประธานจดทะเบียนสมรสให้คู่รักที่มาจดทะเบียนกัน เนื่องในวันวาเลนไทน์ ประจำปี 2567 จำนวน 30 คู่ พร้อมมอบต้นมะเขือพืชผักสวนครัว ให้คู่รักนำไปปลูก เพื่อรับประทานผักเพื่อสุขภาพด้วย
ปทุมธานี อ.ลาดหลุมแก้ว จดทะเบียนสมรสกลางทุ่งบัวแดง
ร.ต.ต.ญ.สายสุนี ไกรนรา นายอำเภอลาดหลุมแก้ว ร่วมกับ นายวรวิทย์ พึ่งความสุข นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อเงิน และผู้นำท้องที่ท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชน ร่วมเนรมิตพื้นที่ทุ่งนา เป็นพื้นที่ทุ่งบัวแดง จัดกิจกรรม14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ จดทะเบียนสมรสกลางทุ่งบัวแดง รับของที่ระลึก ช็อกโกแลต 1 กล่อง กุหลาบแดง 1 ดอก ณ ทุ่งบัวแดง ตำบลบ่อเงิน อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เพื่อจัดงานบุพเพสันนิวาส และเปิดเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ณ ลาดหลุมแก้ว
ในวันนี้ช่วงเช้าเริ่มเวลาประมาณ 08.09 น. มีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก และมีคู่สมรสได้เดินทางมาจดทะเบียนสมรส ณ ทุ่งบัวแดง ช่วงเช้าชั่วโมงแรก 9 คู่และยังสามารถทยอยเข้ามาจดทะเบียนสมรสได้ถึงเวลา 16.30 น. วัตถุประสงค์ในการจัดงานในวันนี้เพื่อสร้างความมั่นคงในครอบครัว และกระตุ้นเศรษฐกิจค้าขายในพื้นที่
24 คู่รัก จูงมือจดทะเบียนสมรส สุดชื่นมื่น ในวันแห่งความรัก เบตงรักที่สุด ใต้สุดสยาม ท่ามกลางดอกไม้นานาพันธ์ และไอหมอกยามเช้า ที่สวนหมื่นบุปผา โครงการไม้ดอกเมืองหนาวอันมาจากพระราชดำริฯ อ.เบตง จ.ยะลา
ที่สวนหมื่นบุปผา โครงการไม้ดอกเมืองหนาวอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี หมู่ที่ 2 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา สำนักงานทะเบียนอำเภอเบตง ได้จัดกิจกรรมจดทะเบียนสมรส เนื่องในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ ภายใต้ชื่อกิจกรรม "เบตงรักที่สุด ใต้สุดสยาม " เพื่อส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้เข้มแข็ง และสนับสนุนให้มีการจดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย รักษาสิทธิสถานภาพบุคคลและสถานะของครอบครัว
โดยมีคู่รักร่วมจดทะเบียนจำนวน 24 คู่ แต่งกายชุดบ่าวสาว ทั้งแบบชุดไทย ชุดมลายู ชุดจีน และชุดเสื้อผ้าคู่ อย่างสวยงาม ส่วนใหญ่เป็นคู่รักในพื้นที่จ.ยะลา และคู่รักซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธ์ จากชนเผ่าลาหู่ ในพื้นที่ ต.ตาเนาะแมเราะ มาร่วมจดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรัก โดยมีนายอมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง เป็นนายทะเบียนลงนาม มีนายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และส่วนราชการ ประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวสวนไม้ดอกเมืองหนาว ร่วมเป็นสักขีพยานและแสดงความยินดีต่อคู่รัก บรรยากาศอบอวนไปด้วยความรักสุดชื่นมื่น
นายอมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง กล่าวว่า ทางสำนักงานทะเบียนอำเภอเบตง ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมสถาบันครอบครัว จดทะเบียนสมรสเนื่องในวันแห่งความรักต่อเนื่องมานานหลายปีแล้วเพื่อสนับสนุนให้มีการจดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย รักษาสิทธิสถานภาพบุคคลและสถานะของครอบครัว บางคู่รักแต่งงานสร้างครอบครัวร่วมกันมานานหลายสิบปีแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส เช่นกลุ่มชาติพันธ์ลาหู่ ที่อาจไม่ยังไม่รู้ถึงสิทธิทางกฎหมายของการมีทะเบียนสมรส ทางอำเภอเบตงจัดกิจกรรมนี้ขึ้นก็เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ได้จดทะเบียนสมรสในวันพิเศษ ที่ตรงกับวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ และยังได้รับของขวัญพิเศษเป็นโรงแรมที่พัก และของที่ระลึกอีกมากมาย
นอกจากนี้ทางสำนักงานสาธารสุขเบตง ยังได้มอบยาโฟลิก ซึ่งเป็นยาบำรุงเลือด และยาเฟอรัสฟูมาเรต เป็นยาเสริมธาตุเหล็กป้องกันภาวะโลหิตจาง ให้ได้รับประทานในช่วงที่ตั้งครรภ์ นายอำเภอเบตงกล่าวด้วยว่าเนื่องในวันแห่งความรักขอให้คู่รักทุกคู่ที่จดทะเบียนสมรสในวันนี้ครองรักกันยาวนาน
ด้านนายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ขอให้คู่รักที่มาจดทะเบียนวันนี้มีความสุข ครองรักกันอย่างยั่นยืน และขอให้ทุกคนมีความสุขในวันแห่งความรัก ขอให้รักกันมากๆ เพราะความรักทำให้โลกสวยงาม ทำให้บ้านเมืองสงบสุข การจัดกิจกรรมจดทะเบียนสมรสเนื่องในวันแห่งความรัก ที่สวนโครงการไม้ดอกเมืองหนาวอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ นอกจากจะสร้างสีสันในวันแห่งความรักแล้วยังเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอเบตงอีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับปีนี้มีที่ครองคู่กันมายาวนานกว่า40ปี เป็นคู่รักชาวลาหู่ ใน ต.ตาเนาะแมเราะ ฝั่งเจ้าบ่าวคือนายยอเช๊ะ เล่าตา อายุ 78ปี เจ้าสาวคือนางมาเรีย เล่าตา อายุ 57ปี ทั้งคู่บอกว่าประทับใจกับกิจกรรมจดทะเบียนสมรสที่ทางอำเภอเบตงจัดขึ้นในวันนี้ และดีใจที่ได้มีทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายแล้วหลังจากที่ใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันมากว่า40ปี มีลูก5คนลูกๆก็โตกันหมดแล้ว ส่วนเคล็ดลับที่ครองคู่กันมาได้ยาวนานคือการให้ความรักต่อกัน ซื่อสัตย์และดูแลกันแลกันทั้งยามทุกข์และสุข.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี