25 เม.ย.67 จากกรณี นายแตงโม (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ชาวบ้านบ้านโนนสมบูรณ์ ต.หนองหญ้าไซ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ขับรถไถคูโบต้าคันสีส้ม ขนาด 50 แรงม้า จากบ้าน หมู่ 5 บ้านโนนสมบูรณ์ อ.วังสามหมอไปจอดที่ลานจอดรถของห้างที่ จ.ขอนแก่น ระยะทางไกลกว่า 120 กม. โดยพ่อและแม่แจ้งว่า ลูกชายขับรถไถหายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามหายังไงก็ไม่เจอ และได้แจ้งความคนหายที่สภ.วังสามหมอแล้ว จนมีคนแจ้งข่าวว่า ลูกชายนำรถไถไปจอดในห้างดังที่ จ.ขอนแก่น หลังจากนั้นก็ขับรถไถออกจากห้างยังไม่รู้ว่าไปไหนต่อ ต่อมา เวลา 21.00 น.วานนี้ (24 เม.ย.67) ชาวโซเซียลพบนายแตงโมขับรถมาตามถนนมิตรภาพจากขอนแก่น-เข้า จ.อุดรธานี และเลี้ยวขวาเข้า อ.กุมภวาปี คาดว่านายแตงโมจะขับรถไถกลับบ้าน จึงได้แจ้งไปยังนางระยอง ซึ่งเป็นแม่ของนายแตงโมให้ทราบ
ปรากฏว่า ขณะที่นายแตงโมขับรถไถกลับบ้านที่ อ.วังสามหมอ แต่ดันไปฝ่าไฟแดงที่ อ.กุมภวาปี บริเวณสามแยกทางไป อ.หนองหาน ต่อมา ร.ต.อ.ทองหลาง อามาตย์มนตรี รอง สว.ป.สภ.กุมภวาปี พร้อมด้วย ตำรวจสายตรวจ สภ.กุมภวาปี ได้ช่วยกันสกัดเอาไว้และแจ้งให้ญาติทราบ และได้นำตัวนายแตงโมเข้ารับการรักษาที่รพ.กุมภวาปี ขณะที่รถไถ นายบุญชัย แสงเพชร น้าชายของนายแตงโมได้ขับกลับบ้านที่บ้านโนนสมบูรณ์ อ.วังสามหมอต่อไป
ล่าสุด วันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายบุญมา (นามสมมุติ) อายุ 62 ปี พ่อของนายแตงโม เปิดเผยว่า ลูกชายขับรถไถหายออกจากบ้าน เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา พ่อแม่และญาติๆ ก็ออกตามหา หายังไงก็ไม่เจอ ตอนแรก ๆ คิดว่าเขาคงกลับเพราะเขาเคยหายไป 2-3 ครั้ง ไม่นานก็กลับมา จนมีชาวโซเซียลแจ้งข่าวเห็นลูกชายขับรถไถไปจอดที่ห้าง เหมือนจะเข้าไปเที่ยวห้าง จากนั้นก็ขับออกมาไม่รู้ไปไหนต่อ ต่อมาเมื่อคืนนี้ของวันที่ 24 เม.ย.มีคนแจ้งมาที่เบอร์แม่ว่า พบนายแตงโมขับรถมาตามถนนมิตรภาพจากขอนแก่นจะเข้า จ.อุดรธานี และเลี้ยวซ้ายเข้า อ.กุมภวาปี คาดว่าจะมุ่งหน้าเข้า อ.ศรีธาตุ และมายังบ้านที่ อ.วังสามหมอ แต่บังเอิญตรงสามแยก อ.กุมภวาปี ไป อ.หนองหาน ลูกชายขับรถไถฝ่าไฟแดง จึงได้แจ้งตำรวจก็พบนายแตงโมอยู่หน้าโรงสี ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวเอาไว้ให้แล้วแจ้งให้ญาติไปรับ จากนั้นก็เอาตัวเข้ารับการรักษาอาการป่วยจิตเวชที่โรงพยาบกุมภวาปี โดยมีแม่เป็นคนนอนเฝ้า ส่วนรถไถเอากลับมาไว้บ้านแล้ว แต่ตอนนี้เอาไปซ่อนลูกชายไว้ที่บ้านญาติที่หมู่บ้านอื่น เพราะกลัวลูกชายกลับมาแล้วจะขับไปอีก ส่วนรถไถคันเล็ก เชื่อว่าลูกชายคงไม่เอาไปเพราะไม่มีแบต และยังมีรถอีแต๋นอีกคัน อันนี้ก็ห่วงลูกชายจะขับหนีไปอีก คงต้องเอาไปซ่อนที่อื่นไว้ชั่วคราวก่อนเช่นกัน
นายบุญมา กล่าวอีกว่า แต่ก่อนลูกชายเป็นเด็กรับผิดชอบงานขยันทำงานช่วยพ่อและแม่ทำไร่ทำสวน ขยันมาก ระยะหลังยอมรับลูกติดยา เขาอาจจะมีปัญหาหลายอย่าง ทั้งเครียดเรื่องภรรยาบอกเลิก จากนั้นก็ไปขับรถสิบล้อ น่าจะติดยาตอนไปขับรถนี่หละ ตนเองมีลูก 2 คน คนโตเป็นผู้หญิง คนที่ 2 เป็นผู้ชาย คือ นายแตงโม มีลูกชายคนเดียวด้วย ก็มีความหวังให้เขาหายจากอาการป่วย พ่อและแม่ก็แก่เฒ่าแล้ว ก็หวังจะได้ให้เขาเป็นเรี่ยวเป็นแรงคอยพึ่งพาอาศัยเมื่อเราแก่เฒ่า หัวอกพ่อและแม่หลังจากลูกชายหายไปพร้อมรถไถ กินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับ บางวันก็นอนร้องไห้ ทำไมลูกเราดีๆ เป็นแบบนี้ แต่อย่างไรแล้ว ลูกจะดีจะชั่วก็รักเหมือนเดิม ใจลึกๆ ก็หวังว่าเขาจะหายจากอาการป่วยจิตเวช กลับมาอยู่กับพ่อและแม่อย่างครอบครัวพ่อแม่ลูกอย่างมีความสุข
"ผมในฐานะผู้เป็นพ่อนายแตงโมง ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณชาวโซเซียลที่เป็นหูเป็นตาแจ้งข่าวลูกชายให้ทราบว่าอยู่ไหน ตอนแรกพ่อและแม่ก็ทุกข์ใจก็ไม่รู้จะไปตามได้อย่างไร ขอบคุณน้ำใจชาวโซเซียลที่แจ้งข่าวให้ผู้เป็นพ่อและแม่ทราบ ขอบคุณจากใจจริงๆ ครับ" นายบุญมากล่าวตอนท้ายพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณ
ขณะที่ นายบุญชัย อายุ 54 ปี น้าชายนายแตงโม บอกว่า ก่อนนี้นายแตงโมก็หายไปครั้งหนึ่งขับรถมอเตอร์ไซด์ไปไกลถึง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ระยะทางจากบ้าน อ.วังสามหมอ กว่า 299 กม. แต่ไปต่อไม่ได้เพราะเครื่องรถน็อค พวกตนก็เดินทางไปรับกลับมา เมื่อคืนนี้พอรู้ข่าวก็พากันไปรับนายแตงโม และผมก็ไปขับรถไถกลับมาบ้าน ตอนนี้หลานชายไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลกุมภวาปี อาการดีขึ้นเห็นหมอบอกว่าจะนำกลับมารักษาที่โรงพยาบาลวังสามหมอต่อไป
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี