การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน เปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ในเส้นทาง Scenic Route สุดโรแมนติก ขับชิว ชมวิวสวย ของทุ่งนาขั้นบันได ท้องฟ้ากว้าง ภูเขาสีเขียวขจี และหมอกฝนสุดลูกหูลูกตา
"วัสสนะฤดู" หรือ "ฤดูฝน" ที่ใครๆ มักกังวลต่ออุปสรรคในการเดินทางท่องเที่ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเดินทางมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นที่สุดแห่งเส้นทางคดเคี้ยวทอดยาวต่อเนื่องจากปาย - แม่สะเรียง นับได้กว่า 4,088 โค้ง ปัจจุบันถนนหนทางได้ถูกปรับปรุงแก้ไขให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ท่ามกลางสายหมอกได้ตลอดสองข้างทาง นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางสวรรค์ของผู้รักการขับขี่ที่ไม่ควรพลาด
ในห้วงระหว่างวันที่ 21-23 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา ทีมแม่ฮ่องสอนท่องเที่ยวพลัส นำโดยนายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายกรวิทย์ ช่วยดู ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าที่ร้อยตรีภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน พ.ต.ท.สุวิทย์ แก้วแท้ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน และนายภานุเดช ไชยสกูล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน Bloggers Influencers สายท่องเที่ยวในพื้นที่จัดกิจกรรมขับขี่จักรยานยนต์ท่องเที่ยวนำร่อง "ท่องเที่ยวเส้นทางสุดสวย ท่ามกลางสายหมอก แห่งวัสสนะฤดู" เส้นทาง ปาย-ปางมะผ้า-แม่ฮ่องสอน-ขุนยวม-แม่ลาน้อย-แม่สะเรียง-สบเมย เพื่อส่งเสริมเส้นทางขับรถเที่ยวหน้าฝน ผ่านเส้นทางโรแมนติค ท่ามกลางสายหมอก
ไฮไลท์ที่น่าสนใจ คือ จุดชมวิวต่างๆ ตลอดเส้นทางขับรถท่องเที่ยว 7 อำเภอ ที่สามารถมองเห็นวิวทัศน์ที่งดงามและชมสายหมอกได้ตลอดเส้นทาง และเส้นทางท่องเที่ยวบนถนนตัดใหม่ที่น่าสนใจ อยู่บนทางหลวงชนบท มส. 3010 เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างบ้านป่าแป๋ อำเภอแม่สะเรียง สู่ บ้านละอูบ อำเภอแม่ลาน้อย รวมระยะทาง 33 กิโลเมตร ซึ่งนับเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเปิดใหม่ผ่านชุมชนชาวละเวือะ กลุ่มชาติพันธุ์ที่โดดเด่นในแง่ของการมีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตเป็นของตนเอง โดยนำเสนอให้กับนักท่องเที่ยวผู้รักการขับขี่ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ และดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์อันน่าหลงไหลตลอดเส้นทาง
นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า กิจกรรมท่องเที่ยวนำร่องนี้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพทางการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เรื่องเส้นทางของถนนที่ปลอดภัยเหมาะกับการเดินทางได้ทุกห้วงฤดู โดยทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังคงรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัย และการควบคุมความสะอาด ทั้งด้านการจัดการขยะ และห้องน้ำสาธารณะตามเส้นทาง และบ้านเรือนของชุมชนต่างๆ เพื่อให้แม่ฮ่องสอน ยังคงเป็นเมือง “หน้าบ้านน่ามอง แม่ฮ่องสอนเมืองแห่งความสุข” ต่อไป
นายกรวิทย์ ช่วยดู ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ยุทธศาสตร์สำคัญทางการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน คือ ธรรมชาติที่สวยงาม และวิถีชีวิตที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นและแตกต่าง โดยการเตรียมความพร้อมของพื้นที่เป็นส่วนสำคัญหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เจ้าบ้านที่ดี” ของคนแม่ฮ่องสอนที่พร้อมต้อนรับและดูแลทุกๆ คน โดยท่องเที่ยและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีแผนต่อยอดการพัฒนาเส้นทางนี้ ให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวสำคัญอีกเส้นทางหนึ่ง โดยมีแผนพัฒนาจุดพักรถ จุดชมวิว เพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กระจายรายได้ให้กับชุมชนรอบข้างได้อีกทางหนึ่ง
ว่าที่ร้อยตรีภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไม่ได้มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวเพียงแค่ช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน มีแผนขยายการท่องเที่ยให้สามารถท่องเที่ยวได้ทุกห้วงฤดู โดยเฉพาะฤดูฝน ถือเป็นอีกหนึ่งฤดู ที่ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถใกล้ชิดกับธรรมชาติและมีสายหมอกที่สวยงามไม่แพ้กับฤดูหนาวเลยทีเดียว และ ททท. มีแผนในการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีต่อการสร้างพลังเครือข่ายท่องเที่ยวจากสื่อมวลชน Bloggers Influencers สายท่องเที่ยวทั้งในและนอกพื้นที่ และยังมีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวหน้าฝนอย่างต่อเนื่อง และเส้นทางบ้านป่าแป๋ - บ้านละอูบ ถือเป็นเส้นทางน้องใหม่ที่อยากนำเสนอให้ทุกท่านได้มีโอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์ท่องเที่ยว ให้ 365 วัน สุขทุกวันที่แม่ฮ่องสอน ที่สามารถเที่ยวได้กี่ครั้งก็สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม
พ.ต.ท.สุวิทย์ แก้วแท้ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ตำรวจท่องเที่ยว มีหน้าที่คอยช่วยเหลือ และกำกับดูแลด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยมีการแบ่งพื้นที่สายตรวจให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจต่อความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยวมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอน
นายภานุเดช ไชยสกูล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า พฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวช่วงหน้าฝนเริ่มเปลี่ยนไป โดยมีเทรนด์ท่องเที่ยวสำคัญเรื่องการเดินทางพร้อมใส่ใจสิ่งแวดล้อม กำลังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการเดินทางเป็นกลุ่มเล็กๆ มากขึ้น และต้องการสัมผัสและรู้จักสถานที่จุดหมายปลายทางนั้นๆ ให้มากขึ้น ไม่เดินทางแบบชะโงกทัวร์เหมือนเมื่อก่อน ซึ่งจะเห็นว่ามีการเสนอขายโปรแกรมท่องเที่ยวหน้าฝนในเส้นทางท่องเที่ยวภาคเหนือเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากเพราะทางเลือกที่หลากหลายสามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของสังคมเมืองใหญ่ๆ และต้องการใกล้ชิดธรรมชาติ สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนอย่างสงบ เรียบง่ายและเป็นกันเอง และจังหวัดแม่ฮ่องสอนเอง ถือเป็นจังหวัดที่ตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้อย่างครบครัน
นอกจากนี้ ทางคณะยังนำสิ่งของและเงินบริจาค มอบให้กับผู้ประสานงาน “สถานีไออุ่น” ณ ด้านหน้าที่ว่าการอำเภอแม่สะเรียง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งครั้งนี้ นับเป็นสถานีไออุ่น ที่ 62 ซึ่ง สถานีไออุ่น เป็น Facebook Fanpage ได้ดำเนินการมากว่า 10 ปี เป็นสื่อกลางในการบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ อาทิ การนำสิ่งของที่มีความจำเป็นมอบให้กับโรงเรียนและชุมชนที่อยู่ห่างไกลและมีข้อจำกัดด้านการพัฒนา เช่น กระติกน้ำแข็ง รองเท้าบูท อุปกรณ์การเรียนการศึกษา เครื่องอุปโภค-บริโภค ถือเป็นกิจกรรมเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ ที่สามารถทำความดีมอบให้กับน้องๆ ในพื้นที่แม่ฮ่องสอนให้สามารถเข้าถึงโอกาสทางด้านปัจจัย 4 และการศึกษา เป็นกำลังสำคัญต่อการพัฒนาประเทศไทยของเราต่อไป
สอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน
4 ถ.ราชธรรมพิทักษ์ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 58000
โทร 053-612982-3 (วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.)
Facebook : ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน TAT.Maehongson
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี