ในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) วันที่ 17 พ.ค. 2567 นางหรรษา บุญรัตน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5-10 พ.ค. 2567 กสม. โดย น.ส.พรประไพกาญจนรินทร์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วย ผศ.สุชาติ เศรษฐมาลินี และ น.ส.สุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงาน กสม.
เข้าร่วมการประชุมกรอบความร่วมมือเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (Global Alliance of National Human Rights Institutions : GANHRI) ประจำปี 2567 หรือการประชุม GANHRI 2024 ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทั่วโลกได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานเกี่ยวกับประเด็นสิทธิมนุษยชนในปี 2567
โดยที่ประชุมให้ความสำคัญกับประเด็นการป้องกันและต่อต้านการทรมาน การคุ้มครองสิทธิของผู้หนีภัยความไม่สงบ คนไร้รัฐไร้สัญชาติ และผู้ลี้ภัย ตลอดจน
ประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อสิทธิมนุษยชน โอกาสนี้ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ร่วมเป็นวิทยากรแลกเปลี่ยนในหัวข้อ ประสบการณ์และแนวทางการนำปฏิญญาเคียฟ-โคเปนเฮเกน (Kyiv-Copenhagen Declaration) ว่าด้วยบทบาทของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้านการป้องกันและต่อต้านการทรมาน ไปดำเนินการ
โดยนำเสนอถึงการจัดทำแผนปฏิบัติการของ กสม. ว่าด้วยการป้องกันการทรมาน ระยะเวลา 3 ปี ซึ่งครอบคลุมบทบาทด้านการตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัวภายใต้การดำเนินงานหรือการกำกับของรัฐ เช่น ห้องขัง ของสถานีตำรวจ เรือนจำ ห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สถานบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด พื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยความไม่สงบ และสถานที่ดูแลกลุ่มเปราะบางต่างๆ เพื่อส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของบุคคลในสถานที่ควบคุมตัวดังกล่าว
การติดตามการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย การสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังการกระทำทรมาน การรณรงค์และสนับสนุนให้ประเทศไทยให้สัตยาบันพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน (Optional Protocol to the Convention Against Torture) หรือ OPCAT เพื่อให้ประเทศไทยมีกลไกป้องกันการทรมานระดับชาติ (National Preventive Mechanism) หรือ NPM ในการทำหน้าที่ตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัวเหล่านั้น
รวมถึงการจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะภายใน กสม. เพื่อป้องกันและติดตามการทรมาน และเตรียมความพร้อมสำหรับการทำหน้าที่เป็นกลไก NPM หาก กสม. ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ดังกล่าว ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน โดยเน้นย้ำบทบาทของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในการส่งเสริม การเฝ้าระวัง การรายงาน และการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมทางธุรกิจ
ตลอดจนการผลักดันให้มีการนำหลักการชี้แนะแห่งสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (United Nations Guiding Principles on Business and Human Rights) หรือ UNGPs ทั้งด้านการคุ้มครอง การเคารพ และการเยียวยา ไปเป็นกรอบในการดำเนินงานของทุกภาคส่วน โดยที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานด้านนี้ในบริบทต่างๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องสิทธิมนุษยชนกับสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทั่วโลกจะขับเคลื่อนร่วมกัน ผ่านการผลักดันมาตรการหรือนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยเฉพาะการกำกับดูแลภาคธุรกิจให้ดำเนินกิจการด้วยความเคารพในสิทธิมนุษยชนและรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งจะร่วมกันเฝ้าระวังและรายงานผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากกิจกรรมทางธุรกิจ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงแนวทางการส่งเสริมพื้นที่ของภาคประชาสังคมในโลกออนไลน์ (Online civic space) การแก้ไขและป้องกันผลกระทบของเทคโนโลยีดิจิทัลต่อสิทธิมนุษยชน รวมถึงการใช้เครื่องมือทางด้านนโยบายและกฎหมายเพื่อส่งเสริมการประกอบธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนอย่างสมดุลและมีประสิทธิภาพ อนึ่ง นอกจากการเข้าร่วมประชุมประจำปี GANHRI 2024 แล้ว คณะผู้แทน กสม. ยังได้พบกับผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อหารือในประเด็นต่างๆ ที่สำคัญ
ได้แก่ การพบเลขาธิการสมาคมเพื่อการป้องกันการทรมาน (Association for Prevention of Torture) หรือ APT เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างกันในการป้องกันและต่อต้านการทรมาน รวมถึงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของสำนักงาน กสม. ในการตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัว การพบกับผู้อำนวยการ Centre for Humanitarian Dialogue (HD) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนไม่แสวงหากำไรด้านการส่งเสริมกระบวนการพูดคุยและไกล่เกลี่ย
เพื่อป้องกัน บรรเทา และแก้ไขความขัดแย้ง ในประเด็นกระบวนการพูดคุยสันติสุขในชายแดนใต้และกระบวนการสมานฉันท์ปรองดองในสังคมไทย การพบกับผู้ช่วยข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ในประเด็นผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมา และผู้แสวงหาที่พักพิงจากประเทศต่างๆ รวมทั้งได้เข้าพบผู้ประสานงานด้านสิทธิมนุษยชนศึกษาและการฝึกอบรมของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ในประเด็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชนแก่กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี