ผ่านไปแล้ว วันงดสูบบุหรี่โลกปี 2567 ตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคม ท่ามกลางความกังวลใจที่เพิ่มพูนจากปัญหา “บุหรี่ไฟฟ้า” ที่กลุ่มนักรณรงค์ต่อต้าน ชี้ว่าเป็นภัยร้ายคุกคามสุขภาพและอนาคตของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น เด็ก และเยาวชน มีการติดป้ายรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าทั่วเมือง
ในขณะที่อีกกระแสเรียกร้อง “บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย” เป็นประเด็นร้อนที่เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ เปิดศึกแย่งชิงพื้นที่ทางความคิด วัดใจรัฐบาลเศรษฐา 2
จะเดินหน้าหรือถอยหลัง
ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน การรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้รับคำชมจากองค์การอนามัยโลกนับครั้งไม่ถ้วน คนไทยตระหนักถึงอันตรายของควันบุหรี่ ผลเสียต่อสุขภาพ และผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม อัตราการสูบบุหรี่วันนี้ลดลงเหลือร้อยละ 17.4 คนไทยสูบบุหรี่ไม่ถึง10 ล้านคน
วันนี้ภาพเด็กๆ เยาวชนสูบบุหรี่เริ่มหายไป แต่แล้ว “บุหรี่ไฟฟ้า” ก็เข้ามาแทรกแซง กลายเป็นเทรนด์ใหม่ของคนรุ่นใหม่ด้วยภาพลักษณ์ที่ทันสมัย
บุหรี่ไฟฟ้าแม้จะมีผลการวิจัยและการยอมรับจากหน่วยงานสาธารณสุขในต่างประเทศว่ามีสารพิษที่เป็นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน แต่อีกฝ่ายยกผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันว่า อันตรายต่อสุขภาพไม่แพ้กันสารเคมีอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ หัวใจ สมอง และระบบสืบพันธุ์ การใช้งานที่ผิดวิธีอาจนำไปสู่การระเบิดและไฟไหม้
ตกลงใครผิด ใครถูก ประชาชนสับสน นำเข้ามาตรวจสอบตามกฎหมายก็ไม่ได้ บุหรี่ไฟฟ้าถูกแบนมา 1 ทศวรรษ แบนแล้ว แบนอยู่ และยังจะแบนต่อไปหรือไม่
กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ สคบ. พยายามอย่างหนักในการปราบปรามการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า จับกุมผู้ขาย แต่ดูเหมือนจะไร้ผล สถิติการจับกุมเพิ่มสูงขึ้น แต่จำนวนผู้ใช้ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
ทุกวันนี้ มองไปทางไหนก็พบแต่บุหรี่ไฟฟ้า การแบนไว้ใต้ดินทำให้รัฐสูญเสียโอกาสทางภาษีกรมสรรพสามิตสูญเสียโอกาสในการเก็บภาษีสรรพสามิตจากบุหรี่ไฟฟ้า ก่อให้เกิดช่องโหว่ทางการเงินของประเทศ ไม่ต่างจากธุรกิจใต้ดินอื่นๆ ที่เป็นปัญหาสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของชาติ
แล้วทางออกอยู่ที่ไหน?
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและสังคมเสนอแนวทางแก้ไขหลายประการ เช่น การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง กำหนดบทลงโทษที่รุนแรงกับผู้ลักลอบนำเข้า ผู้ขาย และผู้ผลิต รณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์ หากิจกรรมทดแทนการสูบบุหรี่ไฟฟ้า สนับสนุนยาเลิกบุหรี่แทน ปรับปรุงบริการเลิกบุหรี่ที่เข้าถึงง่าย พัฒนากลไกควบคุมการนำเข้า ควบคุมการนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า
วันนี้เห็นได้ชัดแล้วว่า ปัญหา “บุหรี่ไฟฟ้า” นั้นใหญ่ และแก้ไม่ง่ายอย่างที่คิด
วันงดสูบบุหรี่โลกปี 2567 นี้ เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหา “บุหรี่ไฟฟ้า” ทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล เอกชน ภาคสังคม รวมถึงคณะกรรมาธิการวิสามัญบุหรี่ไฟฟ้าในสภา ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลปัญหานี้โดยเฉพาะ ต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อหาทางปกป้องสุขภาพ อนาคต และเศรษฐกิจของชาติ
ประเทศแบนบุหรี่ไฟฟ้ามาแล้ว 10 ปี แต่ยังไม่มีวี่แววว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะลดลง มีแต่จะเพิ่มขึ้นหรือที่ผ่านมาแก้ปัญหาไม่ถูกจุด? วันงดสูบบุหรี่โลกของไทยปีนี้…อาจเป็นโอกาสอันดีที่จะถอดบทเรียน ทบทวนนโยบายที่ผ่านมาว่าพาประเทศก้าวหน้าหรือถอยหลังเรื่องการลด ละ เลิก บุหรี่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี