2 เมษายน 2567 เมื่อเวลา 08.30น. นายธีรเษฐ์ ศรีทองอิทร์ ปลัดอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี พร้อมเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ห้วยขาแข้ง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อน.8 นายลา ศรีสวัสดิ์ สมาชิก อบต. หมู่ 18 อปพร.ตำบลระบำ .ชรวมชาวบ้านกว่า 30 คน ยังระดมขึ้นเขาตามหาตัวนายสวอง เศรษฐกสิแตง หรือตาเล็ก อายุ 73 ปี ที่หายไปตังแต่วันที 16 มีนาคม 2567 จนถึงทุวันนี้ รวม 18 วัน
จากรณีนายสวอง ผู้สูญหายได้ขึ้นเขาไปเมื่อเวลา 09.00น.ของ วันที่ 16 มีนาคม 2567 พร้อมด้วยอาวุธปืนยาว 1 กระบอก โดยขึ้นเขาไปตีรังผึ้งหลวงที่เกาะตามต้นไม้ใหญ่ในป่าห้วยขาแข้ง ที่นายสวองจับจองเป็นเจ้าของรังผึ้งหลวงมานานหลายสิบปี
โดยแต่ละต้นไม้ที่ขนาดใหญ่ ภายในป่าห้วยขาแข้งนั้น ซึ่งบริเวณ่าช่วงนั้นจะมีผึ้งหลวงมาเกาะตามต้นไม้เป็นจำนวนมาก โดยแต่ละต้นที่ผึ้งหลวงเกาะจะมีชาวบ้านขึ้นไปจับไปจองเป็นเจ้าของ
โดยนายสวอง ซึ่งบ้านเดิมเมื่อ 30ปี ที่แล้วได้อยู่บริเวณนั้น จึงขึ้นเขาจับจองเป็นเจ้าของต้นไม้ที่ผึ้งหลวงเกาะเป็นจำนวนมาก โดยน้ำผึ้ง เดือน 5 เป็นที่ต้องการของท้องตลาด โดยมีการซื้อขายกันไม่ต่ำกว่าขวดละ 400 บาท
นายมนตรี พันธุ์ไกร อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 187 หมู่ 2 ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นหลานชายได้เปิดเผย ว่าเมื่อช่วง เดือนปลานเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ได้ขึ้นเขาไปกับนายสวองเพื่อดูรังผึ้ง เพื่อจจะเตรียมขึ้นไปตีบนยอดเขาดังกล่าว โดยใช้เวลาขึ้นไปกลับ 6 วัน โดยได้พักนอนแต่ละจุด 3 ที่ พอลงมาจากเขาก็นำสิ่งของ เปลนอน ข้าวสาร อาวุธปืนยาว ไปซ่อนไว้ใต้กล้วย ใกล้กับแนวเขตรั่งลวดหนามชายป่าชุมชน ก่อนที่เขาหมู่บ้าน โดยได้พาเจ้าหน้าที่ไปดูจุดที่ซ่อนสิ่งของ แต่ไปม่พบอาวุธปืนยาว ซึ่งนายมนตรี คาดว่านายสวอง มาหยิบไปแล้วในวันที่เข้าป่า
หลังจากนั้นเมื่อช่วง 08.30 น.ของวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายมนตรี หลานชายผู้สูญหาย ให้นำทางขึ้นไปยังที่พักนอนบนยอดเขา 3 จุด ตามที่บอกมา เนื่องจากทุกพื้นที่นั้นเจ้าหน้าที่ได้สมธิกรรมลังตามหาหมดแล้ว เช็คทุกตารางนิ้ว แต่ยังไม่พบตัว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายแส วงศ์อังศร ซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้สูญหาย ว่าวันนนี้น่าจะเจออะไรสักอย่างหนึ่ง ไม่คน หรือปืนที่หายไป โดยคนนั้นทางญาติ นั้นได้ทำใจไว้แล้ว
ด้านนางนงรัก ซึ่งเป็นบุตรสาว ได้ขอขอบคุณชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทุกนายที่เขามาช่วยเหลือ ทุกอย่างโดยตนเองนั้นและครอบครัวนั้น เมื่อ 30ปี ทีผ่านมาก็ทำมาหากินอยู่บริเวณนี้ หลังจากนั้นก็ย้ายครอบครัวออกมาอยู่ที่ในตลาดลานสัก และก็แยกย้ายกันไปทำกิน แต่ส่วนพ่อนั้นยังปลูกฝังอยู่ในพื้นที่เดิม จึงเข้าออกป่าเป็นประจำ และยอมรับว่าพ่อเขาไปตีรังผึ้งหลวงทุกปี
ซึ่งชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างได้นำสิ่งของมาช่วย เช่น ข้าวสาร เงิน เนื้อหมู ปลา น้ำเปล่า มาประกอบอาหารเลี้ยงเจ้าหน้าที่ทุกชาวบ้านทุกนาย ซึ่งฐานะทางบ้านยากจนจึงวอนหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ ขอให้เจอพ่อโดยเร็วที่สุด แบบไหนก็ได้ยอมรับสภาพทำใจไว้แล้ว.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี