'พระพยอม'ติง! เจ้าอาวาสวัดดังสไลด์หนอน เผยไม่ใช่แค่ปลงอาบัติแต่ต้องอยู่ปริวาสกรรม
วันพุธ ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2567, 15.49 น.
3 เมษายน 2567 จากกรณีที่เมื่อวานนี้ มูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำโดย ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช พร้อมคณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานีและฝ่ายปกครองปทุมธานี เข้าตรวจสอบวัดย่านตลาดไท หลังมีข่าวฉาวคลิปเจ้าอาวาสช่วยตัวเอง และสร้างความวุ่นวายในวัด ทำศาสนาเสื่อมเสียพ่วงกับมีพฤติกรรมมาเฟียภายในวัดดังแห่งหนึ่ง น่านตลาดไท จ.ปทุมธานี ทำให้อดีตเจ้าอาวาสรูปนี้ระงับอารมณ์ไม่อยู่ คว้าไมค์ตอบโต้กลับ พร้อมกับชี้หน้าถามพระสงฆ์ที่อยู่ในห้องประชุมของวัดแห่งนี้ว่า มีพระรูปไหนไม่เคยชักว่าว แต่การชักว่าวเป็นเพียงบาปขั้นโลกะวัชชะเท่านั้น ปลงอายัติก็หาย จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามประเด็นดังกล่าวกับพระราชธรรมนิเทศน์ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยพระพยอม กล่าวติติงถึงประโยคคำพูดดังกล่าวของอดีตเจ้าอาวาสวัดดังเมืองปทุมธานีพูดในทำนองที่ว่าพระทั่วๆไปก็เคยสาวหนอนหรือช่วยตัวเองมากันทั้งนั้น โดยพระพยอมกล่าวว่า การไปพูดแบบนี้ก็เหมือนกับการเหมาเข่ง พระในประเทศที่ยังบริสุทธิ์งดงามก็มี เพราะถ้าไม่มีเหลือแล้ว ปัจจุบันเกจิอาจารย์ต่างๆ ที่ทำพิธีปลุกเสกต่าง ๆ ไปปลุกเสกอะไรก็ไม่ขึ้น เสื่อมหมด เพราะฉะนั้นพระองค์นี้พูดออกมาแบบเหมาเข่ง แล้วก็ไม่รู้เรื่องพระวินัย บอกว่าแค่ไปปลงอาบัติก็หมดแล้ว ซึ่งอาบัติตัวนี้เป็นอาบัติถึงสังฆาทิเสส ต้องไปแก้ด้วยการอยู่บริวาสกรรม ต้องไปอยู่กรรมถึงจะพ้นมลทินเหล่านี้ เพราะฉะนั้นจะบวชเรียนก็ต้องรู้ตั้งแต่บวชเรียนมา หรือพอบวชเรียนมาได้ครึ่งๆกลางๆ แล้วไม่เรียน แต่พอทำอะไรตกต่ำมาก็อ้างครึ่งๆกลางๆแบบนี้ อ้างมั่วไปเรื่อย ว่าอาบัติประเภทนี้ปลงได้ อาบัติแบบนี้ปลงไม่ได้ ซึ่งอาบัติของพระรูปนี้ต้องไปอยู่บริวาสกรรม แก้กรรม ทรมานตัวเอง ด้วยการบอกความชั่วร้ายของตัวเอง ประจานตัวเองให้กลุ่มพระปกติรับฟังในฐานะที่ตัวเองเป็นลูกกรรม ถึงจะเป็นวิธีแก้อาบัติที่ถูกต้อง
พระพยอม กล่าวอีกว่า ก่อนจะบวชเป็นพระได้นั้น ต้องผ่านการอุปสมบทมาก่อน ไม่ใช่อุปสมบุตร บวชเป็นพระแล้วก็ให้คิดถึงแต่เรื่องกรรมฐานไว้ให้ขึ้นใจ เพราะพระที่มีกรรมฐานจะมีเครื่องคุ้มครองตัว เป็นเครื่องอุปการะธรรมที่จะทำให้ตัวเองไม่ตกต่ำในเรื่องพรหมจรรย์อันงดงามของพระพุทธเจ้า ถ้าพระรูปนี้รับผิดชอบตัวเองด้วยการไม่ซัดบาปของตัวเองไปให้พระรูปนั้นรูปนี้ที่นั่งอยู่ในห้อง เกิดมีพระรูปอื่นสวนขึ้นมาว่า ผมไม่ทำ ผมไม่เคยทำ ผมอยู่ในพระวินัยและมีสติ แล้วจะว่ายังไง การเที่ยวไปปรักปรำพระรูปอื่นว่าเขาจะต้องทำชั่วเหมือนตัว พวกนี้เป็นพวกเหมาเข่ง ตัวเองมีพฤติกรรมทรามอย่างไรก็จะมองคนมองทรามไปเหมือนตนเองด้วย.012