ผู้ว่าฯศรีสะเกษสั่งช่วยเหลือแก้ปัญหาหนี้กองทุนหมู่บ้านหนองเรือ หลังอดีตกรรมการกองทุนหมู่บ้านโดนยึดทรัพย์ใช้หนี้แทนคนทั้งหมู่บ้านคนเดียว 3.7 ล้าน
จากกรณีนางวาสนา สมพงษ์ อายุ 58 ปี อดีตคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านหนองเรือ หมู่ 6 ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนถึงความเดือดร้อนเกี่ยวกับมูลหนี้กองทุนหมู่บ้านจำนวน 3.7 ล้านบาทที่ทางคณะกรรมการพร้อมทั้งสมาชิกมีการทำสัญญากู้ยืมเงินจากกองทุนแล้วไม่ได้ส่งใช้หนี้ตามสัญญา กระทั่งทางธนาคารออมสินได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการทั้ง 9 คน และมีการสืบทรัพย์คณะกรรมการทุกคนเพื่อที่จะทำการยึดทรัพย์ แต่ปรากฏว่า 1 ในคณะกรรมการชุดนี้มีเพียงนางวาสนา ที่มีทรัพย์สินเป็นที่ดินอยู่เพียงคนเดียว ทางธนาคารจึงได้ทำการยึดทรัพย์ตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย และได้มีการเตรียมขายทอดตลาดที่ดิน ซึ่งเป็นที่ดินมรดกของบรรพบุรุษ ทั้งที่ยอดหนี้ดังกล่าวไม่ใช่หนี้ที่ตนเองสร้างขึ้น แต่เป็นหนี้ของคณะกรรมการและสมาชิกทั้งหมู่บ้านจึงร้องขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 20 พ.ค.67 นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้สั่งการให้นายอิทธิพล สุยะลา นายอำเภอกันทรารมย์ พร้อมด้วยนายอดุลย์ ดีอ้อม พัฒนาการจังหวัดศรีสะเกษ นายธนาวิทย์ แสวงผล หัวหน้ากลุ่มช่วยเหลือเกษตรกรและโครงการพิเศษ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ พัฒนาการอำเภอกันทรารมย์ เกษตรอำเภอกันทรารมย์ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอกันทรารมย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งให้ความช่วยเหลือในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนอย่างเร่งด่วน
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังที่ตั้งกองทุนหมู่บ้านบ้านหนองเรือหมู่ที่ 6 ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและมูลหนี้ทั้งหมด ทั้งยอดเงินกู้ สัญญากู้ยืม หลักฐานในการชำระหนี้เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา ให้กับทางคณะกรรมการ และสมาชิกกองทุนหมู่บ้านทั้งหมด
โดยนายอิทธิพล สุยะลา นายอำเภอกันทรารมย์ กล่าวว่า ในวันนี้ได้เร่งทำการสอบลูกหนี้ ที่กู้ยืมไปทั้งหมด ใครเอาไปเท่าไหร่ จ่ายชำระหนี้แล้วเท่าไหร่ คงค้างอยู่เท่าไหร่เพื่อหาตัวเลขยอดหนี้ของแต่ละบุคคล มีการจ่ายเงินชำระหนี้ให้กับใคร มีหลักฐานการชำระหนี้หรือไม่ เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการสอบสวนหาข้อเท็จจริงประมาณ 2-3 วันจึงจะได้รู้ความจริง ส่วนกรณีที่นางวาสนา ที่จะถูกขายทอดตลาดที่ดินส่วนตัวเพื่อชำระหนี้ให้กับคนทั้งหมู่บ้านนั้น ตนจะได้ทำหนังสือขอชะลอการขายทอดตลาดไปยังธนาคารออมสิน เอาไว้ก่อน เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
ด้านนายอดุลย์ ดีอ้อม พัฒนาการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ในส่วนของบทบาทหน้าที่ของ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ มีหน้าที่ดูแล สนับสนุน และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกองทุนหมู่บ้าน ในส่วนของแนวทางในการแก้ปัญหาในเรื่องนี้นั้นวันนี้ได้นำเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดและอำเภอ ลงพื้นที่เร่งสอบข้อเท็จจริงว่าใครติดหนี้เท่าไหร่ ส่งเงินไปแล้วเท่าไหร่ เราจะได้เอาข้อเท็จจริงตรงนี้มาสรุปก่อน เมื่อสรุปได้แล้วเราก็จะใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป คาดว่าจะรู้ผลภายใน 2-3 วันนี้
นางวาสนา สมพงษ์ อายุ 58 ปี อดีตคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านหนองเรือ หมู่ 6 ต.ละทายกล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจมาก ที่เห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ความช่วยเหลือ รู้สึกมีกำลังในขึ้นเยอะ รู้สึกมีหวัง ที่จะได้ที่ดินของตนเองกลับคืนมา ซึ่งหลังเป็นข่าวแล้วก็มีชาวบ้านเข้ามาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง
สื่อข่าวได้สอบถามไปยังธนาคารอออมสิน เขตศรีสะเกษ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่มีการยึดทรัพย์ของนางวาสนา เพียงคนเดียว เนื่องจากทางธนาคารมีการสืบทรัพย์ของคณะกรรมการทุกคนแล้ว และมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับคณะกรรมการทั้งชุด แต่เมื่อไม่มีการชำระหนี้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ทางธนาคารจึงได้มีการสืบทรัพย์ของคณะกรรมการทั้งชุด แต่ปรากฎว่ามีเพียงนางวาสนา เพียงรายเดียวที่มีชื่อในทรัพย์สินที่ดิน ทางธนาคารจึงได้ทำการยึดทรัพย์นั้นตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย
โดยสัญญาเงินกู้ของกองทุนหมู่บ้านบ้านหนองเรือ หมู่ 6 ที่มีการกู้กับธนาคารออมสิน มี 2 สัญญา สัญญาแรก ยอดเงินต้น จำนวน 3 ล้านบาท ปัจจุบันคงเหลือยอดหนี้ จำนวน 2.8 ล้าน และอีก 1 สัญญา ยอดเงินต้น จำนวน 1 ล้านบาท ปัจจุบันคงเหลือยอดหนี้ จำนวน 6.5 แสนบาท ส่วนแนวทางในการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นนั้น ทางธนาคารได้มีการชะลอการขายทอดตลาดที่ดินของ นางวาสนา เอาไว้ก่อนแล้ว และให้ติดต่อศูนย์บริหารหนี้ ของธนาคารออมสิน เพื่อทำเรื่องขอปลดภาระหนี้ แยกออกจากคณะกรรมการคนอื่นๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบยอดหนี้ทั้งหมดเพียงคนเดียว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี