19 กุมภาพันธ์ 2567 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ศูนย์วิทยุ 191 จ.อุดรธานี รับแจ้งจากคนใช้รถใช้ถนนบนถนนมิตรภาพ หมายเลข 2 สายอุดรธานี-ขอนแก่น พบมีหญิงสาววิ่งตัดหน้ารถข้ามไปมา เหมือนหวังให้รถชนตายหรือหนีผุ้ชายจะทำร้าย และมีผุ้ชายขับรถมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์ไล่ตาม คาดว่าจะเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทผัวเมีย หรือหญิงสาวโดนหลอก เหตุเกิดริมถนนบริเวณด่านชั่งน้ำหนัก ต.ผาสุก รอยต่อ ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี
ไม่นานก็มีคนแจ้งมายังศูนย์วิทยุ 191 แจ้งอีกบอกว่า เจอหญิงสาววิ่งตัดหน้ารถแถวปั๊มคอสโม ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้ง ตร.สายตรวจ สภ.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ,สายตรวจรถยนต์สภ.กุมภวาปี,และสภ.ประจักษ์ศิลปาคม รุดไปตรวจสอบเพื่อช่วยเหลือและระงับเหตุ ทันที เหตุที่ตำรวจไปทั้ง 3 อำเภอ เพราะที่เกิดเหตุคาบเกี่ยวในท้องที่รับผิดชอบ 3 อำเภอ
เมื่อไปถึงพบหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง (ปั๊มคอสโม) ในเขตรับผิดชอบของสภ.ประจักษ์ศิลปาคม พบชายคนหนึ่งขับรถบิ๊กไบค์รถ 150 ซีซีสีแดงดำจอดริมทางมีสีหน้าหน้าดำคล่ำเครียด ทราบชื่อคือนายเมฆินทร์ อายุ 38 ปี หรือ เม ชาวต.โคกกลาง อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี แจ้งกับตำรวจว่า 'ผมเครียดมากถูกหญิงสาวที่เพิ่งรู้จักกันศาลาริมทางขโมยเงินไป โดยหญิงคนนี้ชื่อเล่นว่ากิ๊ก ฉกเอาเงินในกระเป๋าเสื้อไปประมาณหมื่นกว่าบาท ขณะพานั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์จะไปกินหมูกระทะในตัวเมือง พอตนเองจับได้เจ้าตัวก็กระโดดหนีจากรถข้ามไปมาระหว่างถนน 4 เลน ตนก็ขับรถวิ่งไล่ตาม แต่เจ้าตัวไม่ยอมรับว่าขโมยเงิน ทำให้คนตกใจนึกว่าตนทำร้ายแต่ไม่ใช่'
ตนมีอาชีพเก็บของเก่าขาย รู้จักสาวคนนี้ศาลาริมทาง เช้าวันนี้เอง พูดถูกคอกันความรักกำลังหวานฉ่ำ เลยซื้อเหล้ากินด้วยกัน จากนั้นพาไปนอนรีสอร์ทมีอะไรกันเสร็จแล้ว จะสานต่อสายสัมพันธ์ให้ความรักหวานฉ่ำมากขึ้น บ่ายจึงพาสาวคนนี้จะไปกินหมูกระทะในตัวเมือง พอขับมาถึงด่านชั่งน้ำหนัก อ.กุมวภาปี สังเกตได้เงินในกระเป๋าเสื้อหายจึงจอดรถ
สอบถามสาวนี้เขาบอกว่าไม่ได้เอาไป เขาก็วิ่งหนีผมก็ขับรถวิ่งไล่ตาม จนชาวบ้านและคนขับรถไปมาหาว่าผมทำร้ายผุ้หญิง เงินผมหมื่นกว่าบาท เก็บของเก่า เก็บเล็กผสมกว่าจะได้ สาวนี้เอาไปได้ไง อยากกินเหล้าผมก็ซื้อให้กินแล้ว พอเขาฉกเงินทำให้ผมโมโห ถามเขาก็ไม่ยอมรับ อ้างว่าเป็นเงินของเขาหยอดกระปุกเอาไว้ ผมก็ไม่ยอมสิ มันน่าเจ็บใจจริงๆ เขาเป็นกิ๊กกับผม รู้จักกันแค่วันนี้ ดันมาขโมยเงินผมอีก
ด.ต.ชัลวาลย์ โสประโคน หัวหน้าตำรวจสายตรวจ ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี บอกว่า บ่ายวันนี้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 แจ้งว่า มีผัวเมียทะเลาะกัน วิ่งผ่านไปมากลางถนน หวังให้รถชน ตำรวจทั้ง 3 โรงพักจึงรีบมาตรวจสอบพบว่าเป็นพื้นที่ สภ.ประจักษ์ศิลปาคม สอบถามข้อมูลลึกๆพบว่าสองคนมีปัญหากันเรื่องเงิน จึงให้ตำรวจ สภ.ประจักษ์ศิลปาคม นำตัวไปสอบถามข้อเท็จจริงต่อไป
พอถึงสภ.ประจักษ์ศิลปาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามน้องกิ๊ก บอกว่า ฉันไม่ได้ขโมยเงินผุ้ชายคนนี้ ฉันกำลังเดินอยู่ริมถนน แต่เจอผู้ชายคนนี้จะมาวิ่งราวและดึงกระเป๋าฉัน ส่วนเงินในกระปุกฉันเก็บออมหยอดกระปุกกว่าจะได้เงินในกระปุกมีประมาณ 7,000-8,000 บาท ส่วนที่เขาอ้างว่าฉันซ้อนท้ายฉกเงินเขา ฉันไม่ได้ซ้อนท้ายรถเขาไปแต่อย่างใด ทำแบบนี้ฉันไม่ยอม จะแจ้งความขอปรับนายเมเป็นเงิน 500 ล้านบาท
ขณะที่นายเมโต้เดือดสาวรายนี้ ผมยอมรับผมเจอเขาศาลาริมทาง ขณะที่ผมแวะพัก แล้วพูดถูกคอถูกใจ ซื้อเหล้ามาให้กินด้วยกันแล้วพาไปนอนรีสอร์ท มีอะไรกันแล้วจะไปสานต่อความรักให้หวานฉ่ำไปอีก ขณะที่พาซ้อนมอเตอร์ไซด์สาวนี้ดันฉกเงินในกระเป๋า ทำให้ผมโมโหทำแบบนี้ได้ไง
ขณะที่ตำรวจ สภ.ประจักษ์ศิลปาคม เคลียร์ใจให้ทั้งสองฝ่าย ฝ่ายชายก็บอกว่าเขาฉกเงินผมไป ฝ่ายหญิงสาวก็บอกว่าเป็นเงินฉัน โดยตำรวจจึงขอตรวจสอบเงินในกระปุกออมสินของสาวกิ๊ก โดยได้ให้ช่างมาตัดกระปุกออมสินที่เป็นเหล็กพบเงินประมาณ 6,000 บาท ฝ่ายหญิงก็เถียงเป็นเงินเขา ฝ่ายชายก็ไม่ยอมเป็นเงินที่หญิงคนนี้ฉกในกระเป๋า แต่ยังตกใจกันไม่ได้ ต่างฝ่ายต่างยืนยันเป็นเงินของตนเอง
ตอนท้ายนายเมย์เดือดชี้หน้าสาวกิ๊กบอกว่า มึงมาทำแบบนี้ทำไง เงินกู คุยกันตอนแรกบอกจะให้คืน
ขณะที่หญิงสาวก็ตอกกลับ เธอมาปรักปรำฉันได้อย่างไร ทำร้ายฉันด้วย ฉันไม่ได้เอาเงินคุณไปซะหน่อย
ทางด้าน ตำรวจต้องปล่อยตัวฉันกลับบ้านเรื่องถึงจะจบ ขณะที่ตำรวจตรวจสอบเงินในกระปุกและอธิบายว่า การหยอดเงินใส่กระปุกไม่ใช่การหยอดทีละใบ แต่เอาเงินธนบัตรสอดใส่ไปครั้งเดียว ตอนนี้ยังตกลงกันไม่ได้ คงต้องดำเนินการต่อไปในวันพรุ่งนี้.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี