21 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการประอาชีพค้าขาย โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ประเภทกุ้งก้ามกราม ที่เป็นของดีและสัตว์เศรษฐกิจอันดับหนึ่งของ จ.กาฬสินธุ์ ที่ผ่านมาบรรยากาศการซื้อขายจะคล่องตัวในช่วงหน้าแล้ง โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา และเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ พบว่ามีร้านอาหารหลายแห่ง มีการตกแต่งร้านตระเตรียมการต้อนรับลูกค้า ด้วยรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างเสน่ห์ และเป็นจุดสนใจเรียกลูกค้าเข้าร้าน

นายทำนอง แก้วสิมมาพร นายก อบต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตำบลนาเชืกเนื่องจากพื้นที่อยู่ติดกับเขื่อนลำปาว เกษตรกรในพื้นที่จึงประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้งก้ามกรามเป็นจำนวนมาก ซึ่งนอกจากจะนำผลผลิตกุ้งสดจากบ่อไปส่งตามร้านค้า ร้านอาหารต่างจังหวัด ทั้งภายในประเทศ และ สปป.ลาวแล้ว ยังมีผู้ประกอบการเปิดร้านอาหารที่ใช้เมนูกุ้งก้ามกรามเป็นหลักถึง 4 ร้าน กุ้งก้ามกรามและร้านอาหารดังกล่าว จึงเป็นสัญลักษณ์ของ ต.นาเชือก ที่สร้างอาชีพและรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการเป็นอย่างดี

นายทำนอง กล่าวอีกว่า ในช่วงฤดูร้อนและช่วงเทศกาลต่างๆ ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก เพื่อเป็นการเตรียมรองรับฤดูกาลท่องเที่ยวทุกช่วงเทศกาล จึงได้ลงพื้นที่ตรวจตราความเรียบร้อยตามร้านอาหาร เพื่อให้คำแนะนำในส่วนของการให้บริการ ที่สำคัญคือเน้นมาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย ราคาเป็นธรรม ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค เพื่อการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ที่จะสร้างความประทับใจ อยากจะมาท่องเที่ยวและมาอุดหนุนอาหาร และซื้อกุ้งก้ามกราม ไปเป็นของฝากญาติพี่น้องทางบ้านอีกด้วย

ด้านนายธีระพงศ์ ภูกองชนะ อายุ 40 ปี เจ้าของสวนอาหาร ธ.กุ้งเผา บ้านนาเชือก ต.นาเชือก อ.ยางตลาด กล่าวว่า เดิมตนเป็นชาว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เพิ่งเปิดสวนอาหารได้เพียง 5 เดือน ที่ผ่านมาติดตามญาติมาประกอบธุรกิจขายอาหารกุ้งก้ามกราม และนำกุ้งก้ามกรามจากบ่อเลี้ยงไปส่งลูกค้าทั้งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์และต่างจังหวัด สั่งสมประสบการณ์ขายอาหารและส่งกุ้งก้ามกรามมาเรื่อยๆ

นายธีระพงศ์ กล่าวอีกว่า กระทั่งได้เรียนรู้จุดด้อย จุดดี ของการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม และการจำหน่ายกุ้งก้ามกรามที่ได้กำไร  จึงตีโจทย์ได้ว่าเปิดร้านขายอาหารประเภทกุ้งเป็นเมนูหลัก น่าจะมีอนาคตที่สดใสกว่าประกอบอาชีพอย่างอื่น ไม่ต้องเหนื่อย ต้องลุ้น เสี่ยงกับการขาดทุนเหมือนผู้เลี้ยงกุ้ง หรือพ่อค้าคนกลาง จึงตัดสินใจเปิดร้านอาหาร ใช้เงินทุนที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต ซื้อที่ดินประมาณ 2 ไร่ เปิดสวนอาหาร ชื่อ“ธ.กุ้งเผา” ซึ่งใช้ชื่อย่อจากชื่อจริงคือธีระพงศ์ โดยเปิดร้านให้บริการลูกค้าเมื่อเดือน ต.ค.66 ที่ผ่านมา

“อีกเหตุผล ที่อยากจะทำสวนอาหารคือ ต.นาเชือกและใกล้เคียง เป็นแหล่งผลิตกุ้งก้ามกรามโดยตรง  ถือว่าเป็นการยกร้านอาหารมาตั้งไว้ปากบ่อ หรือเป็นแหล่งแปรรูปกุ้งก้ามกรามปากบ่อ ที่เป็นกุ้งสด ราคาปากบ่อ ไม่ต้องบวกเพิ่มราคาค่าขนส่ง ส่งผลให้อาหารจานเด็ดทุกเมนูที่ทำจากกุ้งที่สวนอาหาร ธ.กุ้งเผา ราคาถูกกว่าร้านอื่นๆ ที่อยู่ห่างไกลแหล่งผลิต เพราะไม่มีการบวกเพิ่มราคาจากค่าขนส่ง และจากประสบการณ์เคยเป็นคนขายอาหารกุ้งและขนส่งกุ้งดังกล่าว จึงรู้ใจผู้บริโภคเมนูกุ้งทุกกลุ่ม ทุกวัย ว่าต้องการเปิบเมนูกุ้งแบบไหน ดังนั้น ในการจัดเมนูอาหารเกี่ยวกับกุ้งทั้งหมดในร้าน จึงออกแบบเมนูกุ้งและรสชาติที่ไม่ซ้ำกับร้านอื่น หรือหากซ้ำก็ต้องมีเทคนิคที่แตกต่างออกไป โดยเฉพาะเมนูเด็ดประจำร้านคือห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน”นายธีระพงศ์กล่าว

นายธีระพงศ์ กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับ “เมนูห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน” ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก นอกจากจะสั่งและนั่งรับประทานในร้านแล้ว ยังสั่งเพื่อนำไปรับประทานต่อที่บ้าน และเป็นของฝากทางบ้านด้วย ส่วนผสมที่ใช้คือเนื้อมะพร้าวน้ำหอม ขูดเป็นชิ้นๆ พอดีคำ เนื้อปลากะพง ไข่ไก่ นมสด ปลาหมึก หอยนิวซีแลนด์ พริกแกง โรยหน้าด้วยกะทิสด แต่งสีสันด้วยกะหล่ำปลี และหัวแครอท ฝานบางๆ แต่งอย่างประณีตสวยงาม ที่สำคัญให้รสชาติที่แปลกใหม่ ทั้งหอม นัว เผ็ดจัดจ้าน รับประทานกับข้าวสวยและเป็นของกับแกล้ม ก็ถูกปาก เพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารอิ่มอร่อย อย่าบอกใคร

อย่างไรก็ตามในส่วนที่ตั้งสวนอาหาร ธ.กุ้งเผานั้น สังเกตง่าย ถนนปากทางเขื่อน-เขื่อนลำปาว บ้านนาเชือก ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ก่อนถึงเขื่อนลำปาวประมาณ 2 กม.บรรยากาศในร้านก็ตกแต่งสุดฟิน 3 สไตล์ อิงธรรมชาติ นั่งในซุ้ม ที่แจ้งกลางสระน้ำ หรือในห้องแอร์ก็ได้ พื้นที่กว้างขวางสามารถรองรับนักท่องเที่ยวและลูกค้าได้ครั้งละกว่า 150 คน หลังรับประทานอาหารร้านเลือกมุมเช็คอิน เซลฟี่ถ่ายภาพสวยๆได้ตามสบาย