ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วย"สองตา-หลาน"อยู่บ้านสภาพผุพัง หลังตาสานฝันพาหลานเข้าเมืองไปดูรถไฟ แล้วกลับมาบ้านที่บ้านโนนสมบูรณ์ ต.นาชุมแสง อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี อาชีพหลักงมหอยเลี้ยงชีวิต ขณะที่นายกอบต.ได้พาได้เปิดบัญชีหลังคนไทยอยากช่วยเหลือ พร้อมเตรียมซื้อที่พอสร้างบ้านให้อยู่ ขณะที่ชาวบ้านหนุนเต็มที่ บอกตาเป็นคนดี หากไม่ทำแบบนี้ หวั่นมีปัญหากับลูกเลี้ยงที่เคยไล่ออกจากบ้าน ส่วนพมจ.ยื่นมือช่วยแนะนำเรื่องอาชีพเลี้ยงไก่เป็ดขาย ด้านคุณตาสมควรดีใจยิ้มได้วันนี้ได้จักรยานใหม่ และจะมีอาชีพแล้ว ส่วน"น้องม่อน"ยิ้มแก้มปริได้กินไก่ kfc สมใจ บอกโตขึ้นอยากเป็นตำรวจ
วันนี้ (19 เม.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายสมควร จันทรเสนา หรือตาควร อายุ 60 ปี ชาวบ้านโนนสมบูรณ์ หมู่ 5 ต.นาชุมแสง อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี และหลานชายชื่อ น้องม่อน อายุ 6 ขวบ นั่งรอรถโดยสารอยู่ข้างทางตลาดหนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี มีกระเป๋าเสื้อผ้าและจักรยานคันเก่าๆ อีก 1 คัน เจ้าของร้าน 8888 โฟนเทคเห็นจึงเข้าไปสอบถาม ทราบว่า รอรถโดยสารประจำอำเภอและจะพาหลานชายกลับบ้านที่อ.ทุ่งฝน แต่ไม่มีเงิน พลเมืองดีจึงมอบเงินให้จำนวน 200 บาทและพาไปส่งขึ้นรถโดยสารสายอุดรธานี-คำตากล้า นับเป็นเรื่องราวดีๆ ดูแล้วใจฟูทั้งคนมีน้ำใจมอบเงินให้คุณตาและหลานชาย และเรื่องราวน่ารักๆ ของคุณตาที่พาหลานเข้ามาในเมือง สานฝันหลานชาย อยากเข้ามาในเมืองมาดูรถไฟ มาดูสวนหนองประจักษ์ เห็นรถยนต์วิ่งขวักไขว่ เพราะน้องม่อนหลานชายวัย 6 ขวบไม่เคยเข้ามาในเมืองอุดรธานีเลย
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 189 หมู่ 5 บ้านโนนสมบูรณ์ ต.นาชุมแสง อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี พบกับคุณตาสมควรและน้องม่อน อาศัยอยู่ในบ้านที่มีสภาพผุพัง ใช้สังกะสีเก่ามุงเป็นฝาบ้าน อยู่กันเพียง 2 ตาหลาน มีอาชีพออกไปงมหอยประทังชีวิต ขณะที่ชาวโซเซียลเห็นข่าวรู้สึกสงสารอยากจะช่วยเหลือและแบ่งปัน
ล่าสุดวันนี้ที่บ้านของคุณตาสมควรและน้องม่อน ปรากฏว่าวันนี้ตลอดทั้งวันมีคนไทยน้ำใจงาม หลั่งไหลเดินทางมาเยี่ยม 2 ตาหลาน พร้อมกับนำข้าวสาร น้ำดื่ม ขนมสำหรับเด็กๆ และสิ่งจำเป็นอื่นๆ มามอบให้ ทั้งตำรวจทางหลวง สภาทนายความ และคนไทยน้ำใจงามอีกหลายท่าน ส่วนเจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานีได้เดินทางมาเยี่ยมและเตรียมจะส่งเสริมอาชีพให้คุณตาสมควรเลี้ยงไก่ไข่ดีกว่าพาหลานไปงมหอยเพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ โดยก่อนหน้านี้ไม่ได้ลงบัญชีธนาคารฯ เนื่องจากตาสมควร ไม่เคยเปิดบัญชีเลย จนวันนี้มีคนไทยน้ำใจงามเดินทางมอบเงินให้ ทางนายบุญไทย แสนกระจาย นายกอบต.นาชุมแสง และผู้นำชุมชน ได้ช่วยกันบริหารเงินของตาสมควรให้ จึงพาไปเปิดบัญชีธนาคาร หลังจากชาวโซเซียลต้องการบริจาคช่วยเหลือ 2 ตาหลาน สำหรับช่องทางช่วยเหลือ 2 ตาหลาน สามารถบริจาคเข้าได้ที่บัญชีธนาคารของคุณตาสมควรได้โดยตรง คือ ธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านดุง ชื่อบัญชี นายสมควร จันทร์เสนา เลขที่บัญชี 663-5-42725-2
โดยช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากตาสมควรและน้องม่อน ได้เดินทางกลับมาจากเปิดบัญชีธนาคาร และซื้อจักรยานใหม่ที่อ.บ้านดุง โดยน้ำใจคนไทยได้ให้ซื้อจักรยานคันใหม่ให้ด้วย ส่วนน้องม่อนก็ได้กินไก่ kfc สมใจอย่างเอร็ดอร่อย น้องม่อนบอกว่า วันนี้ผมได้กิน ไก่ kfc แล้วครับ ขอบคุณครับพี่ใจดีที่ซื้อให้ ผมอยากจะอยู่กับตา ไม่อยากจะอยู่กับแม่ โตขึ้นผมจะเรียนให้เก่งๆ จะได้เป็นตำรวจครับ
ส่วนตาสมควรก็ขอบคุณทุกคนจากใจที่เดินทางมามอบเงินและสิ่งของให้ตนเองและหลานชายเอาไว้ โดยเฉพาะข้าวสาร ดีใจมากครับ ผมดีใจที่จะได้บ้านหลังใหม่ จะได้อยู่กับหลานคือน้องม่อน และขอบคุณพมจ.ที่จะมาส่งเสริมอาชีพเลี้ยงไก่ไข่เอาไว้ขาย ขอบคุณจากใจจริงๆ ครับ ตาสมควร บอกและยิ้มอย่างมีความสุข และตอนท้ายยังบอกผมจะดูแลสุขภาพดีๆ เพื่อจะได้ดูแลหลานชายคนนี้ให้นานที่สุด
นายบุญไทย แสนกระจาย นายกอบต.นาชุมแสง เปิดเผยว่า หลังมีข่าวคุณตาสานฝันพาหลานชายไปดูรถไฟในเมืองอุดร มีเงินติดตัวแค่ 80 บาท และตามมาดูเห็นสภาพบ้านแล้ว งมหอยประทังชีวิต มีคนไทยอยากช่วยเหลือและแบ่งปันน้ำใจช่วยคุณตาสมควรและน้องม่อน วันนี้ตลอดทั้งวัน แขกเต็มบ้าน เดินทางมามอบสิ่งของเครื่องใช้ประจำวันทั้งข้าวสารอาหารแห้ง ที่นอน และมอบเงินสดจำนวนหนึ่ง ทางอบต.จึงได้อำนวยความสะดวกพาคุณตาฯ ไปเปิดบัญชี เพราะมีเสียงรบเร้าอยากจะช่วยคุณตา
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีปัญหาเรื่องที่ดินและบ้านที่คุณตาอยู่ เป็นของอดีตภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วและไม่ได้จดทะเบียนกัน พูดกันตรงๆ ที่ผ่านมาลูกเลี้ยงของคุณตา ซึ่งเป็นลูกติดภรรยาที่เสียชีวิต บางวันคลุ้มดีคลุ้มร้ายก็ไล่คุณตาออกจากบ้าน ตาสมควรก็ไม่มีที่ไป ทั้งๆ ที่ตาสมควรเลี้ยงน้องม่อน ซึ่งไม่ใช่หลานของตัวเองแท้ๆให้ แกก็รักเหมือนหลาน จะว่าอุ้มบุญก็ว่าได้ ปกติตาสมควรจะได้เลี้ยง 2 คน แต่คนเป็นแม่ของน้องม่อนคือน.ส.พันธุ์ทิพย์ ได้เอาไปให้ญาติทางสามีใหม่เลี้ยงอีกคนเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 4 ขวบ
"ตอนนี้ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านโนนสมบูรณ์ เห็นว่า หากเงินที่น้ำใจคนไทยบริจาคมาช่วยเหลือคุณตาและน้องม่อน จะซื้อที่ดินให้ตาสมควร เอาไว้สร้างบ้านหลังเล็กๆ ให้อยู่ ซึ่งจะขอซื้อจากลูกสาวซึ่งเป็นลูกเลี้ยงนั่นเอง อาจจะขอซื้อสัก 100 ตารางวา เพื่อที่จะสร้างบ้านให้คุณตาอยู่และเลี้ยงหลาน ลูกๆ จะได้ไม่ถือสิทธิว่าเป็นเจ้าของที่ดินมาไล่ตาสมควรอีก ก็ต้องยอมรับแม่ของน้องม่อนติดเหล้าและปัญหาอีกหลายอย่าง จนมาปล่อยลูกไว้กับตาสมควรเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กๆ"นายก อบต.กล่าว
ขณะที่นางสมัย ปัดสา อายุ 86 ปี บอกว่า ก่อนที่นางคำมวนภรรยานายสมควรจะเสียชีวิตไปเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ได้เอาใบดินหรือโฉนดที่ดิน จำนวน 9 ไร่ ไปฝากตนเอง เอาไว้ เพราะกลัวลูกทั้ง 3 คนจะเอาจำนองหรือเอาไปขาย นางคำมวนได้กำชัดบว่า อย่าให้คนใดคนหนึ่งมาเอาไป โดยจะแบ่งให้ลูกทั้ง 3 คนเท่ากัน แต่กระนั้นนายอานน ลูกชายของนางคำมวนก็เคยมาเอา บอกว่าจะเอาไปค้ำประกันซื้อรถยนต์ ตนก็ให้ไป แต่ไม่ผ่านเขาก็เอามาคืน ส่วนนายสมควรก็น่าสงสาร เขาเป็นสามีใหม่นางคำมวน พอเมียตายก็ไม่มีที่ไป ก็อยู่ที่ตรงนี้ และเคยถูกลูกเลี้ยงไล่หนี เพราะเวลาแกกินเหล้าก็เพ้อหาเมียคือนางคำมวน และไม่ทำกับข้าวให้ลูกๆ เขากิน
นายสมภาร โพธิ์พรม ผญบ ม.5 บ้านโนนสมบูรณ์ เปิดเผยว่า ตอนนี้เราห่วงเรื่องเงินบริจาค เพราะมีเข้ามาจำนวนมาก แต่เบื้องต้นได้พูดคุยกับทางปลัดอำเภอ นายกอบต.จะเข้ามาบริหารเงินช่วย เพราะห่วงเรื่องลูกเลี้ยง โดยจะซื้อที่ดินพอสร้างบ้านหลังเล็กๆให้ตาสมควรอยู่ ลูกๆ ของอดีตภรรยาจะไม่ได้ไล่แกออกจากบ้านอีก ซึ่งปกติตาสมควรแกเป็นคนดีมาก ช่วยงานบุญประเพณีหรืองานคนเจ็บคนตายทุกอย่างในหมู่บ้าน และยังใจดีเลี้ยงหลานให้ ขนาดน้องม่อนและน้องของน้องม่อน ไม่ใช่หลานแกแท้ๆ เป็นลูกของลูกเลี้ยงที่ติดภรรยา แกยังเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด นับถือน้ำใจแก ก็อยากให้แกมีบ้านเป็นของตนเองซะที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี