พบ "พะยูนผอมแห้ง" ลอยตายที่เกาะลิบงอย่างน่าสลดใจ ชี้สภาพแวดล้อมวิกฤติหนัก ขณะที่เพจ "กรม ทช."ชี้แจงไม่ได้นิ่งนอนใจได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาหญ้าทะเลเสื่อมโทรมอย่างเร่งด่วนแล้ว
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 8 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวประมงพื้นบ้านพบศพพะยูนลอยอยู่ในน้ำบริเวณทะเลฝั่งใกล้ท่าเทียบเรือบ้านพร้าว หมู่ 1 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าหมู่เกาะลิบง นายอับดุลร่อหีม ขุนรักษา กำนันตำบลเกาะลิบง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าตรวจสอบ จุดที่พบพะยูนมีสภาพเป็นร่องน้ำและเป็นช่วงที่น้ำกำลังขึ้น พบซากพะยูนกำลังลอยอยู่บนผิวน้ำ ตรวจสอบบริเวณลำตัวมีสภาพผอมและมีเพรียงเกาะอยู่เต็มผิวหนัง ไม่พบบาดแผลหรือซากอวนและอุปกรณ์ประมงแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเคลื่อนย้ายพะยูนขึ้นฝังเพื่อตรวจสอบ
นายสุวิทย์ สารสิทธิ์ หรือบังจ้อน หัวหน้าชุดปฎิบัติการกู้ชีพทางน้ำเกาะลิบง เผยว่า เมื่อช่วงเช้าได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านว่าพบพะยูนลอยน้ำเสียชีวิตดูจากสภาพแล้วคาดว่าน่าจะเจ็บป่วยเนื่องจากมีตัวเพรียงไปเกาะอยู่เต็มลำตัวและผอมมาก ซึ่งต้องรอผลชันสูตรเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง นับตั้งแต่ต้นปี 2567 เท่าที่ตนและชาวบ้านทราบตอนนี้มีพะยูนตายประมาณ 4-6 ตัว ส่วนที่มาทราบภายหลังก็มีรวมนับได้ 10 ตัว ตอนนี้ถ้าถามถึงสถานการณ์วิกฤติของพะยูนก็อยู่ในระดับที่ 5 คือสถานการณ์วิกฤติมาก สาเหตุหลักก็มี 2 ประเด็น คือ 1.อาการเจ็บป่วย 2.โดนเครื่องมือประมง
นายสุวิทย์ หรือ บังจ้อน กล่าวกด้วยว่า ตนในฐานะที่ทำงานด้านอนุรักษ์มายาวนาน ที่ผ่านมาทั้งชาวบ้านเกาะลิบงและชาวประมงก็รู้สึกผูกพันกับพะยูนมานานตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ปัจจุบันนี้หากเจอพะยูนมาเกยตื้นก็แจ้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านมาช่วยเหลือกันแต่ตลอด ตนอยากฝากให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมาพูดทำความเข้าใจกับชาวบ้านในเรื่องการติดต่อประสานงานให้การช่วยเหลือเบื้องต้นปัญหาหญ้าทะเลก็มีส่วน เมื่อก่อนท้องทะเลอุดมสมบูรณ์ ถ้าให้นักวิจัยลงมาสำรวจช่วงน้ำลงตอนนี้ก็พบว่ามันเป็นคนละเรื่องกับสมัยก่อน ทั้งปัญหากระแสน้ำที่เปลี่ยน โคลนตมในทะเล อุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นหรือปัญหาทางสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบไปทั่วทั้งโลก เมื่อน้ำลดแดดที่ส่องลงมาโดนหญ้าทะเลก็ตาย บริเวณนั้นไม่มีโคลนทะเล น้ำไม่นิ่งหญ้าทะเลก็ตาย ปัญหาดังกล่าวทำให้ระบบนิเวศน์เปลี่ยนไป
"ปกติพฤติกรรมพะยูนจะไม่เข้าใกล้คน แต่ช่วงหลังมีพะยูน 1-2 ตัว ว่าเข้ามาหาพบเห็นที่ท่าเรือบ่อยขึ้น นั่นเป็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป พะยูนต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งต้องประเมินหน้างานให้ถี่ถ้วน รวมถึงเบอร์ติดต่อประสานงานหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ต้องมีให้ชัดเจน และเพิ่มความจริงจังในการตรวจตรามากขึ้น"
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เพจ ขยะมรสุม ᴍᴏɴsᴏᴏɴɢᴀʀʙᴀɢᴇ ᴛʜᴀɪʟᴀɴᴅ ได้โพสต์ข้อความว่า "จะร้องแล้ว" พะยูนผอมมาก ท่าเรือบ้านพร้าวเกาะลิบงไม่มีใครสนใจ รอให้ตายหมดก่อนเหรอคับ หญ้าก็หาย ตะกอนจากการก่อสร้างก็ไม่มีใครทำอะไร บอกใครก็ไม่สนใจ มารวมกันช่วยหน่อยได้ป่าว หลายเดือนแล้วไม่บูมเลย พะยูนตายทุกคนก็เฉยๆ สภาพแย่ลงไปทุกวัน หญ้าเหลือน้อยแล้วนะขอความสนใจหน่อยปีนี่ตายไปหลายตัวแล้วนะ
ล่าสุดเพจ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2567 เวลา 09.30 น. จนท.ทช.ได้รับแจ้งเหตุพบพะยูนเกยตื้นจากเครือข่ายอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากในพื้นที่เกาะลิบง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่และสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง ได้เดินทางไปรับซาก พะยูนที่เกยตื้นบริเวณเกาะลิบง เพื่อนำกลับมาชันสูตรหาสาเหตุการตาย เมื่อทราบสาเหตุแล้วจะนำมาแจ้งให้ทราบครับ
โดยจากรายงานในปี พ.ศ.2567 จ.ตรัง พบพะยูนเกยตื้น 3 ตัว สำหรับในส่วนของปัญหาหญ้าทะเลเสื่อมโทรม ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาหญ้าทะเลเสื่อมโทรม ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านหญ้าทะเล สัตว์ทะเลหายาก ด้านสมุทรศาสตร์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัย ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ ซึ่งคณะดังกล่าวได้ลงพื้นที่เพื่อมาเก็บข้อมูลรวมทั้งได้พูดคุยกับชาวบ้านชาวประมงที่ได้รับผลกระทบ เมื่อวันที่ 16-18 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา รวมทั้งได้วางแผนลงพื้นที่อีกครั้งในวันที่ 10-16 มี.ค. เพื่อหาสาเหตุของการเสื่อมโทรมของหญ้าทะเล และนำมาออกมาตรการแก้ไขหรือฟื้นฟูหญ้าทะเลโดยเร็วที่สุด - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี