สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)เป็น 1 ใน 9 หน่วยงาน ที่ได้รับมอบ “ประกาศเกียรติคุณองค์กรผู้สนับสนุนการดำเนินงานเครือข่ายการจัดเก็บสารพันธุกรรม” จาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ใน “โครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และยกย่องเชิดชูเกียรติหน่วยงานเครือข่ายการจัดเก็บสารพันธุกรรม” เมื่อช่วงต้นเดือนเม.ย. 2567 ที่ผ่านมา
โครงการนี้ซึ่งจัดโดย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย (มพศ.) สถาบันเอเชียศึกษา และภาคีเครือข่าย ซึ่งสืบเนื่องจาก สปสช. เป็นหน่วยงานที่ร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อให้คนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและสิทธิความเป็นคนไทยให้ได้รับการพิสูจน์อันนำไปสู่การได้รับสิทธิสิทธิสวัสดิการสังคมภาครัฐต่างๆ ตามที่ประชาชนไทยควรได้รับ หนึ่งในนั้นคือ “สิทธิบัตรทอง” หรือการเข้าถึงการรักษาพยาบาล
รศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า การดำเนินงานเพื่อให้คนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและสิทธิความเป็นคนไทยให้ได้รับการพิสูจน์สถานะนั้น เป็นประเด็นที่ สปสช. ขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติบรรลุตามเจตนารมณ์ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 เป็นระบบที่ดูแลด้านหลักประกันสุขภาพให้กับคนไทยทุกคนได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง
นอกจากนี้ เรื่องดังกล่าวยังเป็นข้อเสนอที่ สปสช. ได้รับจากเวทีรับฟังความเห็นจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ที่ขอให้มีการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นระบบด้วย เนื่องจากที่ผ่านมามีคนไทยจำนวนหนึ่งไม่มีเอกสารหลักฐานที่แสดงสถานะความเป็นคนไทย ไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร์ ด้วยสาเหตุที่หลากหลาย อาทิ ไม่ได้รับแจ้งเกิดย้ายที่อยู่อาศัย และเอกสารหลักฐานสถานะบุคคลสูญหาย เป็นต้น จึงเข้าไม่ถึงการรักษาพยาบาล บริการตรวจสุขภาพและคัดกรองโรค แม้ว่าจะเป็นคนไทยและเกิดในประเทศไทยก็ตาม
โดยภาพรวมประชากรกลุ่มนี้ยังเป็นผู้มีรายได้น้อย ส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มคนไร้บ้าน ถือเป็นกลุ่มเปราะบาง ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งมีภาวะเจ็บด้วยป่วยโรคเรื้อรังและโรคค่าใช้จ่ายสูงที่ต้องรับการรักษาพยาบาลต่อเนื่อง ขณะเดียวกันปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อสถานพยาบาลที่ให้การดูแล เป็นภาระค่าใช่จ่ายที่หลายโรงพยาบาลต้องแบกรับ เพราะไม่สามารถรับงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวหรือเบิกจ่ายค่าบริการรักษาพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้
“สปสช. ได้จัดตั้งคณะทำงานพัฒนาการเข้าถึงบริการระบบหลักประกันสุขภาพของกลุ่มคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน ภายใต้คณะอนุกรรมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการสร้างหลักประกันสุขภาพของทุกภาคส่วน และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องที่ขับเคลื่อนการดูแลและช่วยเหลือประชากรกลุ่มเปราะบางนี้ เพื่อดำเนินการให้เข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอย่างจริงจัง” รองเลขาธิการสปสช. กล่าว
รศ.ภญ.ยุพดี กล่าวต่อไปว่า ด้วยความร่วมมือนี้ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2563 ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) “การดำเนินงานพัฒนาการเข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพของคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน” ของ 9 หน่วยงานประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย และ สปสช.
ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือเพื่อดูแลประชากรกลุ่มเปราะบางที่เข้าไม่ถึงสิทธิและบริการในระบบหลักประกันสุขภาพ ทั้งนี้ ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ภายหลังจาก MOU ความร่วมมือ 9 หน่วยงานข้างต้นนี้ได้ทำให้เกิดโครงการพัฒนาเครือข่ายการจัดเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสถานะทางทะเบียนราษฎร โดยมีโรงพยาบาลที่อยู่ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการฯ และได้ช่วยให้คนไทยที่มีปัญหาสถานะได้รับการพิสูจน์สิทธิจำนวนมาก
“ประชาชนที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนไม่ต้องมีภาระการเดินทางเพื่อเข้ามาเก็บสิ่งส่งตรวจที่ศูนย์ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ แต่สามารถเข้ารับบริการเก็บตัวอย่างสิ่ง
ส่งตรวจได้ที่โรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการฯ ที่อยู่ใกล้ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 20 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งตัวอย่างสิ่งส่งตรวจไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อทำการตรวจพิสูจน์สถานะความเป็นคนไทยต่อไป” รศ.ภญ.ยุพดี ระบุ
รองเลขาธิการ สปสช. ยังกล่าวอีกว่าประกาศเกียรติคุณองค์กรผู้สนับสนุนการดำเนินงานเครือข่ายการจัดเก็บสารพันธุกรรมที่ สปสช. รับมอบพร้อมกับ 8 หน่วยงานนี้เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นความตั้งใจในการดำเนินงานขับเคลื่อนเพื่อดูแลและช่วยเหลือคนไทยที่มีปัญหาสถานะฯ ให้ได้รับสิทธิต่างๆ เช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเชื่อมั่นว่าหลังจากนี้ทั้ง9 หน่วยงาน จะยังคงเดินหน้าเพื่อขับเคลื่อนการดูแลคนไทยที่มีปัญหาสถานะให้เข้าถึงสิทธิต่างๆ เช่นเดียวกับคนไทยทุกคนต่อไป!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี