ตร.สายตรวจ สภ.ไชยวานเข้าช่วยเหลือสาวสองถูกแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบกันไปปล่อยทิ้งข้างเมรุเผาศพวัดป่าแล้วเชิดรถหนี เจ้าตัวรอตั้งแต่เช้าจนถึงมืดค่ำ นั่งสะอื้นร้องไห้บนตัดพ้อเอาหยังเฮ้ดใจ!! อุตส่าห์ขับรถมารับจากสกลนครถึงอุดรเกือบ 200 กม.สุดท้ายโดนหลอกมาปล่อยทิ้งแล้วขับรถหนีไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.คืนวันที่ 27 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ธานี ไขแสงจันทร์ รอง สวป.สภ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านโพนสูงว่ามีสาวประเภทสองถูกแฟนหนุ่มนำมาปล่อยทิ้งเอาไว้ข้างเมรุเผาศพวัดป่ามงคลปัญญาคุณ บ้านโพนสูง ต.โพนสูง อ.ไชยวาน เวลามืดค่ำแล้วกลัวจะเป็นอันตราย หลังรับแจ้งจึงพร้อมตำรวจสายตรวจไปตรวจสอบยังวัดดังกล่าวทันที เมื่อไปถึงพบกับสาวสองทราบชื่อคือนายสมัย หรือ น้องบี อายุ 34 ปี ชาวบ้านพังเม็ก ต.งิ้วด่อน อ.เมือง จ.อุดรธานี นั่งสะอื้นร้องไห้อยู่และบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกแฟนหนุ่มมาปล่อยทิ้งที่ข้างเมรุวัดป่าแห่งนี้ตั้งแต่เช้าจนถึงมืดค่ำ โดยแฟนหนุ่มชื่อนายเก่ง ขับรถจักรยานยนต์ของตนหนีไปแล้ว ไม่กลับมาอีกเลย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชยวาน จึงได้อาสาพาน้องบีมาส่งกับป้าติ๋มคนรู้จักที่บ้านหลังหนึ่งที่บ้านหนองคูพัฒนา ต.ไชยวาน เพื่อให้นอนที่ป้าติ๋มก่อนรอให้แฟนหนุ่มติดต่อกลับมาอีกครั้ง พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกน้องบีว่า ต่อไปก็อย่าไปไว้วางใจใครให้มาก นี่ขับรถมาไกลมากเพื่อมารับแฟนหนุ่ม แต่สุดท้ายแฟนหนุ่มมาปล่อยทิ้งที่ข้างเมรุวัดป่าแล้วหลบรถหนีไป หากให้ตำรวจช่วยอะไรก็บอกได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับน้องบี สาวสองชาวสกลนคร ซึ่งพักอยู่บ้านป๋าติ๋ม พื้นที่หมู่ 16 บ้านหนองคูพัฒนา น้องบี เปิดเผยว่า ตนทำงานเป็นเด็กปั๊มที่สกนคร รู้จักกับนายเก่ง อายุ 29 ปีชาว อ.กุดบาก จ.สกลนคร มาทำงานที่ จ.อุดรธานี เราคุยกันทางเฟสบุ๊กและติดต่อกันเรื่อยมา คุยกันได้สักพักแล้ว ยอมรับตนก็ชอบเขา เพราะคุยกันแล้วถูกคอกัน นายเก่งบอกว่าอยากจะกลับบ้านที่ อ.กุดบาก ให้มารับหน่อย ตนก็เอาใจวัดใจและเพราะรักเขาด้วย จึงขี่รถจักรยานยนต์จากสกลนครมารับที่อุดรเลย ออกจากที่ทำงานตอนตี 2 วันที่ 27 ก.พ.
พอมาถึงตอนแรกเขาบอกว่าทำงานที่ อ.หนองหาน พอตนขับมาถึง อ.หนองหาน เขากลับบอกว่าอยู่ อ.เพ็ญ ตนก็ขี่ไปรับเขาถึงตัวอำเภอเพ็ญ ระยะทางกว่า 200 กม. จากบ้านที่สกลนคร ขากลับเขาบอกว่าจะขอแวะที่บ้านแฟนเก่าที่ อ.ไชยวาน คือบ้านป้าติ๋ม เพื่อมายืมเงินเติมน้ำมันกลับบ้าน แต่พอมาแล้วแฟนเก่าแต่งงานใหม่แล้ว เขาเลยพาขี่ไปที่วัดป่ามงคลคุณ บอกให้ตนรอที่เมรุเผาศพ จะไปยืมเงินเพื่อนอีกคน ตนก็เชื่อใจจึงลงจากรถรอเขาตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง 6 โมงเย็นเมื่อวานนี้ เริ่มจะมืดค่ำแล้วไม่เห็นเขามาสักที
"หนูก็โทรหาเขาและทักเฟสเขาไปแต่สุดท้ายเขาก็ไม่มา หนูร้องไห้เลย มาทำกันได้ลงคอ อุตส่าห์ขับรถมาไกลเพราะรักจะพากลับบ้าน แต่สุดท้ายมาปล่อยหนูทิ้งในวัดป่า และเอารถจักรยานยนต์หนูไปด้วย ตอนนี้เขาติดต่อกลับมาแล้วว่าจะเอารถมาคืน หนูก็รออยู่ แต่หากเขาไม่เอารถมาคืนก็จะแจ้งความดำเนินคดีเขา ต่อไปก็จะไม่คบนายเก่งแล้ว ทางใครทางมันแล้วกัน รักให้หมดใจไปแล้วแต่มาทำแบบนี้ อยากรู้เอาหยังเฮ้ดใจ" น้องบี สาวสองชาวสกลนคร กล่าว
ขณะที่ป้าติ๋ม นางสมศรี จุเมือง อายุ 63 ปี บอกว่า เพิ่งรู้จักน้องบีก็เมื่อวานนี้ เขามากับนายเก่ง อดีตสามีของหลานสาวตนเอง แต่เลิกกันไปหลายปีแล้ว นายเก่งเขามายืมเงินป้า 200 ป้าก็บอกว่าไม่มี แต่ก็สงสารก็เลยให้ไป 60 บาท เลี้ยงข้าวด้วยก่อนเดินทาง ไม่นานตอนหัวค่ำเมื่อวานนี้ ตำรวจก็มาที่บ้านบอกว่านายบีสาวสองบอกว่ารู้จักขอนอนด้วยเพราะถูกแฟนหนุ่มทิ้งไว้ที่วัดป่า ป้าก็ตกใจทำไมทิ้งกันได้ สอบถามเบื้องต้นทราบว่าน้องบีคบกับนายเก่งอดีตหลานเขย นายบีสาวสองขี่รถจักรยานยนต์จากสกลนครมารับนายเก่ง แฟนหนุ่มเพื่อกลับบ้านที่ อ.กุดบาก แต่เขาเอาไปปล่อยทิ้งไว้วัดป่า แล้วเชิดรถจักรยานยนต์หนี ตนเห็นแล้วก็สงสารเขาเป็นคนต่างถิ่นก็เลยให้นอนด้วย โดยวันนี้ก็เห็นว่านายเก่งติดต่อจะเอารถมาส่งแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะจริงไหม เมื่อคืนก็ให้น้องบี นอนที่นี่ สงสารน้องเขา หากนายเก่ง ไม่มาก็จะขับรถไปส่งที่บ้านหนองเม็กให้ เขานั่งรถทัวร์กลับบ้านไปก่อน ก็อยากจะฝากบอกน้องบีว่าจะไว้ใจคนอะไรง่ายๆ ตอนนี้ลุ้นกันอยู่ว่านายเก่งจะเอารถมาให้หรือไม่ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี