เมนูเด็ดพระเอกหน้าแล้งมาแล้ว! ไข่มดแดงของแซ่บอีสานอาหารชั้นสูงราคาเกือบพัน
ช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนของทุกปี เป็นการผลัดเปลี่ยนฤดู จากเหมันต์หน้าหนาว เป็นคิมหันต์หน้าร้อน ถือเป็นโอกาสดีของชาวบ้านทางแถบภาคอีสาน โดยเฉพาะหมู่บ้านที่ยังมีป่าชุกชุม จะออกไปแหย่ไข่มดแดงตามต้นไม้ ในเรือกสวนไร่นาของเกษตรกร เพื่อนำมาปรุงอาหาร หรือส่งขายสู่ท้องตลาด สนนราคาถึงกิโลกรัมละ 600 บาท ยิ่งช่วงหายากๆราคาพุ่งถึง 1,000 บาท/กก. ถึงกระนั้นผู้บริโภคก็ไม่เกี่ยงงอนต่อราคา เพราะทราบดีว่ากว่าจะได้ไข่มดแดงมาวางขาย คนหาต้องต่อสู้กับเจ้าของรังถูกกัดจนแสบไปทั้งตัว จึงพร้อมจะควักกระเป๋าซื้อไปปรุงเมนูเด็ดตามใจชอบ
อย่างเช่นที่บ้านนาโพธิ์ หมู่ 5,12 และหมู่ 17 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม มีพื้นที่ติดกับป่าชุมชน รวมถึงป่าสาธารณะนับพันไร่ นอกจากคนในชุมชน จะประกอบอาชีพดั้งเดิมคือทำนา ปัจจุบันมีระบบชลประทานวางร่องน้ำพาดผ่าน จึงได้ขยายปลูกพืชผัก สวนไม้ดอกไม้ประดับ ส่วนในพื้นที่ไม่มีระบบชลประทานก็ปลูกอ้อย มันสำปะหลัง และยางพารา ฯลฯ
ทั้งนี้ทั้งนั้นในแต่ละช่วงฤดูกาล ชาวบ้านจะใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผนวกกับประสบการณ์หาอาหารจากธรรมชาติ เช่นฤดูฝนจะหาเห็ด ฤดูหนาวปลูกผักสวนครัว ส่วนหน้าร้อนออกหาแหย่ไข่มดแดง เป็นต้น
เฉกเช่นครอบครัวของนางสาวปัญญา หลาบคำ หรือแมว อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197 หมู่ 12 บ้านนาโพธิ์ ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม ที่ใช้ภูมิปัญญาจากพ่อแม่ ได้ถ่ายทอดให้รู้จักหากินตามวิถีชนบท โดยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านจากหน้าหนาวสู่หน้าร้อน อาหารที่หากินได้ตามธรรมชาติคือไข่มดแดง ซึ่งมีชุกสุดช่วงหน้าแล้ง ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนของทุกปี
โดยนางสาวปัญญาหรือแมว เล่าให้ฟังว่าแหย่ไข่มดแดงมาตั้งแต่อายุ 15-16 ปี มีอุปกรณ์ประกอบด้วยไม้ไผ่ยาว ๆ,กระสอบเย็บปากกว้าง,ถาดสำหรับใส่ไข่มดแดง และแป้งมัน โดยนำกระสอบมามัดไว้กับปลายไม้ ทำปากให้กว้างเพื่อแหย่รังมดแดง เมื่อได้ไข่มดแดงมาจะใช้เทลงในถาด โรยด้วยแป้งมันเพราะจะทำให้ตัวแม่หนีไป และไม่ทำให้ไข่มดแตก อดีตใช้เทไข่ลงในถังที่มีน้ำ จากนั้นก็เอามือคนๆเพื่อไม่ให้แม่มดแดงไต่ออกมาและจมน้ำตาย วิธีนี้ถือว่าเป็นการฆ่ายกรัง เพราะมดแดงลดโอกาสสร้างรังใหม่ต่อไป
น.ส.แมวเล่าต่อว่า ในแต่ละวันหาไข่มดแดง ได้สูงสุดไม่เกินวันละ 2 กิโลกรัม บางวันไม่ได้เลยก็มี ห้วงปลายเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมราคาจะแพง เพราะเป็นช่วงที่ไข่เต่งตึงที่สุด ถ้ามีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อ จะขายส่งในราคา 500 บาท/กก. ส่วนเขาจะไปขายเท่าไหร่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าไม่มีพ่อค้ามาซื้อ ก็จะทำเป็นหมกไข่มดแดงขายในหมู่บ้าน ยอมรับว่าช่วงนี้เป็นโอกาสดีของชาวชนบท หารายได้จากธรรมชาติ และไม่ได้มีตลอดทั้งปี แค่ระยะสั้นๆเพียง 3 เดือนเท่านั้น
“การแหย่ไข่มดแดง แม้อากาศร้อนแค่ไหน ก็ต้องแต่งตัวมิดชิด ไม่เช่นนั้นมดจะไต่มากัด ไม่วายโดนกัดจนหน้าตาพังหมด และจากประสบการณ์จะรู้ว่าบริเวณไหนมีรังมดแดงชุกชุม อีกอย่างไม่ใช่มีเพียงตนผู้เดียว ในหมู่บ้านช่วงนี้ต่างก็ออกหาแหย่ไข่มดแดงกัน ฯ” น.ส.ปัญญา หลาบคำ หรือแมว กล่าว
นางนิตยา คำเกลี้ยง หรือจิน อายุ 52 ปี ผู้ได้ชื่อว่าเป็นเชฟอาหารอีสานประจำหมู่บ้าน ได้ปรุงก้อยไข่มดแดงโชว์ผู้สื่อข่าว โดยมีเครื่องปรุงที่หาง่ายในชุมชน เช่น ข้าวคั่ว น้ำปลาร้า หอมแดง ต้นหอม ผักชีฝรั่ง พริกป่น พริกแดงสดซอย น้ำมะนาว และ มะกอก พร้อมเผยเคล็ดที่ไม่ลับว่า สิ่งแรกที่ควรทำก่อนคือนำไข่มดแดงมาล้างหลายๆน้ำ เพื่อให้แป้งมันและสิ่งปนเปื้อนที่มากับไข่มดแดงหมดไป ที่สำคัญต้องปรุงทันทีเพราะไข่มดแดงเก็บไว้นานไม่ได้ ยิ่งล้างไม่สะอาดหรือไข่เริ่มเสียเพราะอากาศร้อนมีสิทธิ์ท้องร่วงได้ ส่วนคนที่แพ้ไข่มดแดงสด หากเอาไปลวกน้ำร้อน หรือคั่วก็รับประทานได้ หนึ่งปีมีให้กินแค่ครั่งเดียวเท่านั้น
ทั้งนี้ ไข่มดแดงมีคุณค่าทางโปรตีนสูงและแคลอรีต่ำ โดยในไข่มดแดง 100 กรัม หรือประมาณ 6 ช้อนโต๊ะ มีโปรตีนสูงถึง 8.2 กรัม ส่วนด้านพลังงาน ทานไข่มดแดง 100 กรัม จะได้รับพลังงาน 86 กิโลแคลอรี จึงเห็นได้ว่าไข่มดแดงมีคุณค่าทางอาหารสูง โดยผู้บริโภคนิยมนำไปปรุงเป็นอาหารรสเลิศ เช่น ผสมในไข่เจียว ยำ แกงผักหวาน ลาบ ก้อย แกงเห็ด และ ต้มยำปลาช่อน ฯลฯ ปัจจุบันมีไข่มดแดงในน้ำเกลือบรรจุกระป๋อง ราคากระป๋องละ 160 บาท แต่มีน้ำหนักเฉพาะไข่มดแดง 100 กรัมหรือ 1 ขีด เท่ากับว่าไข่มดแดงราคาเฉพาะเนื้อ กิโลกรัมละ 1,000 บาท ถือว่าราคาไม่แผ่วเลย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี