เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ กาญจนบุรี พร้อมสัตวแพทย์เกาะติดอาการช้างป่า 2 แม่ลูก หลังพบมีอาการผิดปกติบริเวณแก้มด้านซ้ายบวมขนาดใหญ่ทำให้กินอาหารลำบาก ล่าสุดหลังรักษาพบอาการแก้มบวมลดลง
นายรัชสิต จงจรัสพร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค.67 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้รับแจ้งจากพระครูภาวนาสุทธาจารย์ (หลวงพ่อสาคร ธัมมาวุโธ) เจ้าอาวาสวัดเวฬุวันวนาราม (วัดเวฬุวัน) ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ ว่าพบช้างป่าเพศเมียมีอาการผิดปกติบริเวณแก้มด้านซ้ายบวมขนาดใหญ่ ทำให้กินอาหารลำบาก โดยช้างตัวดังกล่าวหากินกับลูกอีก 1 ตัว จากนั้นจึงได้รายงานไปยังนายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ทราบและได้มอบหมายให้นายมานะ เพิ่มพูล ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการสุขภาพและคลินิกสัตว์ป่าเข้าดำเนินการลงพื้นที่ เพื่อทำการรักษา
โดยนายทนงศักดิ์ อิวบาง หัวหน้าฝ่ายจัดการสัตว์ป่า น.ส.ลักษณา ประสิทธิชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อติดตามหาช้างป่าตัวดังกล่าวจนกระทั่งพบ จากนั้นจึงได้ทำการยิงยาปฏิชีวนะจำนวน 2 เข็มและยาฆ่าเชื้อจำนวน 2 เข็ม บริเวณสะโพกหลังและจะเฝ้าติดตามอาการอย่างต่อเนื่องทุกวัน
ต่อมาเช้าวันนี้ (3 พค 67) คณะเจ้าหน้าที่ได้ออกติดตามช้างเพื่อที่จะฉีดยาลดการอักเสบและยาฆ่าเชื้ออีกครั้งหนึ่ง พบอาการบาดเจ็บของช้างมีลักษณะแผลเป็นก้อนบวมที่กรามบนข้างซ้าย คาดว่าเกิดจากภายในช่องปาก ไม่ใช่เกิดจากภายนอกทะลุเข้าไปด้านใน ซึ่งช้างมีลักษณะยืนเคี้ยวอาหารลำบาก และมีน้ำลายไหลออกมา จากการสังเกตพฤติกรรมหลักๆของช้างพบว่าส่วนใหญ่ทั้งวันจะเดินหากินอยู่กับลูกเพียง 2 ตัว แต่นานๆครั้งจะมีช้างป่าตัวอื่น 1-2 ตัว เข้ามายืนอยู่ด้วย
นอกจากนี้ พบว่าสุขภาพของลูกช้างไม่ทราบเพศ อายุประมาณ 2 ปี มีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถกินอาหารหยาบ เช่น ใบไม้ ต้นไม้เป็นส่วนหลักได้ตามปกติโดยสังเกตได้จากมูลของลูกช้าง สำหรับแนวทางการรักษาแม่ช้างนั้นเจ้าหน้าที่จะให้ยาฆ่าเชื้อ และยาลดอักเสบ จากการติดตามผลการตอบสนองจากการรักษา พบว่ามีอาการดีขึ้น อาการบวมลดลง ซึ่งจะทำการรักษาโดยการยิงยาฉีดฆ่าเชื้อ และยาลดอักเสบอย่างต่อเนื่อง
วันที่ 9 พ.ค. 67 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการสุขภาพและคลินิกสัตว์ป่า ร่วมกันติดตามร่องรอยช้าง เพื่อจะดูผลการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ยาลดอักเสบ และวิตามิน ที่ทำการรักษาเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 67 โดยได้ติดตามร่องรอยบริเวณที่ช้างออกหากินบริเวณแปลงมันสำปะหลัง ต้นส้าน และแปลงปลูกป่าสักองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.)ทองผาภูมิ
ผลไม่ปรากฏพบตัวช้างตามบริเวณที่ออกหากิน โดยเริ่มติดตามหาตั้งแต่ 05.00 น. - 09.00 น.ก็ยังไม่พบ เจ้าหน้าที่จึงได้ถอนกำลังออกมาเนื่องจากหลังจากเวลา 09.00 น. เป็นเวลาที่ช้างหลบเข้านอนบริเวณป่าน้ำซับซึ่งเป็นที่รก ค่อนข้างอันตรายและยากต่อการปฏิบัติงานติดตามหาช้าง
รอจนถึงเวลา 16.30 น.ซึ่งเป็นเวลาที่ช้างป่าออกหากิน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิจึงเข้าดำเนินการติดตามช้างอีกครั้งหนึ่ง เริ่มตั้งแต่แหล่งอาหาร และแหล่งที่ช้างหลบนอน แต่ก็ไม่พบการเคลื่อนไหว จนกระทั่งเวลา 17.45 น.ฝนได้ตกลงมา จึงพบช้างป่าสองแม่ลูกอยู่ที่บริเวณแปลงมันสำปะหลัง แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปถ่ายรูปในระยะใกล้ได้ จนเวลา 18.50 น.จึงได้ยุติการติดตาม
นายรัชสิต จงจรัสพร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เปิดเผยว่า ต่อมาเวลา 17.15 น.วันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ร่วมกับหลวงปู่สาคร และนายปฐม แหนกลาง อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปากลำห้วยปิล็อก พบช้างป่าสองแม่ลูกกำลังยืนตากฝนหากินอยู่ที่บริเวณไร่มัน 6 ไร่ ท้องที่หมู่ 5 ต.ห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ พบว่าอาการเจ็บป่วยดีขึ้น แก้มที่บวมยุบลง แต่ยังมีน้ำลายไหลเล็กน้อย อาการกินอาหารดีขึ้น ดูร่าเริง สรุปอาการโดยรวมดีขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่จะเฝ้าติดตามและสังเกตดูอาการอย่างใกล้ชิดทุกวัน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี