เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า มีชาวบ้านใน ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม และหมู่บ้านใกล้เคียง เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 468 หมู่ 5 บ้านคำสว่างน้อย ต.วังตามัว อ.เมืองนครพนม ซึ่งเป็นบ้านของ นางนงลักษณ์ ขันบรรจง อายุ 52 ปี เปิดเป็นร้านชำและขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ท้ายหมู่บ้าน หลังทราบข่าวว่าที่หลังบ้านมีต้นกล้วยประหลาด ออกกลางลำต้นแทงปลีชี้ฟ้า จึงเดินทางไปตรวจสอบตามคำเล่าลือ

โดยด้านหลังร้านชำพบชาวบ้านร่วม 10 คน กำลังแต่งขันธ์ห้ารับโชค นำหมากพลู พวงมาลัย และผ้า 7 สี มาพันรอบโคนต้นตามความเชื่อว่าจะมีโชค โดยมี คุณยายพิสมัย พรหมศาลา วัย 67 ปี กวนจ้ำ หรือผู้นำทางจิตวิญญาณประจำหมู่บ้าน ตามความเชื่อแต่โบราณ เป็นผู้ทำพิธีจุดธูป 16 ดอก ปักไว้ที่ต้นกล้วย

นางนงลักษณ์ เจ้าของร้านชำ กล่าวว่า เป็นต้นกล้วยไข่ไม่ทราบพันธุ์ ได้ขอแบ่งหน่อมาจากเพื่อนบ้าน ปลูกอยู่ข้างริมรั้วประมาณ 1 เดือน ต่อมาช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีอากาศร้อนถึงร้อนมาก ทำให้ต้นกล้วยเหี่ยวเฉา ไม่มีใบโผล่มาแม้แต่ก้านเดียว อาการแบบนี้เรียกว่าใกล้จะตาย จึงย้ายมาปลูกหลังบ้านซึ่งเป็นดินร่วนปนทรายแทน

กระทั่งรุ่งเช้าได้เดินไปที่หลังบ้าน โดยไม่ได้สนใจอะไร พบว่ากล้วยต้นที่ย้ายมาปลูก เกิดปลายโคนเน่าเปื่อย แต่ติดดอกออกผล และแทงปลีออกมากลางลำต้น ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ ลูกสาวจึงถ่ายรูปส่งไปให้ลูกชาย ที่ขายกับข้าวอยู่ จ.สงขลา ดู ก่อนนำลงโลกโซเชียล ชาวบ้านทราบข่าวจึงแห่มาดู และขาดไม่ได้คือการขอโชคลาภ

จากนั้น กวนจ้ำ รวมถึงชาวบ้าน จึงช่วยแต่งขันธ์ห้า จุดธูปส่องตีเลขเด็ดกันตามระเบียบ พร้อมทั้งชี้ไปที่ทะเบียนรถ จยย.พ่วงข้าง ของนางนงลักษณ์ เจ้าของบ้าน ที่ใช้ตระเวนเร่ขายสินค้าตามหมู่บ้าน เรียกว่า รถพุ่มพวง ทะเบียน 1 กช 8593 นครพนม งวดนี้โชคต้องเข้าก้อนใหญ่แน่

ด้าน คุณยายพิสมัย กวนจ้ำประจำหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเคยเห็นกล้วยแทงปลีกลางต้น แต่พบเห็นไม่บ่อยนัก งวดวันที่ 16 มิ.ย.นี้ ขอให้มีโชคลาภก้อนโตกับชาวบ้าน ส่วนเลขที่ได้คือเลข 962 , 629 ส่วนธูปมงคลเสี่ยงท้ายเป็น 2 ตัวคือเลข 98 ชาวบ้านจึงกว้านหาซื้อเลขดังกล่าวมาครอบครองทันที

- 006