จ.สุรินทร์ คืบหน้าหนุ่มหัวร้อนฟันศอกตู้กระจกร้านลาบ เจ้าตัวเผย ยอมรับที่หัวร้อนแต่ไม่พอใจที่ถูกเอาเปรียบในฐานะผู้บริโภค ซอยจุ๊ 90 บาท แต่เช็คบิลมา 120 บาท
9 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ รายงานว่า จากกรณีที่มีชายเมาสุราอาละวาด ใช้ศอกทุบตู้กระจกร้านลาบจนแตก พังเสียหาย ที่เกิดเหตุอยู่ที่ร้านจำหน่ายอาหารที่มีชื่อว่า “ร้านลาบร้อยเอ็ด ณ สุรินทร์” ตั้งอยู่บริเวณริมถนน สุรินทร์ - ศีขรภูมิ ( หน้าโรบินสันสุรินทร์ ) ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งทางเจ้าของร้านลาบ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุไม่พอใจที่ราคาของซอยจุ๊ ที่ทางร้านเรียกเก็บบิล ไม่ตรงกับราคาในป้ายเมนู
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวทราบว่าหนุ่มหัวร้อนมีชื่อว่า นายภูกาญจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี เปิดใจว่า ตนได้ไปนั่งสั่งอาหารทานกับกลุ่มเพื่อนๆที่ร้าน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนจะเรียกเจ้าของร้านเช็คบิล ตอนแรกเจ้าของร้านไม่ได้ส่งสลิปให้ดู แค่แจ้งราคามา 530 บาท ตนก็เลยบอกเจ้าของร้านให้ช่วยเขียนบิลแยกออกมาให้หน่อยว่าแต่ละเมนูมีราคาเท่าไหร่บ้าง เพื่อที่ตนจะได้แชร์กันกับเพื่อน เจ้าของร้านก็เขียนบิลส่งมาให้ แต่ตนยอมรับว่าตนไม่ได้ดูบิลในตอนนั้นเลย ว่าในบิลกับป้ายราคาตรงกันไหม ตนก็ได้โอนเงินจ่ายไปแล้ว 530 บาท พร้อมกับถ่ายรูปป้ายเมนูไว้ จนกลับมานั่งดื่มต่อที่บ้านและก็นึกขึ้นได้ว่า ทำไมราคาที่เช็คบิลมามันแปลกๆ ตนก็เลยมาไล่ดู ตนยืนยันว่าไม่ใช่เฉพาะ "เมนูซอยจุ๊" ที่มีส่วนต่างแค่ 30 บาท เมนูอื่นก็เช่นกันที่ราคาไม่ตรงกับป้ายเมนู เช่น ก้อยเนื้อ 70 บาท แต่เช็คบิลมา 80 บาท ต้มเนื้อเปื่อย 70 บาท แต่เช็คบิลมา 80 บาท กระเพราเนื้อ 40 บาท แต่เช็คบิลมา 50 รวมถึงซอยจุ๊ 90 บาท แต่เช็คบิลมา 120 บาท
นายภูกาญจน์ ยังเล่าต่ออีกว่า ประเด็นที่ตนโมโหมันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่ตนมองว่ามันคือการเอาเปรียบผู้บริโภคมากกว่าและที่ทางร้านให้ข่าวออกไปว่า ทางร้านได้แจ้งราคาแล้วและกำลังทำป้ายราคาใหม่ อันนี้ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะตอนที่ตนนั่งกิน ทางร้านไม่ได้พูดบอกอะไรสักคำ แค่หยิบกระดาษ A4 ที่กำลังลิสราคาขึ้นมาใหม่ให้ตนดู หลังจากที่มีปัญหากันแล้ว และก่อนจะสั่งอาหาร ทางร้านก็ไม่แจ้งราคาก่อนด้วย รวมถึงราคาในป้ายเมนูสี ก็จางจนแทบจะมองไม่เห็น และอีกอย่างที่ทางร้านอ้างว่า ตนไม่ได้จ่ายค่าเบียร์ 1 ขวดนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะตนหิ้วเบียร์มากันเอง และก็ไม่ได้มีใครเดินไปสั่งเบียร์ที่ร้านข้างๆด้วย
ทั้งนี้ นายภูกาญจน์ ก็ยอมรับว่าตนหัวร้อนเกินไปที่ทำลายข้าวของ เพราะตอนนั้นตนก็มีอาการเมาแอลกอฮอล์อยู่ด้วย เลยทำให้อารมณ์ยิ่งขึ้น และโมโหไปกันใหญ่ อีกทั้งตนมีเรื่องส่วนตัวที่เครียดมาด้วย ประกอบกับเจ้าของร้านที่เป็นผู้ชายพูดจาน้ำเสียงยั่วยุใส่ตนด้วย ก็เลยทำให้ตนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ไปกันใหญ่
009
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี