สุดทน‘บาร์โฮสต์’!ชาวบ้านเชียงใหม่ร้องเสียงดัง-ปล่อยลูกค้านั่งดื่มต่อ จนท.เตือนยังเพิกเฉย
24 มีนาคม 2567 มีเสียงร้องเรียนจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากบาร์โฮสต์ที่เล่นดนตรีส่งเสียงดังรบกวน และบางวันยังปล่อยให้ลูกค้านั่งดื่มกินต่อทั้งคืน
ผู้สื่อข่าว จ.เชียงใหม่ พบกับนางสาวเอ (นามสมมุติ) ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ร้านดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์ร้าง ต่อมาเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 มีการเข้ามาเช่าเปิดบาร์โฮสต์ และมีการเล่นดนตรีสดส่งเสียงดังทุกคืน นอกจากนี้ห้องครัวยังเป็นแบบเปิดโล่ง ทำให้ทั้งเสียงและกลิ่นกระจายฟุ้งไปทั่ว นอกจากนี้ยังมีการปล่อยน้ำเสียเรี่ยราดลงท่อระบายน้ำส่งกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุวัยเกษียณ และเด็กนักเรียนนอนไม่ได้มานานกว่า 5 เดือน โดยบ้านตนได้รับความเดือดร้อนหนักที่สุด ลูกสาว 2 คน อายุระหว่าง 13-16 ปี ที่ขณะนี้ยังไม่ปิดเทอม ไม่มีสมาธิในการอ่านหนังสือสอบ ทุกคืนได้นอนตี2-ตี3 และต้องตื่นนอนตั้งแต่ตี5
ทั้งนี้ ครอบครัวเริ่มได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยลูกสาวทั้งสองกลายเป็นเด็กที่มีภาวะเครียด ส่วนตนต้องกินยานอนหลับและยาคลายเครียดทุกวัน ส่วนคุณแม่อายุ 76 ปี ที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง และโรคเส้นเลือดอุดตันในปอดมีอาการกำเริบ จากสภาวะความเครียดจนล้มป่วยรักษาตัวที่ห้อง ICU ช่วงปลายปีที่ผ่านมา
นางสาวเอ ระบุว่า ที่ผ่านมาเคยพูดคุยกับคนดูแลร้านแล้วหลายครั้ง จนไม่กล้าเข้าไปพูดคุยอีก เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับคนในครอบครัว เพราะอาศัยอยู่กัน 4 คนเป็นผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุ ประกอบกับพนักงานในร้านเป็นผู้ชายประมาณ 10 กว่าคน จึงไม่กล้าไปยุ่ง ตนจึงติดต่อประสานไปยังเจ้าของอาคารให้ว่ากล่าวตักเตือนผู้เช่า และพยายามเลิกสัญญาเช่า แต่ไม่มีความคืบหน้า
นางสาวเอ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนและเพื่อนบ้านในหมู่บ้านได้แจ้งเรื่องร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน จนล่าสุดเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลช้างเผือก ได้ตรวจสอบพบว่าร้านดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตประกอบการ พร้อมทั้งตักเตือนร้านดังกล่าวถึง 3 ครั้ง ได้ทำหนังสือแจ้งทางร้าน คือ
1.ให้หยุดการกระทำใดๆก็ตามที่ก่อให้เกิดเสียงดังรบกวนประชาชน
2.ให้หยุดการแสดงดนตรีสด จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากพนักงานท้องถิ่น
3.ให้ปรับปรุงระบบการระบายอากาศจากการประกอบอาหาร
4.ให้ดำเนินการติดตั้งถังดักไขมัน
อย่างไรก็ตาม ทางร้านยังเพิกเฉย บางครั้งตนทนไม่ไหวได้โทรศัพท์แจ้ง 191 ก็จะมีตำรวจสายตรวจขับรถมาเตือน เสียงก็จะเงียบไปช่วงหนึ่ง พอสักพักก็เหมือนเดิม หลังจากนั้นตนจึงถ่ายคลิปวีดีโอเผยแพร่ในโซเชียล กลับถูกลูกน้องเจ้าของร้านว่ากล่าวตำหนิต่างๆนานา
ขณะที่นางสาวบี เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่ใกล้กับร้านดังกล่าว โดยครอบครัวมีสามี และลูกสาวอายุ 1 ขวบ และอีกคน 12 ขวบ ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเหมือนกัน ในเรื่องของเสียงดนตรีเล่นสดที่เสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนนอนไม่ได้ตลอดทั้งคืน ตั้งแต่ร้านนี้เปิดมา
จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินไปตรวจสอบรอบๆหมู่บ้านดังกล่าว ทราบว่าหมู่บ้านแห่งนี้ผู้ที่อาศัยอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุที่อยู่ในวัยเกษียณ และเด็กนักเรียน นอกจากนี้ในหมู่บ้านยังมีผู้ป่วยติดเตียงอายุ 80 ปี พักอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งมีเสียงบ่นว่าได้รับผลกระทบจากร้านดังกล่าวถ้วนหน้ากันทุกคน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี